ความรักไม่ได้ทำให้คนตาบอด แต่ทำให้เห็นมากขึ้น และเพราะเห็นมากขึ้น จึงยอมที่จะเห็นให้น้อยลง
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
29 ตุลาคม 2550

นิทานคริสตมาส

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นอยู่ครอบครัวหนึ่ง ในบ้านมี พ่อ แม่ และมีนา ทุกคนในครอบครัวของ “มีนา” เป็นคริสเตียนและรักพระเจ้ามาก คุณพ่อมักจะเล่าเรื่องของพระเยซูให้ลูกๆ ฟังและอธิษฐานด้วยกันทุกคืน

ที่โรงเรียน มีนา มีเพื่อนมากมายมีนารักเพื่อนๆ และเพื่อนๆ ก็รักมีนา แต่มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อว่า น้ำตาล มีนามักจะเห็นเธอนั่งซึมอยู่คนเดียวบ่อยๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร และไม่กล้าแสดงออกทั้งๆ ที่น้ำตาลเป็นเด็กที่เรียนเก่ง และเรียบร้อย

มีนารู้สึกสงสารน้ำตาลมากจึงพยายามเข้าไปคุยด้วยและแสดงความห่วงใยอยู่เสมอจนในที่สุดน้ำตาลจึงยอมเล่าเรื่องครอบครัวของเธอให้ฟัง

น้ำตาลเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว ครอบครัวของน้ำตาลยากจนมาก คุณแม่ของน้ำตาลไม่สบายเจ็บออดๆ แอดๆ ไม่สามารช่วยคุณพ่อทำงานหาเงินได้ ส่วนคุณพ่อนั้นทำงานรับจ้างรายได้น้อยจนเกือบจะไม่พอใช้ น้ำตาลสงสารท่านทั้งสองมากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยท่านทั้งสองอย่างไร น้ำตาลคิดมากจนกลายเป็นเด็กซึมเศร้าและเก็บตัวเงียบไม่ยอมพูดจา ไม่ยอมเล่นสนุกสนานเหมือนเด็กคนอื่นๆ

วันหนึ่ง มีนาชวน น้ำตาล ไปเที่ยวบ้านและแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จัก ทุกคนในบ้านนี้ใจดีมากให้การต้อนรับอย่างดีทุกคนในบ้านดูมีความสุขทั้งๆ ที่พวกเขาก็ไม่ได้เงินทองมั่งคั่งร่ำรวยอะไร

วันนี้เป็นวันที่ทุกคนในบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมตกแต่งภายในบ้านให้สวยงามเพื่อต้อนรับวันคริสตมาสที่กำลังจะมาถึง น้ำตาลสังเกตเห็นต้นคริสตมาสสีเขียวต้นไม่ใหญ่มากที่ประดับไปด้วยด้วยไฟกระพริบดวงเล็ก สายรุ้งและของตกแต่งกระจุกกระจิกน่ารักๆ เต็มต้น ใต้ต้นคริสตมาสมีกล่องของขวัญวางอยู่เต็มไปหมด ทุกคนกำลังช่วยกันประดับประดาภายในบ้านด้วยดวงไฟและสายรุ้งกันอย่างสนุกสนาน น้ำตาลมีความสุขมากและช่วยครอบครัวของมีนาจัดบ้านด้วยความเต็มใจ

แต่น้ำตาลก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องจัดเตรียมและตื่นเต้นกันมากมายขนาดนี้จึงถามคุณพ่อว่า “คุณพ่อคะ ทำไมเราต้องจัดงานคริสตมาสด้วยคะ”
“ก็เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูไงคะ” คุณพ่อตอบด้วยความเอ็นดู
“วันคริสตมาส...คือวันประสูติของพระเยซูหรือคะ” น้ำตาลถามต่อด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ใช่ค่ะ” คุณพ่อตอบ “น้ำตาลไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะ” น้ำตาลบอกคุณพ่อด้วยอาการอยากรู้เรื่องราวอย่างเต็มที่ “น้ำตาลอยากฟังเรื่องวันคริสตมาสไหมคะ เดี๋ยวคุณพ่อจะเล่าให้ฟัง”
“อยากฟังค่ะ” คุณพ่อจึงบอกให้เด็ก ๆ เข้ามานั่งใกล้ๆ และเล่าว่า
"ยังมีชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งชื่อโยเซฟและมารีย์
เมื่อฟังจบแล้วน้ำตาลรู้สึกขอบคุณพระเจ้ามากในความรักและความเมตตาที่พระองค์ได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ลงมาบนโลกมนุษย์เพื่อช่วยเราทุกคน น้ำตาลตื่นเต้นอยากจะกลับไปบอกข่าวดีนี้กับคุณพ่อคุณแม่ของน้ำตาลไวๆ เหลือเกิน


เย็นมากแล้วได้เวลาที่น้ำตาลต้องกลับบ้าน คุณพ่อจึงขับรถพาน้ำตาลกลับบ้าน เมื่อไปถึงน้ำตาลได้แนะน้ำให้คุณพ่อของมีนาได้รู้จัก กับคุณพ่อคุณแม่ และเชื้อเชิญให้คุณพ่อเข้ามาดื่มน้ำข้างในบ้าน

คุณพ่อได้เอ่ยชวนน้ำตาล และครอบครัวของน้ำตาลไปร่วมงานคริสตมาสที่บ้าน แต่คุณพ่อของน้ำตาลปฏิเสธว่า “เราคงไปไม่ได้หรอกครับ ครอบครัวเรายากจนเกินไปครอบครัวของผมไม่มีเงินซื้อของขวัญอะไรไปงานได้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะงานคริสตมาสเป็นงานฉลองวันประสูติของพระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียวที่พระเจ้าประทานมาเพื่อช่วยเราทั้งหลายให้รอดจากความบาป
องค์พระเยซูคริสต์เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดสำหรับเรา เราไม่จำเป็นต้องนำของขวัญใดใดมาให้พระองค์เลย” คุณพ่อของมีนาอธิบาย
“งั้นครอบครัวของผมไปได้จริงๆ เหรอ” คุณพ่อของน้ำตาลยังสงสัย
“ได้แน่นอนครับ”
“ตกลงผมจะพาครอบครัวไปร่วมงานวันคริสตมาส เพื่อฉลองวันประสูติขององค์พระเยซูคริสต์”

เมื่อถึงวันคริสตมาส ทั้งสองครอบครัวมาร่วมงานเฉลิมฉลองวันคริสตมาสด้วยความชื่นชมยินดี

ยน 3:16 “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
................................


ยน 3:16 " เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์"




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2550
0 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2550 20:26:16 น.
Counter : 1043 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


หมอกกลางภู
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เธอเป็นคนเงียบๆ เหงาๆ ชอบอยู่คนเดียว ใช้เวลาอยู่กับความเงียบเหงา แต่ถึงอย่างไรหัวใจของเธอก็ยังชอบการเดินทาง ...จึงมักออกเดินทางไกล บ่อยๆ ที่ล้ม แต่ก็ลุกได้อย่างไม่รีรอ
...ทำไมหน่ะหรือ เพราะเธอมั่นใจว่าบนทางที่มืดมน ยังมีแสงสว่างเสมอ และแม้เธอล้มก็จะมีมือค่อยพยุงเธอไว้เสมอ เช่นกัน
เพราะเธอมีความรัก ความหวัง และศรัทธา ดังนั้น เมื่อล้มพันครั้งก็จะลุกทั้งพันครั้ง แล้วเดินต่อไป....