....นาฬิกาบอกเวลาแค่เข็มเดียว....

  หากจะกล่าวถึงปรจารย์เซ็นในประเทศไทยในยุคแรกๆ คงจะหนีไม่พ้นที่จะเอ่ยถึงท่านพุทธทาสภิกขุ นะครับ ใช่แล้วครับ ท่านพุทธทาสจริงๆ ท่านอ่านไม่ผิด หลายๆคนคงสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับท่าน ท่านเป็นพระนิกายเถรวาทนี่นา!!

จริงแล้วท่านพุทธทาสเป็นพระสงฆ์ที่ก้าวข้ามผ่านลัทธินิกาย ความเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเถรวาท มหายาน เซ็น หรือไม่เซ็น และเข้าถึงแก่นของพระพุทธธรรมอย่างแท้จริง คำว่าพุทธสำหรับท่านแล้ว มีแค่คำว่าพุทธแท้หรือพุทธเทียมเท่านั้นครับ สำหรับความเชื่อลัทธินิกายต่างๆนั้น ไม่ได้มีบัญญัติมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลนะครับ คนเรามาตั้งขึ้นและแบ่งแยกกันขึ้นเอง จนบางครั้งสิ่งเหล่านี้ ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมอย่างมากมาย ท่านพุทธทาสเรียกว่า ภูเขาแห่งพุทธธรรมครับ(เอาไว้ผมจะเขียนเรื่องนี้ต่อนะครับ)

                                                             

 ท่านพุทธทาส เป็นหนึ่งผู้เขียนและแปลหนังสือเกี่ยวกับเซ็นในยุคแรกๆ ยกตัวอย่าง เช่น สูตรของเว่ยหลาง ฮวงโป นิทานเซ็นต่างๆ หรือแม้แต่โรงมหรสพทางวิญญาณที่จัดแสดงภาพปริศนาธรรมอันโด่งดัง ก็ล้วนแต่แฝงไปด้วยความเป็นเซ็นครับ โดยท่านมีแนวคิดว่า หากเราเปิดใจกว้างพอ ก็จะสามารถนำประโยชน์จากศาสนา นิกายอื่นๆ มาใช้ในการอบรมและพัฒนาสังคม ให้เกิดความสงบสุขได้ โดยไม่จำเป็นต้องแบ่งเชื้อชาติ ศาสนาครับ มีเรื่องราวดีๆมากมายจากท่านที่ผมอยากเขียนถึงครับ เอาไว้ค่อยว่ากันต่อนะครับSmiley

  อ่านๆมาเรื่อยท่านคงจะคิดในใจว่า ไหนล่ะนาฬิกาที่ว่า ครับเรื่องก็มีอยู่ วันหนึ่งผมได้มีโอกาสตรวจรักษาพระภิกษุท่านหนึ่ง ท่านมาด้วยอาการปวดศีรษะมาก วันนั้นผมได้รับการโทรมาปรึกษาในช่วงเย็นมาก ผมเองก็กำลังจะต้องไปอยู่เวรอีกที่หนึ่ง แน่นอนครับ ผมไปด้วยความหิว ความร้อน(ตึกสงฆ์ต้องเดินไปไกลอยู่น่ะครับ) และกังวลว่าจะไปอยู่เวรต่อไม่ทัน

ไปถึงผมซักประวัติและตรวจร่างกายหลวงพ่อตามปกติ แต่ใจก็ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวน่ะครับ มัวคิดถึงเรื่องดังกล่าว ดูนาฬิกาข้อมือบ่อยๆ

หลวงพ่อเห็นผมเป็นอย่างนั้น ท่านก็เลยถามผมว่า

"กี่โมงแล้วล่ะโยมหมอ"

"อ๋อ ห้าโมงเย็นแล้วครับหลวงพ่อ" ผมตอบไปตามปกติ

"จริงหรอโยม" ท่านถามใหม่ พร้อมกับทำเสียงเข้มขึ้น

ผมงง แล้วตอบไปว่า "จริงครับหลงพ่อ ห้าโมงแล้วครับ" ผมยิ้มให้แบบงงๆเล็กน้อย "โยมดูอีกทีสิ ห้าโมงจริงหรือ"

ผมยังไม่ทันตอบอะไร ท่านก็ยิงคำถามต่อทันทีว่า

"โยมดูเข็มไหนล่ะ เข็มนาฬิกา มีตั้งสามเข็ม สำหรับหลวงพ่อ หลวงพ่อดูแค่เข็มวินาทีท่านั้นล่ะ เพราะมันบอกเวลาในความเป็นปัจจุบันมากที่สุด เพราะฉะนั้น ที่หลวงพ่อถามซำดู ก็แค่อยากจะให้หมอ ให้ความสำคัญกับเข็มวินาทีให้มากขึ้นนะ เพราะมันนำเรากับมาอยู่ในปัจจุบันได้ดีที่สุด สองเข็มที่เหลือน่ะ ส่วนใหญ่บอกอดีตมากกว่านะ หมอว่ามั้ย" 

ผมเองพอนึกได้ ก็รู้สึกเหมือนกับคนสะดุ้งตื่นขึ้น หลังได้ยินนาฬิกาปลุก รู้สึกเหมือนพึ่งมาที่นี่ใหม่ๆ ความกังวลต่างๆมันก็หายไปเองครับ

นี่เราลืมปัจจุบันขณะไปจริงๆนี่นา เอาความทุกข์ในอนาคตมาใส่ตัว ผมขอบคุณหลวงพ่อที่เตือนสติครับ ต่อไปนี้ผมคงต้องให้ความสำคัญของเข็มวินาทีมากขึ้นซะแล้วครับSmiley

                             

 




Create Date : 13 กันยายน 2555
Last Update : 13 กันยายน 2555 23:29:24 น.
Counter : 2632 Pageviews.

7 comments
  
ชอบบทสนทนาระหว่างคุณหมอกับหลวงพ่อมากๆเลยครับ
ขออนุญาตแอดบล้อกคุณหมอด้วยเลยนะครับ
ชอบบล้อกคุณหมอมากเป็นพิเศษ
ถูกใจกับเรื่องเซ็นครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:8:35:41 น.
  
หลวงพ่อลึกซึ้งมากครับคุณหมอ
ลงเรื่องท่านพุทธทาสภิกขุ แล้วอย่าลืมชวนลุงนะครับ บล็อกลุงก็มีอะไรเล็กน้อยไว้เตือนสติบ้าง ขำขำบ้าง
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:14:52:33 น.
  
ขอบคุณครับคุณหมอ
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:17:15:55 น.
  
ขอบคุณมากครับ
โดย: หมอหว่อง (หมอหว่อง ) วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:17:16:36 น.
  
หมื่นตาตอนเก่า
ผมลงเอาไว้ในกรุ๊บบล้อกหมื่นตา
มีสองร้อยกว่าตอนแล้วล่ะครับคุณหมอ

ตอนใหม่อีก 20 กว่าตอน
กำลังจะนำมาลงในบล้อกให้ได้อ่านกันครับ

ขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่ชอบหมื่นตา


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:17:25:22 น.
  
ขอบคุณมากครับ ได้อ่านหมื่นตาเพลินเลยทีนี้
โดย: หมอหว่อง (หมอหว่อง ) วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:20:29:51 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับคุณหมอ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:6:43:02 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหว่อง
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30