ซ่อมน้ำซึมเข้าหน้าต่างหน้าบ้าน+ยา PU หลังคาครัว (วันที่ 2 มิถุนายน 2568) พอเข้าหน้าฝนสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับคนมีบ้านคือ...ฝนตกน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน ซื้อบ้านตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เวลาเข้าหน้าฝนไม่เคยมีปัญหาใดๆ พอมาปีนี้ที่ห้องนอนจุดที่มีหน้าต่างบานใหญ่ บางครั้งเดินไปรูดผ้าม่านแล้วเหมือนพื้นห้องเย็นๆ ปลายผ้าม่านเหมือนมีน้ำเปียกนิดๆ แต่ไม่ได้ชุ่มมาก เราก็ไม่แน่ใจว่ามันเย็นจากโซ่ที่ถ่วงไว้ในผ้าม่านรึเปล่าเพราะตอนนั้นเปิดแอร์ด้วย แต่มีอยู่วันหนึ่งฝนตกหนักพอสมควร เรากำลังเดินไปจะรูดม่านปิด มันมีน้ำนองที่พื้นตรงขาเตียงที่อยู่ใกล้กับหน้าต่าง มันเจิ่งนองไม่เยอะมาก แต่เราก็งงว่าน้ำมันมาจากไหน แต่ขณะเดียวกันตอนนั้น เราเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาเปิดพัดลม และเช็ดตัวตรงจุดนั้นที่มีน้ำนอง (แต่ตอนที่ยืนไม่ทันสังเกตว่ามีน้ำนองที่พื้นห้องนะ จะว่าเป็นน้ำที่หยดจากขาลงมาที่พื้นก็ไม่น่าใช่ เพราะเราเช็ดขากับพรมเช็ดเท้าก่อนเดินมาที่ห้องนอน) ยืนงงอยู่พักหนึ่งก็จัดการเช็ดน้ำที่นองและเริ่มสำรวจว่าน้ำมันไหลมาจากจุดไหน แหงนมองไปบนเพดานก็ไม่มีร่องรอยของน้ำซึมจากฝ้าเพดาน ดูตามวงกบหน้าต่างก็ไม่มีน้ำค้างในร่องวงกบ มีแค่รอยน้ำไหลมาตามร่องวงกบหน้าต่างแต่เกือบแห้งแล้ว สรุป...หาต้นตอไม่เจอค่ะ วิตกจริตไปอีกเวลาที่ฝนตก กลัวน้ำซึมเข้าพื้นแล้วพื้นไม้ลามิเนตจะบวม งานจะเข้ามากกว่าเดิม เลยโทรไปถามช่างที่นิติบุคคล ช่างที่นิติบุคคลตามช่างที่รับซ่อมทั้ง 4 โครงการแถวหมู่บ้านเราให้เข้ามาดู หลังช่างเข้ามาดูหน้างานที่ต้องซ่อม เราก็บอกเลยว่าต้องการให้เช็คจุดไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง ช่างมาปีนดูด้านนอกของหน้าต่างแล้วเห็นว่าด้านบนวงกบมีรอบแตก จะเอาน้ำยากันซึมมาทาให้ แล้วก็จะทาสีทับให้ เราก็ให้ช่างมายาแนวน็อตตรงหลังคาหลังครัวให้ด้วยเพราะเวลาผ่านไปยาแนวน่าจะเสื่อมเลยทำกันไว้คร่าวๆ ก่อน (ซึ่งหลังครัวที่เราต่อเติมไปโชคดีมากที่มันไม่เคยรั่ว)ช่างประเมินราคามา 2,300 บาท เราก็บอกช่างตี้ว่าโอเคเดี๋ยวบ่ายๆ จะไลน์ไปอีกที จากนั้นเราก็โทรสอบถามข้อมูลของช่างคนนี้กับน้องที่อยู่หลังบ้านเรา เพราะเราเคยเห็นน้องเขาจ้างช่างคนนี้มาซ่อมหลังคาครัว น้องหลังบ้านบอกว่าเขาก็ทำโอเคนะพี่ ตามตัวง่าย เรียกเขามาทำอะไรเขาก็มาทำให้ ไม่ได้ช้า แต่งานพวกทาสีจะไม่เนียน เราก็เลยลองให้เขาซ่อมดูก็ได้ แต่เราบอกช่างว่าขอจ่าย 1,000 บาทก่อน ที่เหลือจะจ่ายหลังเสร็จงาน เราบอกช่างว่าเราคิดว่าน้ำอาจซึมมาจากจุดนี้ เพราะเห็นขอบ Wallpaper มันหลุดออกมา เราแงะๆ ดูแล้วเป็นแบบนี้  ก็ไม่รู้ว่าคราบขาวๆ ที่ติดมากับ Wallpaper มันคือปูนแตก หรือคราบยาแนวที่เสื่อมสภาพ (มารู้ทีหลังจากการที่โทรไปถามร้านที่ติด Wallpaper ให้เรา ร้านบอกว่ามันไม่ใช้ยาแนวครับ มันเป็นขอบปูนของบ้านพี่) เราก็ส่งรูปให้ช่างตี้ดู แล้วสอบถามว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ตอนเย็นเราโอนจ่ายล่วงหน้าไป 1,000 บาทก่อน เช้าวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ช่วงบ่ายๆ ช่างจะเข้ามาทำงานตามที่ตกลงกันไว้ เราเดินสำรวจรอบบ้านไปเจอจุดนี้ตรงประตูทางเข้าหน้าบ้าน รอยที่เราถอยรถแล้วกันชนรถไปชนขอบ เห็นว่ามันมีรอยนิดหน่อยเลยแจ้งช่างไปว่าให้ซ่อมให้ด้วย ไม่น่าจะใช่งานที่ยากเย็น อันนี้คือรูปหน้าต่างจากบ้านฝั่งตรงข้ามที่รู้จักกัน ด้วยความสงสัย เราไม่กล้าแงะ Wallpaper เดี๋ยว Wallpaper พัง เราจึงขอเข้าไปดูวงกบหน้าต่างให้หายสงสัยว่าสรุปมันคือขอบปูนสีขาว หรือยาแนวสีขาวกันแน่ เพราะห้องนอนเราติด Wallpaper ทั้งห้องมันติดทับวงกบหน้าต่างไปด้วย แล้วก่อนที่ช่างจะมาติด Wallpaper เราก็ลืมถ่ายรูปวงกบหน้าต่างห้องนอนไว้ สรุปมันคือขอบปูนค่ะ ไม่ใช่ขอบพลาสติก และไม่มีการยาแนวซิลิโคน บ่ายๆ ช่างเข้ามาทากันซึมให้ ตรงที่มีลูกศรชี้คือจุดที่ช่างบอกว่ามีรอยร้าว ช่างถ่ายวีดีโอให้ดู (เราก็ลืมของไฟล์วีดีโอไว้) ทากันซึมเสร็จช่างบอกว่าทิ้งให้แห้งก่อน และรอดูวันที่ฝนตกว่ายังมีรั่วซึมอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีน้ำรั่วซึมค่อยทาสีทับทีหลัง (เราอยากบอกว่าจากการสำรวจรอยน้ำบนฝาเพดานไม่มีคราบน้ำซึม และน้ำที่นองมันอยู่ที่พื้น แต่จุดที่ช่างบอกเราคิดว่าถ้าน้ำซึมมา Wallpaper เราต้องลอกออกจากผนังสิ แต่นี้มันไม่ลอก ไม่มีคราบน้ำ แต่คุณสามีก็บอกว่าลองซ่อมดูก่อนว่ามันจะหายหรือเปล่า) จากนั้นช่างก็มายาแนว PU หลังคาครัวให้ ช่างบอกว่าถ้ารั่วซึม ยาแนว PU ก็เอาไม่อยู่นะ เราบอกว่าโชคดีที่การต่อเติมหลังครัวของเราหลังคาไม่มีรั่วซึม ทำมาตั้งแต่ปี 2563 ไม่เคยมีน้ำหยดลงมาเลย แค่อยากยาแนวหัวน็อตไว้เฉยๆ เพราะเห็นว่ามันนานมากแล้ว ช่างตี้บอกว่าพวกยาแนวนี้อยู่ได้แค่ 2 ปี ก็เสื่อมสภาพแล้ว ช่วงเย็นช่างตี้เข้ามาลองทดสอบว่าหลังจากที่ทากันซึมไปแล้วยังมีน้ำซึมเข้าที่หน้าต่างหน้าบ้านอีกหรือไม่ จากการเทสฉีดน้ำใส่กระจกก็ไม่มีน้ำไหลซึมเข้ามา (เทสฉีดน้ำนานพอสมควร แต่ในคลิปเพิ่งนึกได้ว่าลืมอัดคลิปไว้เลยเพิ่มมาถ่ายตอนใกล้เทสเสร็จ) ช่างบอกรอให้ฝนตกก่อน แล้วดูว่ามีน้ำไหลมาอีกไหม ถ้ามีจะเข้ามาทำเพิ่มให้อีก แต่ถ้าไม่มีจะเข้ามาเก็บสีให้ เรารอ 2 วันฝนก็ตก แต่มันไม่ได้สาดเข้าหน้าบ้านหนักแบบวันนั้น เช้าวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ช่างไลน์มาถามเพราะตอนกลางคืนฝนตก เราก็บอกไปว่าฝนสาดเข้าหน้าต่างหน้าบ้านไม่แรง เลยไม่มีน้ำซึมเข้ามา ขอรอดูอีกวันก่อน วันที่ 8 มิถุนายน 2568 ช่วงบ่ายช่างตี้เข้ามาทาสีให้ ช่างยังบอกอีกนะว่าบ้านยังไม่ถึง 10 ปี มันไม่น่าจะพังเร็วขนาดนั้น  งานเสร็จก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ช่าง ยังพูดกับคุณพี่ว่า คิดราคา 2,300 แล้วทำงานแค่นี้แพงไปนะคุณสามีบอกว่าที่หลังอย่าสงสัยเยอะสิ รอดูสถานการณ์ไปก่อนว่ารั่วจริงไหม ไม่งั้นก็จะเสียเงินอีกเพราะชอบสงสัย  วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ฝนตกจ้า น้ำไหลมาที่ร่องวงกบหน้าต่างเช่นเคยแต่ไม่ได้เยอะมาก อาจเป็นเพราะเราเอาชิ้นส่วนพลาสติกที่กั้นปิดระบายน้ำไหลจากร่องออกอีกอันก็อาจเป็นได้ ไปชะโงกดูนอกหน้าต่างเลยเพิ่งเห็นว่ามีอุปกรณ์เป็นพลาสติกสี่เหลี่ยมปิดช่องระบายน้ำอยู่อีกอัน ไม่มีน้ำรั่วซึมมาที่พื้นแล้ว  วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 วันนั้นช่วงประมาณ 18.00 - 19.00 น. ฝนตกหนัก ฝนสาดเข้าหน้าบ้านเยอะมาก ไม่มีน้ำรั่วซึมมาที่พื้นแล้ว  จากวันที่ซ่อมไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2568 เวลาฝนตกไม่มีน้ำรั่วซึมมาที่พื้นแล้ว  Create Date : 20 สิงหาคม 2568 Last Update : 25 สิงหาคม 2568 14:30:08 น. 0 comments Counter : 354 Pageviews. (โหวต blog นี้)  Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณปัญญา Dh, คุณThe Kop Civil, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmultiple, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**