|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
อุนจิหมา...เป็นเหตุให้เจอกัน
เมื่อหลายปีก่อน เราไปเปิดร้านขายของแต่งสวนร้านเล็ก ๆ เพิ่งเปิดร้านใหม่ ๆ ได้ประมาณ ไม่กี่เดือน ก็มีแคมป์คนงานมาตั้งอยู่ ไม่ไกลจากร้านนัก อยู่ริมถนน ฝั่งเดียวกัน มีหัวหน้าคนงานมาพร้อม ลูกน้องหลายชุด ไป ๆ มา ๆ อยู่พักใหญ่ เราก็ไม่ได้สนใจอะไร
แต่มีปัญหาอยู่ที่ว่า มันชอบมี อุนจิหมา (ขี้หมา) มากองหน้าร้าน วันละ หนึ่งถึงสองกอง เจอทุกเช้าที่มาเปิดร้าน ช่วงแรก เราเซ็งมาก ต้องเป็นคนเก็บ อึ หมาทุกวัน ทำไปบ่นไป ว่ามันของบ้านไหน ว่ะ
วันหนึ่งก็พลันไปเห็น หมาของคนงานในแคมป์นั้น ชอบวิ่งตามหมาสาว ๆ ข้ามถนนไป ๆ มา ๆ หน้าร้าน และแอบเห็นมันกำลังจะปล่อยของหน้าร้าน ก็ไล่มันไป ไม่ให้มาวิ่งผ่านหน้าร้าน หลังจากนั้น ก็จะคอยสังเกตุ ถ้าเห็นหมาบ้านไหน วิ่งมาแถวหน้าร้านก็จะยืนจังก้า ท้าวสะเอว ทำหน้าดุ ๆ ให้ม้นหนีไป ได้ผลแหะ มันกลัว สงสัยหน้าตาจะโหดได้ใจ เราห่วงเรื่องรถด้วย ร้านมันติดถนน กลัวหมาโดนรถเหยียบ(ตาย) แบบว่าใจบุญ กลัวเลือดมันกระเด็นโดนร้าน (พูดเล่นนนนนนน)
จนวันหนึ่ง เจ้าหมาตัวที่มันชอบวิ่งหน้าร้านก็ไปกับ คนงานที่ย้ายไป ค่อยโล่งใจไปพักหนึ่ง เราก็ดีใจ ที่ไม่ต้องคอยปวดใจกับ อุนจิ กองโต อีกแย้ว
เช้าวันหนึ่ง มันมาอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ตัวเดิม เป็นหมาพันธุ์อะไรไม่รู้โตแล้ว สีน้ำตาล ตัวเตี้ย ๆ ยาว ๆ มันเดินดุ่ม ๆ เข้ามาหน้าร้าน ตอนนั้นเรา กวาดร้านอยู่ มันมายืนทำหน้าเหมือนรู้จัก กระดิกหาง และเดินเข้ามาหา ด้วยความกำลังเซ็ง ว่ามันมีตัวใหม่มาอีกแล้วเหรอเนี่ย ก็ไล่มันไป มันก็ทำท่า รี ๆ รอ ๆ ลังเล เราก็ไล่มันไปจนได้ (จริง ๆ เป็นคนรักหมานะ แต่เบื่อที่ จะต้องทำความสะอาดหน้าร้านทุกวัน วันละหลายกอง) แล้ววันนั้นทั้ืงวันก็ไม่เห็นหน้ามันอีก เราก็เล่าให้แฟนฟังว่า มีหมาหน้าตาประหลาดมาอีกตัวหนึ่งแล้ว ทำท่ารู้จักเราซะด้วย แต่ไล่มันไปแล้วล่ะ ไม่อยากยุ่งกับมัน
ยังไม่ทันไรเช้าอีกวัน มันมาอีกแล้วตัวเดิม แต่เช้านี้ไม่มีอุนจิหมาสักกอง หน้าร้านสะอาด อารมณ์ดีชะมัด พอเห็นเจ้าหมาตัวนี้ พาให้ลมเสียอีกแล้ว เราก็ไล่มันอีก แต่ทีนี้มันไม่ยอมไป นั่งเลย ทำหน้าฉงน กระดิกหางดิก ๆ แล้วเดินเข้ามาร้องงิด งิด ตามไปตามมา เราก็งง ว่า มันเป็นอะไรว่ะ ตรูไม่ใช่เจ้าของนะเฟ้ย ไล่ก็ไม่ยอมไป แถมตีหน้าเศร้า ไปยืนข้างร้าน แอบ ๆ นั่งรอเหมือนหมารอเจ้านายสั่งการ
