|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ฤา....โลกจะสูญสิ้น
สืบเนื่องมาจากที่ทำงานเกี่ยวกับ ต้นไม้ และธรรมชาติ มานาน รู้สึกในทุก ๆ วันว่า เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน อากาศร้อน และ แสงแดดในแต่ละวันแผดเผามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ทำงานอยู่กับ ลม ฟ้าอากาศ มาหลายปี ก็เกิดอาการผิวแดงแสบร้อนเหมือน ผิวจะไหม้ก็ตอนปีนี้ ประกอบกับเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ สร้างความเสียหายให้กับประเทศต่าง ๆ ก็ทำให้ เริ่มใส่ใจข้อมูล เกี่ยวกับโลกใบนี้มากขึ้น
วันนี้ก็เกิดพายุฤดูร้อนอีก มีฝนฟ้าคะนอง ภาพที่ถ่ายเป็นเวลาเที่ยง ฟ้าในกรุงเทพฯ กับมืดมิด มันอะไรกันเนี่ย
เรื่องโลกร้อนไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องเดิม ๆ ที่ปลุกกระแสกันทุกปี แล้วก็เงียบไป เรื่องปี 2012 ที่ว่ากันว่าโลกจะแตก ก็เป็นกระแสมา ระยะหนึ่งแล้วก็ผ่านไป เพราะมันยังมาไม่ถึง แต่........
จากเหตุการณ์ที่กำลังเริ่มเกิดขึ้น มันน่าศึกษาไม่น้อย เฮติแผ่นดินไหวรุนแรงทั้งที่ไม่เคยเกิด - 27 กุมภาพันธ์ เกิดแผ่นดินไหวที่ ชิลี - 13 มีนาคม (เสาร์ที่ผ่านมา ) แผ่นดินไหวที่ อินเดีย 5.6 ริกเตอร์ และที่พม่า แผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์ - 14 มีนาคม (อาทิตย์ที่ผ่านมา) แผ่นดินไหวที่ทางตะวันออก เฉียงเหนือของญี่ปุ่น ใกล้ชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิม่า 6.6 ริกเตอร์ และ ที่ อินโดนีเซีย ใกล้ ๆ บ้านเราอีก 7 ริกเตอร์ - ข่าวล่าสุดเมื่อเช้า เกิดพายุฤดูร้อน และในจีนหิมะยังคงตกหนัก มากที่สุดในรอบหลายสิบปี ทั้งที่ต้องเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ - และไทยเองกำลัง เผชิญกับปัญหาภัยแล้งรุนแรง เขื่อนภูมิพล ระดับน้ำลดลงมากอย่างน่าเป็นห่วง
สองวันเสาร์และอาทิตย์ ข่าวไม่ใหญ่มาก เพราะไม่สร้างความเสียหาย รุนแรง คืนวันอาทิตย์ ได้ดูรายการ Idol ที่เชิญ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น มาเป็นแขกรับเชิญ ท่านเป็นวิศวกรของไทยในองค์การนาซ่าที่ อายุน้อยที่สุด ดูแล้วมาสะดุดกับตอนสุดท้ายที่ท่านบอกว่า เรื่อง 2012 เป็นเรื่องจริงที่มีโอกาศเป็นไปได้สูง จากการศึกษา วิจัย ทางด้านวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์
(ภาพจากองค์การนาซ่า) ขอบคุณเว็บที่ให้ยืมภาพค่ะ
เพราะ ห้วงเวลานั้น วันที่ 21 ธันวา ปีนั้นจะเกิดปรากฏการณ์ พระอาทิตย์ ทางช้างเผือก และโลก จะเรียงตัวตรงกัน ก่อให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรง เกี่ยวโยงกับสนามแม่เหล็ก การเคลื่อนไหวของเปลือกโลก และการเปลี่ยนขั้วโลก และ ในคืนนั้น ปลุกให้ฉันตื่นตัวเรื่อง ปี 2012 ขึ้นมา ก็เลยค้นหาข้อมูลอีกรอบ
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องนี้ไม่ใช่ เรื่องที่ไม่เคยได้ยิน หลายคนที่เข้ามาอ่าน อาจคิดว่ารู้อยู่แล้ว และอาจไม่ เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง แต่มันน่าค้นหาเหมือนกันนะว่ามันจะเกิดขึ้นจริงไหม และที่ค้นหาเอาเองพบว่า มีโอกาสเกิดขึ้นแน่นอน จากหลายนักวิทยาศาสตร์ เช่น อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา และ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เคยบอกไว้ในรายการต่าง ๆ ซึ่งทุกคนจะระบุว่า ในเมืองนอกเค้าตื่นตัวกันนานแล้ว เค้าเตรียมการสารพัด แต่ประเทศไทยยังไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะคิดว่าเป็น เรื่องไม่น่าเกิดขึ้น โลกคงจะคงอยู่ต่อไปตลอดกาล ไม่เกี่ยวกับชีวิตฉัน
ที่เอามาเขียนในบล็อค ไม่ใช่ว่าจะตื่นตระหนกหรือตื่นตูม เพียงแต่ ตอนนี้ เห็นข่าวความร้อนแรงทางการเมือง เศรษฐกิจ ผลประโยชน์ สุดท้ายคือเงินกับอำนาจ เห็นข่าวที่ไม่จบสิ้นของการขัดแย้งของผู้คนทางด้านความคิด และคนก็ยังคงดิ้นรน ร้อนรน เรื่องการอยากได้ อยากมี
จนอาจมองข้าม ข่าวเหตุการณ์ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ และบ่อยขึ้นบนโลก ในแต่ละวัน ซึ่งมีผลต่อชีวิตมนุษย์เรามากกว่าเรื่องอะไรทั้งหมด และถูกละเลยไม่ได้ให้ความสำคัญ ประเทศเรายังไม่ มีระบบเตือนภัยธรรมชาติที่ท้นสมัย แม้แต่ในเมืองหลวง อย่างกรุงเทพฯ ก็ตาม ประเทศที่เขาให้ความสำคัญ ต่อประชากรในประเทศ เค้าค้นคิดพยามยามทำให้ ได้มากที่สุด เพื่อ save ชีวิตและความเสียหาย
เรื่องในบล็อควันนี้ ใครอ่านแล้วไม่เห็นด้วย หรือคิดว่าไร้สาระ ก็แล้วแต่วิจารณญานในการคิด และเข้ามาชม
และสำหรับคนที่หันมาสนใจ เรื่องนี้ ก็ขอให้ลอง searchหาได้ใน เว็ป ต่าง ๆ เกี่ยวกับข่าวปี 2012 หรือ เรื่องขององค์การนาซ่า แกนโลกพลิก 2012 แล้วจะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องราวเล็ก ๆ หรือไม่สำคัญ อีกต่อไป ผลกระทบมันอาจทำให้มนุษย์ชาติ (รวมทั้งเราด้วย) สูญเผ่าพันธ์ เหมือนที่ไดโนเสาร์ บนโลก เคยสูญหายจากโลกจนหมด ด้วยปรากฏการณ์ เดียวกัน
วันนี้และวันต่อไปฉันไม่ได้ตื่นตระหนก หรือ หวาดกลัว เพียงแต่อยากให้เพื่อน ๆ ที่อาจไม่เคยรู้ หรือ พอจะรู้มา บ้างได้ลองศึกษาดูไว้ เพื่อเตรียมพร้อม เมื่อวันใดวันหนึ่ง ประเทศไทยและตัวเราเอง อาจต้องเผชิญกับภัยทาง ธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้น อีกแค่ 2 ปีข้างหน้า
หลังจากนี้ไป สำหรับตัวฉันเอง คงพยายามมีความสุข กับชีวิตในแต่ละวันมากขึ้น ทุกข์กับเรื่องต่าง ๆน้อยลง ใช้เวลากับครอบครัว และคนที่เรารักมากขึ้น แทนการ ทำงานหาแต่เงินเพื่อมาให้ได้มาซึ่งความสุขในอนาคต ที่เรายังมองไม่เห็น และไม่รู้จะได้เห็นหรือปล่าว
และบางทีใครหลายคนอาจใจเย็นลง หันมาทำชีวิต ให้เป็นสุขกับคนที่เรารักในแต่ละวัน แทนการใช้เวลา ไปก้บการทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ได้วัตถุ เงินทอง และความสุขที่คิดว่าจะสร้างไว้รอให้ได้ไปสัมผัส ในอนาคต
ขอขอบคุณ : ภาพโลกจาก web ดีดีที่มีภาพสวย ๆให้ชมค่ะ
Create Date : 17 มีนาคม 2553 |
Last Update : 18 มีนาคม 2553 0:46:31 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1471 Pageviews. |
|
|
|
โดย: mutcha_nu วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:9:10:38 น. |
|
|
|
โดย: Incheon วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:14:30:32 น. |
|
|
|
โดย: thi_noi วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:23:40:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|
จริงๆ เรื่องนี้มันมี 2 ทฤษฎี นะ
แต่ไม่ว่าตัวไหนสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คื
โลกเปลี่ยนแปลง..เกิดหายนะ
กระทบต่อสิ่งมีชีวิตผู้อ่อนแอบนโลก....เหมือนกัน
คราวนี้ก็มีคนคิดต่ออีกว่า
แล้วเราจะรับมือกับมันอย่างไงหละ
ตอนนี้ประเทศอื่นเค้าหันหน้าเข้าหากัน
เพื่อหาทางช่วยเหลือประชากรของเค้าแล้ว
อเมริกามี course ช่วยเหลือตัวเองในภาวะวิกฤต
เด็กต้องว่ายน้ำเป็นทุกคน
มีการออกแบบบ้านที่ยืดหยุ่น
สามารถ protect ตัวเองจากภัยธรรมชาติ
แล้วคนไทยหละ
เราทำอะไรหรือยัง
อย่าว่าแต่เรื่องการมีชีวิตเลย
แค่การรับรู้อนาคต...
การให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีเลย
ที่เห็นก็เหมือนไฟไหม้ฟาง
ไหม้เป็นทีๆ พอให้งบประมาณได้ถูกใช้ไป
มานีเอ้ยยยย
ท่าทางเราจะได้หาทางช่วยตัวเองแล้ว
พึ่งพาอะไรส่วนกลางไม่ได้เลยนี่นา
เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ(มาก)
แต่ด้วยความที่คนไทยรับผอทธิพลตะวันตกเข้าเต็มตัว
เลยมีแนวคิดที่มีภาพเป็นนายของสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ที่มีแต่จะตักตวงใช้ประโยชน์
ความรู้สึกระหว่างคนไทยกับสิ่งแวดล้อมเลยไม่ใช่เพื่อน
พี่น้องที่พึ่งพาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เราพูดมากไปปะ...
ท่าทางจะมากไป อยากให้พูดอีกไปตามได้นะก๊าบบบ
รักนะจุ๊บบบบๆ