นั่นคือ คำว่า " ประเทศไทย 4.0 "
ผู้เขียนได้อ่าน ได้ยินคำนี้ถี่ขึ้น ทั้งจากสื่อหนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์อื่นๆ
ตอนได้ยินทีแรกก็ยังไม่เข้าใจหรอกว่า มันมีความหมายอย่างไร
ด้วยความรู้น้อย และ อาศัยความเข้าใจ คิดเองเออเอง
นึกว่าเป็น สำนวนข่าว หรือ วลีเท่ๆ ที่ใช้กันเฉพาะกลุ่ม
แต่พอมาได้ยิน ผู้ใหญ่ในประเทศท่านหนึ่งเฉลยผ่านสื่อ ก็พอเข้าใจได้ว่า
คำว่า ประเทศไทย ก็หมายถึงประเทศไทยเรานี่แหละ
แต่คำว่า 4.0 ไม่ใช่รุ่น หรือ ซีรีย์ของของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคอะไรหรอก
แต่หมายถึง " คลื่นการปฏิวัติอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลูกที่ 4 ของโลก "
เป็นไง? อ่านแล้วเริ่มมีความอลังการเข้ามาสอดแทรกนิดๆ
พอสืบๆไปก็รู้ว่า อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด
( หรือจะเรียกว่า ปฏิวัติ ก็ได้ ) มาแล้ว 3 ครั้ง หรือ 3คลื่น
ซึ่งแต่ละครั้งมันจะมีผลต่อความเป็นอยู่ของ มนุษย์โลกในทุกๆด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การสื่อสาร การผลิต การขนส่ง อุตสาหกรรม การเกษตร ฯลฯ
และยิ่งกว่านั้น มันจะมีผลต่อ พฤติกรรมการดำเนินชีวิตของเรารวมถึงมนุษย์ทุกคน
สรุปง่ายๆว่า ประเทศของเรากำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง
เร็วๆนี้.. หากใครที่ยังไม่รู้จักปรับตัว ปรับความคิดให้ทันคลื่นลูกมหึมานี้
ก็อาจจะต้องกลายเป็น เหยื่อ ของการเปลี่ยนแปลง
อาจจะโดน คลื่นยักษ์ลูกนี้กลืนกิน จนไม่มีที่ยืนบนโลกเน่าๆใบนี้อีกต่อไป..
ผู้ใหญ่ท่านนี้น่ารักมากครับ นอกจากจะมาเตือนแจ้งข่าวให้พวกเราระมัดระวัง
ให้เตรียมพร้อมรับมือ กระแสคลื่นประเทศไทย 4.0 ที่ว่าแล้ว
ท่านยังบอกวิธี รับมือ คลื่นการปฏิวัติอุตสาหกรรมลูกนี้เอาไว้ด้วยครับ
นั่นคือ " อย่าหยุดเรียนรู้ " หรือ " จงเรียนรู้ตลอดชีวิต "
เป็นไงครับ ง่ายๆ ได้ใจความ
เพราะมีเพียง ความรู้เท่าทันโลกเท่านั้นที่จะเป็นเสมือน เรือลำใหญ่ที่จะพาเราให้ รอดตาย
หากมีคลื่นลมแรง หรือมีพายุใหญ่ถาโถมเข้ามา..
หรืออย่างน้อย ความรู้ ก็จะเป็น เสื้อชูชีพ
ที่เอาไว้ให้เราเกี่ยวเกาะ ลอยคอในทะเลใหญ่ เมื่อ เรือมันแตกอับปางลง
ว่าแล้วก็ขอเลี้ยวเข้าโหมด ธรรมะ ต่อเลยนะครับ
พระพุทธศาสนา ของเราชาวโลก ( ขอยืนยันว่าเป็นของชาวโลกครับ )
ดำรงดำเนินผ่านคลื่นแห่งกาลเวลามาแสนนานแค่ไหนแล้ว
ครับก็ สองพันห้าร้อยกว่าปี แล้ว
พระพุทธศาสนา ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วไม่น้อย
จากยุคก่อตั้ง เข้าสู่ยุคเผยแผ่ ล่วงมาถึงยุครุ่งเรือง
และกำลังจะข้ามผ่านยุคที่เป็น จุดเปลี่ยนสำคัญ อีกครั้งในอีกไม่นานจากนี้
ซึ่งเป็นยุคที่มีการ ต่อสู้กันระหว่าง ศรัทธา และ ปัญญา
ของผู้ที่เรียกตนว่า พุทธศาสนิกชน อย่างรุนแรงหนักหน่วง
เป็นยุคที่มีการ ทดสอบ และ คัดกรอง ผู้ที่มีสิทธิ์ไปต่อในโลกแห่งความรู้แจ้งของชีวิต
หรือจะ สอบตก กลายเป็นคนที่ปล่อยตัวปล่อยตนให้ลื่นไหลจมไปกับ กระแสโลกธรรม
คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้น มีอยู่แล้วทุกยุคทุกสมัย
ซึ่งก็เป็นไปตาม กฎแห่งพระไตรลักษณ์
ตามที่พระศาสดาได้ประกาศเอาไว้เมื่อสองพันปีก่อน
อนิจจัง ทุกสิ่งไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ต้องแปรปรวน เปลี่ยนแปลงไป
ทุกขัง ทุกสิ่งที่ก่อกำเนิดขึ้นมาแล้ว สุดท้ายต้องเดินหน้าสู่ความแตกดับไม่มีเหลือ
อนัตตา ทุกสิ่งไม่สามารถยึดถือเอาเป็นตัวเป็นตนได้ จะบังคับให้มันตั้งอยู่หรือดับไป ไม่ได้เลย
ทุกวินาที ที่ลมหายใจยังเข้าออกนี้
ไม่เคยมีลมหายใจชุดไหน เป็นของเดิม
เปลี่ยนแปลงไป ไม่เคยซ้ำหน้าสักชุดเดียว
นับประสาอะไรกับ ความเปลี่ยนไปของโลก ที่ยังเคลื่อนไหวไม่เคยหยุดนิ่ง
หากประเทศของเรากำลังก้าวสู่ยุค 4.0 จริงตามที่คนระดับท๊อปของโลกเขาพยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า
ในทางธรรม ก็หาใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรอย่างไรไม่
เพราะผู้ที่ แจ้งโลกทั้งหลาย ท่านได้บอกกล่าวให้เตรียมพร้อมเอาไว้เรียบร้อยนมนานแล้ว
ให้ปรับตัวและอยู่กับปัจจุบันอย่างเข้าใจและยอมรับมัน
ดำรงชีวิตอยู่กับความเปลี่ยนแปลงของชีวิตอย่างมี ศิลปะ
โดยไม่ต้องเข้าไปต่อต้านหรือทำลายมันเพียงแต่ รู้เท่าทัน มันแค่นั้น
เราก็จะกลายเป็น ชาวพุทธะ 4.0 กับเขาได้อย่างไม่ขัดเขินเลย..
ขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆทุกภาพครับ
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [