มาตรฐาน..คนดี

  คนดี ในสายตาของคุณเป็นแบบไหน..?

บางท่านก็อาจจะนึกถึงภาพ พ่อและแม่ของเรา ในภาพของ บุพการีผู้มีพระคุณใหญ่หลวง..

หรือไม่ก็ ครูบาอาจารย์ ที่ท่านได้อุตสาห์ อบรมบ่มนิสัย เสียสละเวลาถ่ายทอดความรู้ให้เรา

ทั้งทางโลก หรือ ทางธรรม..

หรือไม่ก็ ภาพของคนที่เสียสละบริจาคเงินทอง สิ่งของให้แก่ผู้ยากไร้

หรือแม้แต่คนที่ยอมลุกจากที่นั่งบนรถเมล์เพื่อให้คนที่อ่อนแอกว่าได้ใช้สิทธิ์แทนตน..

 

ไม่ว่าภาพของ คนดี ในสมองของคุณจะเป็นแบบไหนก็ตาม..

ผู้เขียนเชื่อว่ามันจะไม่สำคัญไปกว่า คุณค่า ของสิ่งที่เขาทำให้จนคุณรู้สึก ประทับใจ

ไม่ว่าประโยชน์นั้นจะเกิดขึ้นกับตัวของเราเอง หรือเกิดขึ้นกับคนอื่นก็ตาม..

คุณค่า แห่งการกระทำนั้นมันได้ประทับไปในจิตใจของเราเสียแล้ว จำได้ไม่ลืม..

 

คนดี มีหลายระดับครับ

มีตั้งแต่ระดับหยาบๆ ก็คือ คนที่พูดดี หมายถึง พูดเป็นประโยชน์ พูดเป็นสาระ

พูดแล้วสร้างความสามัคคี พูดอย่างสร้างสรรค์ ไม่โกหกหลอกลวง วัดได้จาก คุณค่า ของคำพูดนั้นๆ

ไม่ใช่จากน้ำเสียงที่ฟังไพเราะ นุ่มนวล ชวนเคลิบเคลิ้ม หรือบุคลิกหน้าตา ของผู้พูด

คนดีต่อมาคือ คนทำดี หมายถึง คนที่แสดงออกโดย การกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

เน้นว่าเพื่อส่วนรวม เป็นหลัก โดยการเสียสละกำลังทรัพย์ หรืออาจเป็นกำลังแรงกาย โดยเต็มใจ

ไม่หวังผลประโยชน์เกินกว่า ความเป็น ผู้ให้ แก่คนที่ด้อยโอกาสกว่า หรือ ผู้ที่อ่อนแอกว่าเรา

โดยวัดกันที่ คุณค่า ของการกระทำมากกว่าคำ สรรเสริญ ยกย่อง เกียรติยศ คำประกาศสดุดีใดๆ

เป็นประเภท ทำงานเพื่องาน จริงๆ.. หาใช่เพื่อหน้าตา หรือการต่อยอดทางสังคมและธุรกิจ

 

คนดีต่อมาคือ คนคิดดี คนดีแบบนี้วัดเป็น รูปธรรมยากมาก จะวัดในเชิงปริมาณก็ยาก

เป็นเรื่องของ มโนธรรม ล้วนๆ มาจากจิตวิญญาณของตัวของเขาเองโดยแท้..

คนคิดดี จะวัดกันที่ ความบริสุทธิ์ของความคิด

บริสุทธิ์ คือ ไม่มีสิ่งเจือปน บริสุทธิ์ด้วยการไม่ปน อคติ ชอบชัง ในความคิด

หรือจะเรียกว่า ใจบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ใจ หรือ ใจสะอาด ก็ไม่ผิดนัก..

 

คนที่คิดดี มักจะแสดงกริยาออกสู่โลกภายนอก ด้วยการพูดที่ดี และ การกระทำที่ดีเสมอ

 

คนที่คิดดี จะไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี ไม่มีประโยขน์ และเป็นโทษ ต่อโลกภายนอกเลย

เว้นแต่การ ตีความ ของผู้รับรู้จะผิดเพี้ยนไปตาม อคติ ของตน

 

คนที่พูดดี แม้มีสาระและประโยชน์มากมาย แต่มาจากใจที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว ก็ถือว่า ตกมาตรฐาน

คนทำดี แม้มีประโยขน์ต่อส่วนรวมแค่ไหน หากมาจากใจที่เจือปนด้วย ผลประโยชน์ส่วนตน

หวังต่อยอดในทางสังคมธรุกิจและ การเมือง ก็ต้องถือว่า ไร้มาตรฐานคนดี..

ดีแต่เปลือกนอก ที่แสดงให้คนอื่นรับรู้ด้วยการพูดและการกระทำ กลายเป็น คนดีที่ตกเกรด

เป็นคนดีที่ นักปราชญ์ หรือ ผู้รู้ ไม่ยอมรับ

 

แล้วคนคิดดี วิเศษกว่าคนสองพวกแรก ตรงไหน..? หากคิดดีแล้วไม่แสดงให้คนอื่นรับรู้

ไม่ทำให้ส่วนรวมได้รับประโยชน์.. คิดแต่ไม่ยอมทำอะไร ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน..

ขอตอบแบบนี้ครับว่า พวกเรามา ตกม้าตาย กันตั้งแต่มา รอรับผลประโยชน์ จากคนดีแล้วครับ

ในเมื่อสังคมเราอ่อนแอ เรากลายเป็นผู้ที่ร้องขอ อะไรที่ดีๆ จากคนอื่นโดยไม่คิดจะทำด้วยตนเอง

ไม่เริ่มสร้างประโยชน์อันชอบธรรมให้ตนเองเสียแต่วันนี้ แล้วจะมัวมาเรียกร้องอะไรจากใครๆอีก..

 

คนที่คิดดี มีใจบริสุทธิ์ หลายท่านอาจจะไม่มีกำลังเพียงพอมา แจกผลประโยชน์ให้ใครๆ

อาจจะไม่มีกำลังมา อบรมสั่งสอนให้ใครเป็นคนดี หรืออาจไม่มี โอกาส มาถ่ายทอดสิ่งดีๆ

ให้กับใครๆ เพราะท่านเหล่านั้นอาจจะอยู่ในที่ไม่เจริญทางวัตถุ

 

แต่เชื่อได้เลยว่า คนที่คิดดี ท่านจะมีชีวิตอยู่อย่างสง่างาม มีชีวิตอยู่อย่างงดงาม

ท่ามกลางความ สกปรกโสมม ของสังคม เรียลไทม์ นี้แน่นอน..

โดยวัดได้จาก คุณค่าและคุณภาพของจิตใจตนเองเป็นหลัก

ไม่ได้ขึ้นอยู่กับยอดกดไลค์ของใครๆ..

 

แต่เป็นคนดีที่มี มาตรฐาน ของตนเอง เคารพนับถือตนเองได้

แม้สังคมยังเห็นว่า ไร้คุณค่า ก็ตาม ก็ไม่ยีหร่ะในสิ่ง สมมุติ เหล่านั้น..

และหาก คนคิดดี เหล่านั้นได้มี โอกาส หมุนฟันเฟืองของสังคมเมื่อไหร่

สังคมนั้นก็จะ ลดการพึ่งพาคนอื่น แต่จะหันมาพึ่งพาตนเองกันอย่าง พลิกฝ่ามือ

 

เพราะเชื่อแล้วว่า คนที่ดีจริง ของจริง ย่อมไม่ลดคุณค่า ของตนเองไปเกลือกกลั้วกับ ของปลอม

เป็นน้ำดีทีดื่มกินได้โดยไม่ต้องผ่าน เครื่องกรอง ให้เสียเวลา..

เพราะ มาตรฐานของคนดี มันตีตราการันตีมาจากหัวใจแล้วว่า ของเขาดีจริงๆ

แล้ว มาตรฐานคนดีของคุณ อยู่ที่ไหนกัน..?

 

 

 ขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆทุกภาพครับ

Create Date : 20 เมษายน 2558 Last Update : 20 เมษายน 2558 22:15:03 น. Counter : 1695 Pageviews.		0 comments
Share Tweet