ไม่สมบูรณ์ แต่พูนสุข

   ความสุขคืออะไร เราทุกคนคงเคยตั้งคำถามและตามหากันมาโดยตลอด แต่ละคนก็มีวิธีตามหา

ความสุขแตกต่างกันตามปัจจัยที่พอจะเอื้ออำนวยให้ได้ บางคนอาจจะหาได้เร็ว บางอาจช้าและ

บางคนก็อาจไม่เคยพบกับความสุขเลยตลอดชั่วชีวิตก็เป็นไปได้  

   หลายๆคนนิยามพื้นฐานอย่างแรกของการมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขไว้ที่ การมีทุกอย่างเพียบพร้อม

ครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าคุณไม่ครบถ้วน สมบูรณ์ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความสุข หลังจากอ่านเรื่องของ

พวกเขาเหล่านี้แล้วคุณอาจจะพบว่านั่นอาจไม่จริงเอาเสียเลย และหลายครั้งที่ความไม่สมบูรณ์กลับ

เป็นฝ่ายมอบความสุขให้กับผู้อื่นได้อีกด้วยนะครับ…..

  (1) เอลลี่ ชาลลิส ต้องสูญเสียมือทั้งสองข้าง และขาทั้งสองข้างไปด้วยกันทั้งคู่ ด้วยสาเหตุจาก

ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบในวัยเด็ก ทำให้ต้องกลายเป็นเด็กพิการ เธอต้องถูกตัดขาและมือทั้งสองไป

ด้วยความจำเป็นเพื่อรักษาชีวิตของเธอเอาไว้ และหลังจากนั้นมาเธอก็ต้องฝึกการหยิบจับสิ่งต่างๆ

ด้วยมือที่ไร้นิ้ว และต้องหัดเดินด้วยขาเทียม จนวันนี้เอลลี่สามารถเดินได้ด้วยขาเทียม

และใช้ชีวิตได้เช่นเดียวกับเด็กหญิงอื่นๆ

    แม่ของหนูน้อย ชาร์ล็อตต์ น็อตต์ แถบไม่เหลือความหวังอะไรอีกเลย หลังจากพบว่าลูกของเธอ

ได้ป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบและต้องสูญเสียแขนและขาไปเช่นเดียวกัน จนวันหนึ่งได้มีผู้

แนะนำให้เธอรู้จักกับครอบครัวของเอลลี่ ความหวังและความสุขของเธอก็กลับมาอีกครั้ง

เด็กน้อยทั้งสองไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากในการทำความรู้จักกัน พวกเธอสนิทสนมกันตั้งแต่แรกเจอ

หลังจากที่ต่างคนต่าง โบกมือที่ไร้นิ้วมือเพื่อทักทายกันและกัน ความผูกพันก็เริ่มต้นขึ้นและดูเหมือน

ทั้งคู่จะมีความสุขที่สุดเมื่อได้พบกับคนที่มีภาวะพิการเช่นเดียวกัน  คุณแม่ของหนูน้อยชาร์ล็อตต์

ได้บอกว่า ชาร์ล็อตต์มีความสุขมากที่ได้เจอกับเอลลี่ที่มีลักษณะเหมือนกัน เธอแสดงให้ชาร์ล็อตต์

ได้เห็นว่าเธอสามารถเดินไปไหนต่อไหนได้เช่นคนปกติด้วยขาเทียม จนทำให้ชาร์ล็อตต์อยาก

จะทำได้อย่างเธอบ้าง "หนูชอบขาของเอลลี่มากค่ะ และไม่อยากรอที่จะมีขาเทียมเป็นของตัวเองแล้ว

หนูอยากวิ่งเล่นกับเอลลี่แล้วค่ะ"

เมื่อแม่ของชาร์ล็อตต์ได้มาเห็นเอลลี่ ที่สามารถวิ่งไปไหนมาไหนได้เหมือนเด็กทั่วไป เธอก็กล่าวว่า

“เป็นสิ่งพิเศษมากๆ สิ่งนี้ทำให้ฉันมีความหวังว่า ชาร์ล็อตต์จะเติบโตขึ้นมาเหมือนเด็กๆทั่วไป

และฉันยังคงรู้สึกขอบคุณในทุกๆ วันที่ชาร์ล็อตต์ยังคงอยู่กับฉัน การได้มองเห็นชาร์ล็อตต์เล่นกับ

เอลลี่อย่างมีความสุขนั่นเป็นปาฏิหาริย์สำหรับฉันจริงๆ”

เอลลี่ไม่มีทั้งแขนและขา แต่เธอก็สามารถมอบความสุขและความหวังให้กับคนอื่นได้

   (2) นิก วูยิชิช (Nick Vujicic) ชาวออสเตรเลีย เขาเกิดมาไม่สมบูรณ์ทางกายเหมือนกับคนอื่นๆ

เขาไม่มีแขนทั้งสองข้าง มีแต่ขาสั้นๆ ข้างเดียวที่มีนิ้วโป้งโผล่ออกมาสองนิ้วเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้

ปล่อยให้ชีวิตเดินไปตามโชคชะตา และไม่พร่ำบ่นถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขา

มุมมองที่น่าสนใจของนิค คือ การที่เขาคิดเสมอว่า ความบกพร่องทางร่างกายของเขา คือการทดลอง

ที่พระเจ้ามอบให้ แม้ว่าคนในครอบครัวของเขาต่างเสียใจที่เขาเกิดมาด้วยสภาพนี้ แต่เขากลับทำให้

ทุกคนได้เห็นว่า เขาเป็นเหมือนคนปกติ มีร่างกายแข็งแรง เพียงแต่ไม่มีแขนและขาเท่านั้น และในที่สุด

เขาก็ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างสวยงาม เขาสำเร็จการศึกษา ได้ปริญญาตรีด้านการค้าเอกการวางแผน

ด้านการเงินและบัญชี มาได้สำเร็จ และเป็นการลบคำสบประมาทของใครหลายๆคนที่มองว่า

เขาไม่น่าจะทำได้ "นิค" ได้เดินทางไปบรรยายสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก

เขาพยายามปลุกให้ทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีกครั้งหนึ่ง โดยมักพูดเสมอว่า หากวันหนึ่งใครก็ตามที่ล้ม

และไม่มีกำลังจะลุกขึ้น ไม่มีความหวังเกิดขึ้นอีกแล้ว ขอให้หันกลับมามองชีวิตของเขาที่ไม่มีแขน

ไม่มีขา ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดว่าเขาจะลุกขึ้นมาได้ แต่เขาก็พยายามที่จะลุกขึ้นมา ครั้งแรก ครั้งที่สอง

หรือแม้จะเป็นครั้งที่ร้อย หากพยายามทำและไม่ท้อแท้ ทำให้ ณ วันนี้เขาสามารถลุกเดินได้สำเร็จ

"นิค"ไม่มีทั้งแขนและขา แต่เขาก็สามารถมอบความสุขและความหวังให้กับคนอื่นได้

   ยังมีอีกหลายๆคนนะครับที่เป็นตัวอย่างของ ความไม่สมบูรณ์ แต่ก็พูนสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี

ที่ตาบอด จิตกรที่ไม่มีแขน แต่พวกเขาก็มีความสุข  เราอาจพบเห็นพวกเขาเหล่านี้ได้ในหลายๆ

ที่บนโลกใบนี้ เพียงแต่เราอาจไม่ได้สังเกตเท่านั้นนะครับว่า แท้จริงแล้วความสุขไม่ได้จำเป็นต้อง

เกิดมาจากการมีหน้าตา ร่างกายที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ หรือทรัพย์สินที่มากมายเพียงเท่านั้น

การมีความสมบูรณ์ทางจิตใจต่างหากครับ ที่จะนำความสุขมาให้เราอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ

ขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตครับ