Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
azalea, กุหลาบพันปี

หนาวนี้ azalea ที่บ้านบานแล้ว วันนี้เลยเอาเรื่องของ azalea มาเล่าสู่กันฟังครับ




อาซาเลีย (Azalea,กุหลาบพันปี)

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอาซาเลีย
เนื่องจากว่าอาซาเลียเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีบางส่วนที่อยู่ในเขตร้อน แต่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก และมีอากาศเย็นตลอดปี จึงเป็นการยากที่จะทำการปลูกเลี้ยง ในพื้นที่ราบที่มีอุณหภูมิสูง แต่ก็มีบางพันธุ์ที่พอจะสามารถปรับตัวให้อยู่รอด และเจริญเติบโตผลิดอกได้ในสภาวะดังกล่าว แต่อาจจะต้องมีการปรับสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ความชื้น ฯลฯ เพื่อให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของอาซาเลีย
อาซาเลียเป็นพืชที่มีรากขนาดเล็กและบอบบางมาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลเรื่องเครื่องปลูกเป็นอย่างดี เครื่องปลูกจะต้องอุ้มน้ำได้ดี ร่วนซุย และระบายน้ำได้ดีด้วย เพราะถ้าเครื่องปลูกแน่นมาก รากจะชอนไชในเนื้อดิน หรือเครื่องปลูกไม่ได้ทำให้ไม่เจริญเติบโต ที่สำคัญอาซาเลียเป็นพืชที่ชอบเครื่องปลูกที่มีสภาพความเป็นกรด ตามตำราต่างประเทศนั้น ระดับความเป็นกรดของเครื่องปลูกที่เหมาะสม กับการเจริญเติบโตของอาซาเลียอยู่ที่ 4.5-6.0 ดังนั้นในต่างประเทศ การปลูกเพื่อจำหน่ายมักจะใช้พีทมอสเป็นเครื่องปลูก เนื่องจากว่ามีสภาพความเป็นกรด แต่จากประสบการณ์ เราสามารถหาเครื่องปลูกในบ้านเราแทนได้ ได้แก่ หน้าดินที่มีฮิวมัสสูงผสมกับแกลบ ขุยมะพร้าว ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ส่วนผสมอัตราส่วนเท่าไร ก็ได้ตามที่เมื่อผสมมาแล้วได้เครื่องปลูกที่ร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี และระบายน้ำได้ดีเป็นใช้ได้ครับ

การเลือกซื้ออาซาเลียควรที่จะเลือกอย่างไร
การเลือกซื้ออาซาเลียจากผู้จำหน่ายนั้น จากประสบการณ์ตรงส่วนตัวควรเลือกต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องเป็นต้นที่มีดอกพราวเต็มต้น เนื่องจากว่ายิ่งดอกพราวเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าต้นก็จะยิ่งโทรมมากขึ้นเท่านั้นหลังจากที่ดอกร่วงหมดแล้ว และจะใช้เวลายาวนานมาก เพื่อที่จะบำรุงและฟื้นตัว และส่วนใหญ่เมื่อต้นโทรมแล้วมักจะตายในที่สุด
เพราะเป็นช่วงเวลาที่โรคจะเข้าทำลายได้ง่าย

โรคที่มักเป็นปัญหาที่สุด คือโรคจากเชื้อราทำให้ต้นเหี่ยว และตายจากปลายยอดลงไปสู่ลำต้นและโคนต้น และที่สำคัญมาก คือต้องเลือกต้นที่เครื่องปลูก เป็นวัสดุที่มีอยู่ในประเทศไทยเป็นส่วนประกอบ เช่น แกลบ ขุยมะพร้าว เป็นต้น เพราะเราสามารถแน่ใจได้ว่า เป็นต้นที่ปลูกและเจริญในประเทศไทย ซึ่งมีผลต่อการปรับตัวให้เจริญเติบโตได้ง่ายกว่าที่นำเข้ามาโดยตรง

การปลูกอาซาเลียหลังจากซื้อมาจากร้านค้า
ตำราต่างประเทศเขาแนะนำให้ทำการล้างรากอาซาเลีย โดยให้ถอนต้นอาซาเลียออกจากเครื่องปลูก แล้วทำการล้างเครื่องปลูกออกจากรากโดยใช้น้ำฉีดออกให้สะอาด เมื่อสะอาดแล้ว ตำราแนะนำให้ผึ่งต้นไว้ในร่มซักพักเพื่อให้ค้นและรากแห้ง(หมาด) แล้วค่อยนำไปปลูกในเครื่องปลูก ที่เราได้เตรียมไว้นำไว้ในที่ร่ม
ตามประสบการณ์ส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำการล้างรากแค่ทำการเปลี่ยนกระถาง ผลที่ได้ส่วนใหญ่มักจะมีปัญหา คือต้นจะโทรมและมีอาการของการขาดธาตุอาหาร โดยจะเกิดอาการใบเหลืองแต่บริเวณเส้นใบเป็นสีเขียว (chlorosis) (แต่ตามประสบการณ์ ยังไม่เคยทำการล้างรากก่อนปลูกเลยจึงยังไม่ยืนยันว่า อาการต่างๆที่เกิดขึ้นดังที่กล่าวมานี้จะหายไปหรือไม่ ถ้าล้างรากก่อนปลูก)

แสง
โดยธรรมชาติแล้วอาซาเลียเป็นพืชที่ชอบร่มรำไร และอากาศถ่ายเท โล่งโปร่ง ฉะนั้นสถานที่ปลูกควรต้องมีการพลางแสง ตามประสบการณ์เลี้ยงไว้ข้างเรือนกล้วยไม้ ซึ่งมีการพลางแสงราวๆ 60 เปอร์เซ็นต์ ก็เจริญเติบโตดีทีเดียว แต่มีตำราต่างประเทศได้ให้เกร็ดว่าจริงๆ แล้วถ้าหากว่าปลูกอาซาเลีย โดยให้ได้รับแสงโดยตรงนั้น ก็สามารถทำให้อาซาเลียเจริญเติบโตเร็ว และให้ดอกพราวมากขึ้น แต่ระยะเวลาการบานของดอก อาจจะสั้นลงเนื่องจากแสงแดดจะทำให้สีดอกซีดลง และเหี่ยวเร็วขึ้น ตามที่ประสบการณ์ได้เลี้ยงมา โดยให้ได้รับแสงเต็มที่ตั้งแต่เช้าจนถึงประมาณบ่ายโมง เมื่อเทียบกับต้นที่อยู่ในร่มรำไรพลางแสง 60 เปอร์เซ็นต์ ปรากฏว่าให้จำนวนดอกที่มากกว่า แต่ดอกมักจะออกอาการเหี่ยวตอนกลางวัน ที่แดดร้อนจัดและก็จะกลับเป็นปกติเมื่อถึงตอนเย็น และอาการดอกซีดนั้นก็ประสบเช่นกัน แต่ระยะการบานของดอกนั้นก็ต่างกันราวๆ 1-2 วัน เท่าที่สังเกตได้ แต่เนื่องจากว่าอาซาเลีย ดอกจะทยอยบานในช่อจึงทำให้ไม่ค่อยมีผลต่อภาพรวม(ตามความเห็นส่วนตัว เพราะอาซาเลียที่ปลูกไว้จะเริ่มทยอยบาน ตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงราวๆ ปลายเดือนมีนาคม แต่จะพราวตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป)

น้ำ
อาซาเลียเป็นพืชชอบน้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าชอบอยู่ในน้ำ คือเครื่องปลูกจะต้องมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา แต่ไม่แฉะน้ำ น้ำไม่ขัง เป็นใช้ได้ครับ ถ้าหากว่าปล่อยให้เครื่องปลูกแห้ง จะเป็นอันตรายต่อต้นอาซาเลียมากอาจถึงตายได้ เนื่องจากว่ารากของอาซาเลีย มีขนาดเล็กมาก และถ้าหากเกิดความเสียหาย จากการสูญเสียน้ำมากอาจจะทำให้รากแห้งตาย และมีผลต่อการเจริญของต้นอาซาเลียด้วย

ปุ๋ยและธาตุ
ตามตำราต่างประเทศกล่าวว่า อาซาเลียมักจะไม่ค่อยประสบปัญหาเรื่องธาตุอาหาร ถ้าหากว่าดินที่ปลูกเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ (หน้าดินที่มีฮิวมัสมาก ต่างประเทศใช้หน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ใส่ในหลุมปลูกอาซาเลีย หรือโรโดเดนดรอน) ตามประสบการณ์จะใช้ปุ๋ยออสโมโค้ทละลายช้า 3-6 เดือนแล้วแต่กรณี แต่อาจมีการใช้ปุ๋ยสูตรเสมอเช่น 16-16-16 หรือ 24-24-24 เสริมบ้าง บางครั้ง แต่เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ทดลองใช้พวกน้ำหมักจุลินทรีย์ กับปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก ก็ให้ผลดีเช่นกัน
อาซาเลียมักจะมีปัญหาการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา ใบเหลืองบริเวณรอบๆ เส้นใบแต่เส้นใบยังคงเป็นสีเขียว (Interveinal Chlorosis) อันจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของอาซาเลีย และอาจทำให้ตายได้(โดยประสบการณ์ ต้นที่ประสบปัญหานี้มักจะตายในที่สุด) ปัญหานี้แก้ไขได้โดยใช้เฟอร์รัสซัลเฟตฉีดพ่น หรือรดก็ได้ (ปัญหาการเกิดคลอโรซีสนี้ ไม่เคยทำการแก้ปัญหาโดยการใช้เฟอร์รัสซัลเฟต จึงไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุมาจากการขาดธาตุเหล็กหรือไม่ หรือมาจากสาเหตุอื่น แต่ตำราต่างประเทศก็มีบอกไว้ว่าอาการนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเกิดจากน้ำขัง ดินแน่นเกินไป หรือขาดธาตุโลหะอื่น เป็นต้น)
ตำราต่างประเทศกล่าวว่า อลูมิเนี่ยมจะเป็นพิษต่ออาซาเลียฉะนั้นสารเคมีใดๆ ที่มีส่วนประกอบของอลูมิเนี่ยมควรที่จะหลีกเลี่ยง ในการนำมาใช้กับอาซาเลียโดยเด็ดขาด

การขยายพันธุ์
จากประสบการณ์การขยายพันธุ์โดยการปักชำจะง่ายที่สุด แต่อาจใช้ระยะเวลาในการปักชำนานหน่อย ราวๆ 2-3 เดือน
วิธีการชำ (ดูตามภาพแสดงขั้นตอนด้านล่าง)
1. เริ่มจากกิ่งพันธุ์อาซาเลีย จะต้องเลือกกิ่งที่ยังไม่ทันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตัดให้มีความยาวประมาณ 3 นิ้ว
2. ตัดใบที่ติดอยู่กับกิ่งพันธุ์บริเวณโคนกิ่งออกประมาณ 1 นิ้ว แล้วใบที่เหลือ ให้ตัดออกครึ่งใบเพื่อลดการคายน้ำ
3. ฝานเปลือกบริเวณโคนกิ่งพันธุ์ให้มีความยาวประมาณ 1.5-2.0 ซม. ประมาณ 2-3 รอย เพื่อเพิ่มพื้นที่การเกิดราก
4. นำกิ่งพันธุ์ที่ทำรอยแผลแล้วจุ่มในน้ำยาเร่งรากหรือผงเซราดิกซ์เบอร์ 1
5. เตรียมเครื่องปลูก จากประสบการณ์ สามารถใช้ขุยมะพร้าวที่แช่น้ำ เอาแทนนินออกแล้วผสมทราย หรือจะใช้ขุยมะพร้าวล้วนๆก็ได้ หรืออาจจะใช้พีทมอส ใส่ในกระถางขนาดเล็กๆ แล้วนำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้มาปักชำ กระถางละ 1 กิ่งเท่านั้น (จากประสบการณ ์เคยชำกระถางละหลายๆ กิ่งก็ให้ผลเช่นกันแต่มักจะมีปัญหาเรื่องการเน่าเพราะใบจะซ้อนทับกันและเกิดเชื้อราและเน่า ทำให้ต้นกล้าเน่าตายด้วย) เก็บกระถางเพาะไว้ในถุงพลาสติกใส แล้วมัดปากถุงให้แน่นเก็บไว้ในที่ร่มหรือที่รำไร โดยไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพราะกิ่งพันธุ์อาจจะตายนึ่งได้ ใช้เวลาในการเพาะประมาณ 2-3 เดือน ให้เริ่มคลี่ปากถุงให้อากาศภายนอกเข้าสู่ถุงแต่อย่าเปิดกว้างมาก จากนั้นค่อยๆ คลี่ปากถุงให้กว้างขึ้นทุกวันราวๆ 2 อาทิตย์ แล้วค่อยนำออกจากถุงพลาสติก แต่ต้องระวังเรื่องการกระทบกระเทือน เนื่องจากอาซาเลียมีรากที่บอบบางมาก ฉะนั้นการรดน้ำจะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
6. เมื่อนำต้นกล้าออกจากถุงแล้ว ก็สามารถให้ปุ๋ยได้เลยทันที จากประสบการณ์ จะให้ออสโมโค้ทเพราะสะดวกดี
7. เลี้ยงจนเห็นว่ารากเจริญแน่น และต้นแข็งแรงดีแล้วค่อยเปลี่ยนกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น



Create Date : 05 ธันวาคม 2551
Last Update : 5 ธันวาคม 2551 17:47:06 น. 8 comments
Counter : 6562 Pageviews.

 
สวยจัง ปลูกทีไร ตายทุกที


โดย: redclick วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:18:29:34 น.  

 
ให้ข้อมูลดีจัง แต่ยังไม่เคยปลูกได้แต่ดูต้นที่เขาขายดอกนะเต็มต้นเลย แต่ยังไม่ซื้อ


โดย: เจ๊ดา IP: 114.128.173.177 วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:9:03:53 น.  

 
ขออนุญาตเสริมนิดนึงนะคะ
ต้นนี้ชื่อกุหลาบพันปลีค่ะ เพราะดอกตูมมันพันกันเหมือนหัวปลี แต่พ่อค้า แม่ค้าเรียกเพี้ยนกันจนเป็นกุหลาบพันปี


โดย: Charlotte Russe วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:12:18:45 น.  

 
เป็นข้อมูลใหม่สำหรับผมจริงๆครับ คุณ Charlotte Russe


โดย: endless man วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:22:34:20 น.  

 
เป็นดอกไม้ที่ชอบมาก อยากปลูกจังแต่หาซื้อต้นพันธุ์ยาก


โดย: now IP: 117.47.175.169 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:9:53:07 น.  

 
ซื้อมา 2 ต้นดอกกำลังพราว แต่ถ้าหมดดอกแล้วกลัวไม่รอดจังเลย เพราะดูแล้วเลี้ยงยากจัง



โดย: คนรักต้นไม้ IP: 125.27.255.117 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:22:38 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: Elbereth วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:10:02:17 น.  

 
เคยซื้อมา 4 ต้น
ตอนนี้ตายไปหมดละ เสียดายมากๆ


โดย: ooy (ooybangyom ) วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:12:34:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

endless man
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add endless man's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.