เราเห็นหน้ามันคราวนี้ก็เลย รู้สึกสงสาร เลยเรียกมันแต่ก็กลัวอยู่ เพราะ หมาใครไม่รู้ ไม่รู้จักซะด้วย ไอ้ที่กลัว เนี่ย กลัวโรคบ้าของตัวเองจะไปติด หมาซะก่อน แต่เห็นมันทำหน้าฉงน เลยถามมันว่า
"รู้จักกันเหรอ ที่นี่เลี้ยงหมาไม่ได้หรอก ไปบ้านแกไป๊ "
ทีนี้มันเลย เข้ามาหาแบบยังกะเราเป็นเจ้าของ เอาหัวมาถูขา ออเซาะ ทำเอาเราแปลกใจ เลยลูบหัวมัน หาของให้มันกิน สุดท้ายก็เลยปล่อยมัน ขี้เกียจไปไล่แล้ว หลังจากนั้น มันก็มาที่ร้านทุกวัน ตอนเย็นเราปิดร้าน กลับบ้าน มันก็เดินกลับไปข้างแคมป์คนงาน ก็เลยรู้ว่าเป็นหมาที่นั่น แต่น่าแปลก ตรงที่ตอนเช้ามันจะรอ พอได้ยินเสียงรถเรามา จะรีบวิ่งออกมา แบบดีใจมาก ทั้งที่ระยะทางก็ห่างกันพอสมควร เรายังไม่ลงรถ ก็กระโดด ดีใจ เหมือนหมาเวลาเจ้าของกลับบ้าน ตอนเช้าพอเจอกันมันไม่ไปไหนเลย อยู่ร้านเรา ยังกะหมาเราเลี้ยงมาเองตั้งแต่เล็ก ๆ นอนเล่น นั่งเล่น เฝ้าร้านด้วย ขี้ประจบประแจง เกินหน้าหมาตัวอื่น
ตอนแรกพอเล่าให้แฟนฟังเค้าก็บอก ระวังมันจะกัดสักวัน หมาใครไม่รู้ พอมันเจอแฟนเรา มันกลับทำท่ารู้จักดีใจซะอีก เค้าก็เลยยิ่งหลงมัน ลืมไปเลย ว่าหมาใครไม่รู้ ตอนนี้ ไม่รู้ ใครเป็นใครแล้ว
เราตั้งชื่อมันว่า "คุณนาย โนบิ" เพราะมันชอบนอนทั้งวัน เหมือน คุณนายโนบิ แม่ของโนบิตะ ในการ์ตูนโดเรมอน เรียกมันว่า "โนบิ" มันทำเป็นรู้เรื่อง กระดิกหาง ชอบชื่อนี้มั๊ง เลยเรียกประจำ น่าแปลก ตรงที่มันไม่เคยอึ หรือ ฉี่ หน้าร้าน หรือบริเวณร้านเลย มันน่ารักมาก ๆ คนแถวนั้นตอนแรกก็ถามว่า หมาเราเลี้ยงเหรอ นึกว่าเอามาจากบ้าน เราก็บอกไม่ใช่หมาเรา หมาใครไม่รู้ที่แคมป์ ไม่เคยเห็นเจ้าของ
แม่ค้าแถวนั้นบอกว่า มันดุนะ เห่าเก่ง เค้าเดินผ่าน หรือเจอมันแถวนั้น ตอนเราไม่อยู่ มันดุ เราก็งง ว่า ดุงัยล่ะ มาอยู่กับเราทุกวัน จะสองเดือน แล้วไม่เห็นเคยเห่าหรือกัดใครเลย แม่ค้าแถวนั้น ก็เอาไปลือกัน ว่าเราเล่นของ (ล้อเล่นน่า) พวกเค้าเอาไปเล่ากันว่าหมาตัวนี้มันแปลก มันทำไมรักเราจังเลย ทั้งที่เพิ่งเจอกัน และโตแล้วซะด้วย
มีครั้งหนึ่ง ญาติเราเค้ารักหมา เลี้ยงหลายตัว แวะมาเยี่ยมที่ร้าน เห็นเรามีหมาก็ดีใจ เห็นน่ารัก โนบิ มันเห่าใหญ่ ไม่ให้เข้าหาเรา จับไม่ได้ด้วย แต่ถ้าเป็นลูกค้ามาที่ร้าน มันไม่เป็นนะ ออกไปต้อนรับ ขอดมนิดหนึ่ง แล้วไปนอน หรือบางทีก็กระดิกหางน้อย ๆ แล้วนั่งรอ
ญาติเราเค้าก็เลยบอกว่า หมาตัวนี้มันบ้าอะป่าว เห่าเค้าด้วย ให้เราอย่าไปยุ่งกับมัน เดี๋ยวมันจะแว้งกัดเอา เราไม่เชื่อเพราะเล่น กับมันทุกวัน แกล้งตบหัวมัน (แบบเล่น ๆ ) จับปากมันบีบ จับแยกเขี้ยว ตรวจฟัน มันก็ไม่เห็นทำอะไรเลย เลยตัดสินใจเลี้ยงมันเป็นหมาตัวเอง ยิ่งเลี้ยง เรากับแฟนก็รักมันม๊าก ๆ
มีครั้งหนึ่ง ช่วงแรก ๆ ที่คลุกคลีกันทุกวัน ตอนเย็นปิดร้านกลับบ้าน ปกติพอเห็นเราขึ้นรถ ร่ำลามันเสร็จ มันจะยืนรอเหมือนยืนส่งแขก แต่วันนั้น พอรถค่อย ๆ วิ่งออกไป มีเสียงคนร้องโหวกเหวก เราเลย มองกระจกหลัง เห็นมันวิ่งตามรถใหญ่เลย ออกมากลางถนน หันกลับไปดูอีกที แบบไม่เชื่อสายตา มันวิ่งแบบสุดชีวิต ตามรถมา ดีว่าไม่มีรถสวนไปมา แฟนเรารีบจอดรถ เราต้องรีบลงไปหามัน บอกให้มันกลับไปรอที่บ้านมัน รอเจ้านายมัน เราเอามันไปไม่ได้ เพราะที่บ้านตอนนั้นเลี้ยงหมาไม่ได้ วันนั้นเป็นวันที่น้ำตาซึม หมาอะไร ทำเอานึกว่าถ่ายเอ็มวี หมาแสนรู้อยู่นะเนี่ย
เราได้มีโอกาส เจอเจ้าของโนบิ จริง ๆ พี่เขาเป็นโฟร์แมนคุมงาน ตอนเช้าออกไปที่หน่วยงาน ตอนค่ำ ๆ ถึงกลับ พี่เขาบอกว่า มีคนแถวน้้นเล่าให้เขาฟังเรื่องเรากับโนบิ พี่เขายังไม่เชื่อ บอกว่า ปกติมันค่อยชอบคนอื่น เขาเอามันมาด้วยจากบ้านนอก ไม่มีคนดูแล เลยพามาทำงานด้วย มันอายุสองปีกว่าแล้ว เค้าบอกเห็นมันรักเรา ยังกะเคยเลี้ยงมันมา พี่เขาบอกรึเป็นเพราะเราคล้ายลูกสาวเขา เป็นวัยรุ่น ตัวขาว ๆ ผมยาว แต่เราว่าไม่ใช่หรอก หมามันจำกลิ่น มากกว่า ถ้ากลิ่นไม่ใช่เจ้าของมันคงไม่สนใจหรอก
เรากลับคิดไปเองว่า โนบิ มันอาจเคยเป็นอะไรที่ผูกพัน กับเรา มาแต่ชาติปางก่อน หรือมันอาจระลึกได้ว่าเคยใกล้ชิดกัน (ชักไปกันใหญ่ อ่านนิยายมากไปหน่อย โฮะ โฮะ)
อยู่กับโนบิได้ประมาณเกือบปี วีรกรรมน่ารักมันเยอะซะบรรยายไม่หมด วันหนึ่ง แฟนพี่โฟร์แมนเจ้าของโนบิ มาเที่ยวจากต่างจังหวัด ก็แวะมาทักเรา เพราะได้ยินสรรพคุณของเราจากพี่โฟร์แมน เค้าก็บอก เห็นแล้วไม่น่าเชื่อ มันรักเราจัง เราเลยแกล้งขอเขา ว่าพี่ขอได้ไหม อยากเลี้ยงมัน เค้าบอกไม่ได้หมาลูกสาวเขา คงให้้ไม่ได้ เราเลยอด อยากได้มันมาเป็นหมาตัวเอง
เช้าวันหนึ่ง วันที่ใจหายสุด สุด พี่โฟร์แมนกับแฟนมาบอกแบบ เกรงใจว่า แวะมาบอกเราก่อน เย็นนี้จะกลับต่างจังหวัดแล้ว จะเอาโนบิกลับไปด้วย เราใจหาย แบบน้ำตาจะร่วง เค้าก็รู้ เค้าบอกว่าตอนแรกจะไปตอนเช้า แต่แวะมาก่อนเห็นมัน อยู่กับเราตลอด ให้เราเตรียมใจ เลยเปลี่ยนไปตอนเย็นแทน วันนั้นเหมือนรู้ โนบิ มันเฝ้าเราทั้งวัน นอนเกาะแข้งเกาะขาตลอด เราอยากเอาหมาไปซ่อน สุด ๆ แต่ก็สงสารเจ้าของเขา เค้าคงรัก เหมือนกัน เลยซื้อของให้มันกิน และฝากเขาไว้ให้มันไปใช้ที่โน่น ตอนเอามันไป เค้าต้องเรียกมันอยู่นาน หลอกล่อ จับมันขึ้นรถ มันไม่ยอมไป เราไม่ออกไปดู กลัวร้องไห้ ขนาดแฟนยังน้ำตาซึม ผ่านไปไม่ถึงเย็น บ่ายกว่า ๆ พี่เขาขับรถผ่านหน้าร้าน
เราเห็นมันอยู่ท้ายรถกับคนงานคนหนึ่งคอยจับมันไว้ มันมองเราใหญ่ เราต้องรีบกลับเข้าไปในร้าน กลัวมันโดดลงรถ แล้วก็แอบเสียน้ำตาไปหลายรอบ คิดถึงมัน ใจหาย รู้เลย เวลาหมาใครที่เค้าเลี้ยงและรัก หายไป มันเศร้าใจจริง ๆ นี่ขนาดรู้ว่ามันไม่ใช่ของเรา แค่มันมาให้เรามีความสุขใจ ไม่เคยคิดว่ามันจะจากกันเร็วอย่างนี้ พี่เจ้าของบอกอยู่จังหวัด อุบล ให้เบอร์โทรไว้ถ้าไปเที่ยวก็ไปนะ แต่เราคงไปไม่ได้หรอก เดี๋ยวทำใจไม่ได้ใหญ่ วันนั้นไม่เป็นอันทำอะไร ปิดร้านเลย และตอนเช้ามาร้าน ก็แสนเศร้า ไม่มีเงาหมาโนบิ มาคอยเรา วันทั้งวัน เฉามาก เหมือนขาดอะไรไปในแต่ละวัน ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะทำใจได้ และชินกับการไม่มีโนบิ
ผ่านไปอีกเกือบครึ่งปี พี่โฟร์แมนแวะมาเยี่ยม บอกโนบิสบายดี มีลูกหลายตัวแล้ว เราเลยถามเขาว่า จริง ๆ แล้วมันชื่ออะไร เขาบอกว่า มันชื่อ จูดี้ แต่เราก็จำมันได้ในชื่อ โนบิ อยู่ดี
บล็อควันนี้ เกิดจากความคิดถึงหมาตัวหนึ่งที่ไม่ได้เลี้ยง ไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ผูกพันธ์มาก และไม่เคยลืมมัน
ก็ดูหน้าตามันซิ มันน่าจะลืมลงซะที่ไหนล่ะ
Create Date : 07 มีนาคม 2553 |
Last Update : 7 มีนาคม 2553 23:36:54 น. |
|
17 comments
|
Counter : 823 Pageviews. |
|
|
|
โดย: plenaka วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:14:27:07 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปูและน้องอินชอน (Incheon ) วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:16:40:14 น. |
|
|
|
โดย: plenaka วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:17:38:02 น. |
|
|
|
โดย: Chefin วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:20:15:12 น. |
|
|
|
โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:19:43:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|