พระเอกนางเอกที่ต้องผูกพันจงรักภักดีกันแบบ ข้ามภพข้ามชาติ
แบบว่าหากมีเหตุต้องกลับมาเกิดเป็นคนเมื่อไหร่ ก็ต้องได้ครองคู่ครองรักกันตลอด
ไม่ว่าชาติที่แล้วจะต้องพลัดพรากจากกันด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม
ฉันก็ยินดีที่จะจะตามมารังควานรักเธอทุกชาติไป..
แน่นอน คงไม่ใช่แค่คู่รักที่ขอกลับมาเกิดกลับมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอีกเท่านั้น
แต่พวกตัวโกง ตัวร้าย ตัวอิจฉา ผู้ช่วยพระเอก ผู้ช่วยนางเอก ก็คงตามมาด้วยเป็นพรวน..
พวกฝ่ายตัวร้าย ก็ต้องมาขัดขวางความสุขของคู่พระนาง ไม่ให้ ลงเอย กันง่ายๆ
คอยตามมาเป็น ก้างขวางคอ มาคอยเป็น กระดูกชิ้นโต ขัดจังหวะคนจะรักกันอยู่ร่ำไป..
และเช่นเดิม ที่กว่าพระเอกนางเอกจะรักกันได้นั้น
จะต้องผ่านการทดสอบจิตใจ ผ่านด่านหินทดสอบ รักแท้ กันทุกรอบ
นอกจากจะต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากคนรอบข้างแล้ว
ยังต้องอาศัย มือที่มองไม่เห็น มาช่วยพลักดันความรักของทั้งสองให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย..
จะเรียกว่า บุพเพสันนิวาส ก็คงไม่แปลกที่จะเชื่ออย่างนั้น..
เราคนดูก็ลุ้นกันจนเหงือกแห้ง หลังจากที่ต้องเอาใจช่วยกันสุดๆ
สุดท้าย ละคร ก็จบแบบแฮบปี้ ทั้งในจอทั้งนอกจอ..
ในชีวิตจริง เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยสงสัยกันว่า เรื่องแบบนี้มีจริงหรือไม่..?
ภพชาติมีจริงหรือ.. ? คนที่เขาเป็นคู่กันจะต้องกลับมาเจอกันอีกเหมือนในละครหรือไม่..?
ถ้าเราพิสูจน์ได้แล้วว่า ภพชาติมีจริง ชาตินี้ชาติหน้ามีจริง
ความเห็นของเราต่อการมีชีวิต ความเห็นของเราต่อเรื่องบาปกรรม เวรกรรม จะเป็นอย่างไร..?
ถ้าภพชาติมีจริง จะทำให้คนเราเลิกก่อกรรมทำชั่วได้จริงหรือไม่..?
แล้วคนเราจะสร้างแต่คุณงามความดี เพราะไม่อยากจะตกนรกหมกไหม้ อย่างนั้นหรือ..?
ธรรมชาติ นั้นแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ
เขาจะรักษา สมดุล ของตัวเขาเอาไว้เสมอ
เขาจะปรับตัวอยู่เสมอ ไม่ให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป..
หากสมมุติว่า คนเกือบทั้งโลก พิสูจน์ได้แน่นอนแล้วว่า ชีวิตในโลกหน้ามีจริง
เหล่ามนุษย์ก็คงแห่กันไปทำแต่กรรมดีกันหมดโลก..
สุดท้ายคงไม่ต้องมีใครต้องกลับมาเกิดมาเป็นคนเป็นสัตว์อีก
ไม่มีใครต้องกลับมาเสวยกรรมเป็นเดรัจฉาน เป็นเปรต อสุรกาย หรือสัตว์นรกอีกเป็นแน่แท้..
เมื่อรู้ดังนั้น ธรรมชาติเขาก็จะสร้าง เครื่องล่อ แบบใหม่ขึ้นมาอีก
เครื่องล่อเหล่านั้นก็พร้อมจะมาแสดงพิษสง ให้คนที่เหลืออยู่ต้องกลับมายึดติด
ต้องกลับมางมงายต่อไป แต่จะมาในรูปแบบ ละเอียดนวลเนียนกว่าที่เคย..
เพราะรู้ว่า มนุษย์นั้น ส่วนมากกิเลสยังหนา และยากที่จะขัดเกลากันได้ง่ายๆ..
ดังนั้น จะถามต่อว่า
หากว่าโลกหน้าไม่มีจริง ภพชาติไม่มีจริง
คนเราจะสิ้นศรัทธาต่อเรื่องกรรมเวร เรื่องทำดีแล้วดี ทำชั่วแล้วชั่วหรือไม่..?
เราจะเลิกเคารพกติกาของความดีงาม ที่คอยค้ำจุนโลกใบนี้หรือไม่..?
ลองถามใจตัวเองดู..
ฉะนั้นจะบอกว่า เรื่องภพชาติมีจริงหรือไม่นั้น
กลับไม่ใช่เรื่องที่สำคัญต่อการยกระดับจิตใจตนเองให้สูงพ้นโคลนตมกิเลสร้าย
ความอยากรู้เรื่องชาตินี้ ชาติหน้า ไม่ใช่หัวใจของการหลุดพ้น
ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านทรงเร่งเร้าให้เราทำ..
แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจใน ความจริงแท้สี่ประการ ต่างหาก
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค คือสิ่งที่เราต้องขวนขวายรู้ให้ถึงแก่นให้ได้ในชีวิตนี้..
ไม่ใช่เรื่องตายแล้วเกิด หรือ เรื่องชาตินี้ชาติหน้ามีจริงหรือไม่..
ละครเขาเขียนเรื่อง เขียนบทให้เราคล้อยตาม
ให้เรามีอารมณ์มีความรู้สึกร่วมไปกับเรื่องราว ความรัก โลภ โกรธ หลง ของคน
สาระอยู่ที่เราจะจับความแปรเปลี่ยนแปรปรวน ความไม่แน่นอนของชีวิต
ที่ตัวแสดงเขากำลังถ่ายทอดอย่างสมจริงสมจังหรือไม่..
ใครที่อยากเจอคู่แท้ หรือคู่เทียมเหมือนในละคร
ที่ต้องขอจองเวรรักกันไปทุกชาติ ก็มีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์ฝันได้
แต่หากเรารู้ความจริง ที่เรากำลังถูก โลกสมมุติ ฉายฉาบภาพลวงตาให้เห็นแล้วละก้อ
คงแทบไม่อยากจะกลับมาพบมาเจอกันอีกแน่นอน..
รักๆ เลิกๆ เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน เดี๋ยวก็จูบปากกันหวานชื่น วนเวียนซ้ำซาก
และสุดท้ายก็ต้องตายจากกันไป โดนความแปรปรวนของชีวิตพลัดพรากกันไปตามเคย..
ถ้าหากเลือกได้จริง ขอเจอกันในชีวิตนี้เป็นครั้งสุดท้ายจะดีกว่า
ไม่อยากติดตามกัน ตะลอนทัวร์ ในสังสารวัฏ ที่กว้างใหญ่ต่อไปอีกแล้ว..
หากจะหมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้ว ก็ขอให้ใช้หนี้ใช้สินรวมทั้งดอกเบี้ยกันซะให้หมดในชาตินี้
และจะหากต้องมาเจอกันใหม่ในภพภูมิหน้า
ก็ไม่ต้องมาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันอีกต่อไปแล้ว
ยินดีที่จะไม่รู้จักกัน เสียดีกว่า ที่จะต้องไปก่อเวรก่อกรรมร่วมกันอีกไม่รู้จบ จะดีกว่าไหม..?
ขอขอบคุณเจ้าของรูปสวยๆทุกรูปครับ
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [