|
หน้ากาก..ดอกหญ้า ตอนสอง
(ต่อจากความเดิม) ก่อนจะกลับจากงานเลี้ยง ฟ้าใหม่บอกฉัน พรุ่งนี้เธอมีความลับสำคัญจะเล่าให้ฉันฟัง ฉันรับปากว่าจะไปหาเธอที่บ้าน เอ! ฉันคิด คงเป็นเรื่องผู้ชายทีกำลังมาจีบฟ้าใหม่ หรือเธอจะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาแล้ว อาจเป็นเรื่องที่อีตาประพจน์สามียัยมาริสาที่มาก้อล้อก้อติก เธอเหมือนที่ทำกับฉัน โอ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งไปกันใหญ่ ไว้พรุ่งนี้ค่อยรอฟังจากเธอก็แล้วกัน
วันนี้เป็นวันหยุดฉันอาบน้ำแต่งตัวไม่ต้องสวมหน้ากากใด ๆ ขับรถไปหา ฟ้าใหม่ตอนสาย ๆ ฟ้าใหม่ซื้อบ้านเดี่ยวอยู่แถวชานเมือง เธออยู่กับพี่สาว และแม่ ซึ่งต่างกับฉันที่อยู่ตัวคนเดียว เพราะแม่ของฉันยังหวงแหนอาณาเขตที่บ้านเกิดไม่ยอมมาอยู่กับฉันซะที ฉันเลยได้แต่ส่งเงินก้อนโตที่ได้จาก น้ำพักน้ำแรงในแต่ละเดือนไปให้แม่ปลูกบ้านหลังใหม่ แทนบ้านเก่าที่ซ่อมซ่อเต็มที
ฉันมาถึงบ้านเธอได้สักพัก ฟ้าใหม่กุลีกุจอรีบจูงมือฉันขึ้นไปบนห้องนอนของเธอ ฉันเริ่มสงสัยมันคือความลับอะไรกันที่ฟ้าใหม่ ดูตื่นเต้นจนออกนอกหน้า เธอให้ฉันนั่งรอที่เตียง พลางเปิดลิ้นชักในตู้เก็บของและบรรจงหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาอย่างทะนุถนอม ฉันเห็นแวบแรกรู้สึกคลับคลายคลับคลา แต่เริ่มแน่ใจ เมื่อเห็นเจ้าสิ่งนั้นชัดเจน ฉันรู้สึกตกใจที่ได้เห็นแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ เพราะมันคือหน้ากากแบบเดียวกับฉัน เพียงแค่มันต่างตรงหน้าตาเท่านั้นเอง ฟ้าใหม่ตื่นเต้นที่จะเล่าให้ฉันฟัง เธอบอกเพื่อนในแผนกเพิ่งบอกความลับกับเธอว่า คนในบริษัทแทบจะใส่หน้ากากแบบนี้ทุกคน
เพราะมันจะทำให้ธาตุแท้ของตัวเองเปลี่ยนไป สามารถเข้ากับคนอื่นได้แม้จิตใจจะไม่ยอมรับ และมันจะทำให้สามารถยิ้มได้แม้จะเกลียดใครก็ตาม และจะสร้างความเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริหารระดับสูงด้วยการ เลียแข้งเลียขาประจบประแจ้งได้โดยไม่สะทกสะท้านต่อสายตาใคร แต่ฟ้าใหม่เธอบอกจุดประสงค์ของเธอไม่ได้ต้องขนาดนั้น เธออยากใช้ม้นแค่ทำให้เธอไม่ต้องเสียใจเวลาที่เธอถูกใครดูถูกเรื่องความใสซื่อของเธอ เธออยากเป็นคนใหม่ที่ไม่สะทกสะท้านและทนได้กับเรื่องไร้สาระบางเรื่อง ที่คนเอามากรอกหูให้เธอเห็นด้วยทุกวัน เพราะทุกวันนี้เธอได้แต่เก็บความเครียดไว้กับตัวต้องมาระบายออกที่บ้านด้วยการร้องไห้คนเดียวบ่อย ๆ ฉันเพิ่งเข้าใจว่าผู้คนที่อยู่รายล้อมตัวฉันในบริษัท จะมีสักกี่คนที่ไม่ได้ใส่หน้ากากแบบนี้ มิน่าแม้แต่มาริสาก็ยังสวมหน้ากากใส่ฉัน เธอถึงได้ตีสองหน้าเก่งนัก
ฟ้าใหม่เธอเพิ่งจะรู้จักมันและจะลองใช้มันในวันทำงานที่จะมาถึง เธอคะยันคะยอให้ฉันหามาใช้ เธอรู้แหล่งที่มา มันมีมากมายกว่าที่ฉันคิด ไม่ใช่แค่คุณยายบนดอย แต่ตอนนี้มันกระจัดกระจายอยู่ทุกมุมเมือง เพียงแต่ใครใคร่จะไขว่คว้าเอามาครอบครอง
ฉันเพิ่งมองเห็นสิ่งหนึ่ง คือ ทุกคนล้วนใส่หน้ากากสังคม เข้าหากัน แม้แต่ตัวฉันเอง แล้วจะมีใครอีกที่ฉันจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาบนโลกใบนี้ หลังจากกลับมาจากบ้านฟ้าใหม่ ฉันตัดสินใจลางานกลับไปเยี่ยมแม่สองสามวัน ฉันขับรถไปถึงบ้านเกือบเย็น เห็นแม่ยิ้มรับพร้อมอ้อมกอดอุ่น ๆ เล่นเอาฉันน้ำตาซึม เกือบร้องไห้ให้แม่เห็น แม่เตรียมกับข้าวที่ฉันชอบไว้หลายอย่าง น้าและอา ญาติที่อยู่ละแวกนั้นต่างก็แวะมาทักทาย เมื่อรู้ว่าฉันกลับมาเยี่ยมบ้าน ฉันเห็นรอยยิ้มของทุกคน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า จะมีไหมที่คนแถวนี้จะหาซื้อหน้ากากมาใส่เหมือนก้บฉัน แต่ฉันคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะความเอ็นดูที่ฉันเคยได้รับเมื่อยังเด็กกับตอนนี้ จากน้าและอาของฉันไม่มีเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
ฉันนอนกอดแม่อยู่สองคืน รุ่งเข้าต้องเดินทางกลับ แม่สังเกตุเห็นท่าทางที่ไม่ค่อยสบายใจของฉัน แม่บอกฉันก่อนจากมาว่า ถ้ามันเหนื่อยนักก็กลับทำงานที่บ้านเรานะลูก ถึงแม้มันไม่โก้หรูเหมือนอยู๋ในเมือง แต่มันก็ไม่อดตาย มีข้าวกิน มีที่ให้นอน แค่ไม่มีสีสรรจากแสงไฟเหมือนในเมืองหลวง ฉันอดอมยิ้มไม่ได้ แม่สั่งฉันยังกับเนื้อเพลงที่ฉันเคยฟังตอนเด็ก ๆ
วันนี้ฉันเจอฟ้าใหม่ก่อนเข้าประชุม หน้ากากอันใหม่ของเธอทำให้เธอดูสดใสสวยขึ้นอย่างน่าค้นหา การพูดจาและกิริยาที่เปลี่ยนไป ทำให้หลายคนอดทักเธอไม่ได้ แต่กลับฉันเธอยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะภายใต้หน้ากากอันนั้น เราต่างรู้ดีถ้าเราคิดต่อใครอย่างจริงใจ มันจะไม่ส่งผลอะไร มากนัก
บ่ายนี้ หัวหน้าแผนกจอมหัวงูของฉัน มีนัดให้ฉันออกไปเสนองานกับลูกค้าพร้อมเขา ฉันต้องนั่งรถไปคันเดียวกับเขา และยังไม่วายที่ประพจน์ จะมาเกาะแกะ ถูกเนื้อต้องตัวฉันนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อหากำไรจากฉันบนรถ ฉันได้แต่เก็บความขุ่นมัวที่จวนจะเดือดเอาไว้ภายในจิตใจ เพราะลูกค้ารายนี้เป็นรายใหญ่ที่ฉันอยากได้ และมันจะทำให้ฉันได้ค่าคอมมิชชั่นก้อนโตทีเดียว หลังการเจรจาต่อรองและลูกค้าตกลงทำสัญญากับบริษัท
ประพจน์ดีใจมาก เพราะมันมีผลทำให้เขามีโอกาสเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานในปีนี้ เขาจึงขอเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้กับฉัน ด้วยการขอพาฉันไปเลี้ยงข้าวเย็นที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง โดยทีแรกเขาบอก มาริสาจะตามมาสมทบภายหลัง ฉันจึงตกลงไปอย่างขัดไม่ได้
ประพจน์เอาใจฉันด้วยการเปิดไวน์ให้ฉันดื่ม โดยปกติฉันจะชอบไม่ดื่มไวน์มากนัก เพราะมันทำให้ฉันเมาง่ายเกินไป แต่เพื่อเป็นมารยาท ฉันก็จิบไปพลางรอมาริสาภรรยาของเขามาร่วมโต๊ะด้วย ผ่านไปจนถึงสองทุ่มยังไม่มีวี่แววของมาริสา เขาอ้างว่าเธอโทรมาบอกว่าติดธุระ อาจตามมาถ้าไม่ดึก เกินไป ให้ฉันกับเขากินตามสบาย ในใจฉันไม่เชื่อหรอก ว่าคนอย่างมาริสา จะแสนดีขนาดนั้น ไม่นานนักฉันจึงขอตัวกลับ และก่อนกลับฉันโทรหา ฟ้าใหม่เพราะอยากให้เธอรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน กับใคร หากมีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน เธอจะได้รู้เป็นคนแรก
(ติตตามตอนจบในตอนต่อไป)
Create Date : 27 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2552 22:01:05 น. |
|
3 comments
|
Counter : 412 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
เป็นนักเขียนอีกคนแล้ว เดี๋ยวไว้จะแวะมาอ่านอีกนะคะ
็Happy Happy.