|
|
The Dark Side
วันนี้ไปดู Starwars III มา
จริงอยู่ที่ทุกอย่างย่อมมี 2 ด้าน ความมืดกับแสงสว่าง...
แต่บางทีอาจจะเป็นเพราะความมืดมันเข้มข้นกว่าแสงสว่างนัก จึงสามารถดูดกลืนอะไรได้อย่างง่ายดาย
หรือว่าความมืดไม่ได้อยู่ตามที่แจ้ง มันจึงดูเล้นรับ น่าค้นหา ดึงดูดให้ไปลอง แต่เมื่อได้ลองเข้าไปสัมผัสครั้งหนึ่งแล้ว ก็เหมือนหลงทางอยู่ในอุโมงค์ที่ไร้แสง มันจึงยากนักที่จะออกกลับมาได้
แต่อย่างน้อยก็ยังคงมีแสงอยู่สักที่ ไม่ว่าแสงอันหริหรี่แค่ไหน แสงที่มาจากความเชื่อ และความหวัง
อย่างไรก็ตามตราบที่ยังมีแสงสว่างอยู่ ก็มีผู้ที่ยังเชื่อ และจะคอยรักษาไม่ให้แสงนั้นดับไป เหมือนกับที่แซมเคยบอกกับโฟรโด้ว่า "There's still good deed and that's worth fighting for" (ลืมอะ ประมาณนี้มั้ง) สู้เพื่อความดี ที่เราเชื่อว่ามันยังมีอยู่ในโลกใบนี้
เขียนมาตั้งนาน (แถมรอบ2แบบลืมๆ เพราะพังไปรอบนึง T_T) ก็ไม่ได้จะบ้าหนังอะไรกะเค้าหรอก แต่ดูสังคมมนุษย์มันเหมือนกำลังถูกดูดกลืนไปกับความมืดจริงๆ
เรื่องร้ายๆต่อมนุษย์ด้วยกันเองในสังคมก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากพอแล้ว ไม่อยากจะพูดในตอนนี้ แต่มนุษย์ที่คิดว่าตัวเองสร้างสรรค์ทุกสิ่ง เริ่มคิด และลงมือที่จะทำลายทุกอย่าง หรือแม้กระทั่งคิดว่าตนเองเป็นเจ้าชีวิตผู้อื่น เหนือบรรดาสัตว์ทุกชนิด ด้วยความที่สัตว์มีสมองเล็กกว่า และไม่ได้สร้างอาวุธไว้เพื่อฆ่าทำลายล้าง สัตว์ที่เพียงแค่ใช้ชีวิตเพื่อเติมสีสันให้โลกนี้สวยงาม แต่มนุษย์กลับต้องการเห็นเพียงสีแดงของเลือด
เรื่องของเรื่องคือเมื่อวันก่อนได้ดูข่าวว่ามนุษย์เริ่มจะหันไปกินเนื้ออูฐ .... อูฐ !!! เพื่อนคู่ชีวิตที่ยอมผจญท่ามกลางทะเลทรายกับมนุษย์ไม่ใช่อูฐหรอกเหรอ แต่ก็คงไม่แปลกแล้วมั้ง เพราะเวลาคนที่ไปเดินกลางพายุหิมะ พาหมาไปด้วย พอหมดเสบียง แล้วอากาศก็หนาวแทบจะขาดใจ ก็ยังฆ่าเพื่อนร่วมทางอย่างสุนัข เอาเนื้อมากิน แล้วเอาขนมาห่มได้ ชีวิตแลกชีวิต เพียงแต่ชีวิตหนึ่งก็เกิดมาเพื่อให้ และอีกชีวิตก็คิดเพียงแค่ตนเอง
มีอะไรไม่กินอีกมั้งละ ก่อนหน้านี้ก็นกกระจอกเทศ กินหมา กินแมว กินวัวควาย กินแมลง จะเหลือเวลาอีกนานเท่าไหร่ที่จะมีธุรกิจเนื้อคนขึ้น...
จริงๆ แล้วโครงสร้างฟันของมนุษย์นี่ก็ถูกสร้างให้เป็นแบบบดเคี้ยวเพื่อกินพืช สังเกตได้จากฟันกรามที่แบน ไม่ได้แหลมคมเหมือนในสัตว์กินเนื้อ แต่แล้วทำไม...
วันนี้นั่งรถก็เห็นหมาตัวหนึ่ง นอนอยู่บนกอดอกไม้บนฟุตบาทอย่างสบาย แล้วก็มีรถกะบะแล่นผ่าน แต่ไม่ได้ผ่านเฉยๆ ผ่านแล้วตะโกนใส่หมาตัวนั้น จนมันตกใจสุดขีด รีบลุกด้วยขาหน้า 2 ข้าง แล้วพยายามวิ่งลากลำตัวที่บิดห้อยไปด้านนึงกับขาหลัง 2 ข้างที่ดูไร้เรื่องแรง ถูไปกับพื้น คงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตที่ร่างกายของหมาเป็นแบบนั้น แล้วคนบนรถกะบะเห็นสภาพหมาแบบนั้นก็หัวเราะลั่น แล้วแล่นจากไป มันผิดที่ไม่ดูรถให้ดี หรือว่าผิดที่ความมักง่ายเห็นแต่ตนเองของคนบางกลุ่ม คนที่มีความสุขกับการได้เห็นสัตว์กระเสือกกระสนด้วยความเจ็บปวด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสังคมมันแย่ลง หรือว่าแสงไฟหลากสีในยามค่ำคืนมันสว่างมากจนบดบังแสงสีนวลบริสุทธิ์จากพระจันทร์
| Create Date : 24 พฤษภาคม 2548 |
| Last Update : 24 พฤษภาคม 2548 2:56:20 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 430 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [