~ อิสระอยู่ที่ใจ...ฝันให้ไกล...ไปให้ถึง ~
|
|||
ตอนที่ 4. พิชิตดอยอินทนนท์ สูงสุดแดนสยาม มาถึงตอนที่ 4. พิชิตดอยอินทนนท์ สูงสุดแดนสยาม แล้วจ้า หลังจากที่เราลาจาก นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง มาถึงถนนใหญ่ตามภาพด้านล่าง ![]() เราลงมาตามทางเราต้องเลี้ยวซ้ายไปตามลูกศรชี้เลยค่ะ จากจุดนี้ไปใช้เวลาประมาณ 20 นาทีขับไปเรื่อยๆ อากาศเย็นเป็นช่วงๆ ตรงที่มีแดดส่องก็อุ่นหน่อย ![]() ขับไปก็มีป้ายบอกทางไปเ้รื่อยๆ พอถึงป้ายนี้ ทางหลวง 1009 ![]() ก็จะมีแยกเลี้ยวไปบ้านขุนกลาง - ขุนวาง ตรงแยกนี้มีปั๊มน้ำมันน้อยๆ ให้เติมด้วยนะ แวะเติมน้ำมันให้พร้อม แถมลองถามพี่เจ้าของปั๊มดูว่า "ดอกซากุระ หรือดอกพญาเสือโคร่ง" ข้างบนบานบ้างหรือยัง คำตอบที่ได้คือ "ยังค่ะ แล้วแกก็ชี้ให้ดูต้นที่อยู่เลยไปจากร้านแกหน่อยนึงว่าถ้าบานตรงนี้ก็ต้องบานด้วย ต้นที่เห็นมันยังโกร๋นอยู่เลย เซ็ง" ![]() และขับไปต่อเรื่อยๆ ก็จะเจอลานกางเ๊ต็นทฺ์ และตลาดขายผัก ผลไม้ของชาวม้งจ้า ขับมาจนถึงทางโค้งนี่ เราเจอสิ่งไม่คาดฝันค่ะ มันคือ....ทะเลหมอก....ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่งที่ดอยอินทนนท์ (สำหรับเรา) มีรถจอดชมวิวเป็นระยะ เราก็เอามั้งลงไปถ่ายรูปดีกว่า ![]() มันไม่ใช่ปุยเมฆนะ มันคือ...ทะเลหมอก....หนามาก และที่สำคัญมันกำลังเคลื่อนตัวไหลลงมาทางขวา (ตามภาพเลยค่ะ) ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นตอนช่วงเวลา 10.00 โมง กว่าๆ พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก....สวยมาก อลังการธรรมชาติสร้างจริง ![]() ใครขับรถผ่านก็หยุดดูแทบทุกคันเลย มันเป็นวันที่วิเศษ และโชคดีที่สุด ![]() (เกิดมาเพิ่งเคยเห็นทะเลหมอกกำลังเคลื่อนตัวแบบนี้) ![]() อีกสักรูป มีแสงอาทิตย์สาดส่องด้วย ![]() ![]() ลงไปแอคท่าดีกว่า ![]() เอากะเขามั้ง (ลืมไปเลยว่าเป้หนัก ![]() ![]() ขับขึ้นมาแล้วมองลงไปก็ยังสวยอยู่ แต่....พอมาถึงจุดนี้ทางชันมาก รถมอไซต์เริ่มอ่อนแรง ขึ้นเขาไม่ไหว เคลื่อนตัวช้ามาก (ยังกะเต่าคลาน) คุณแฟนบอกว่าเพราะหยุดดูทะเลหมอก ทำให้แรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ไม่มีแรงส่งพอ แถมหนักทั้งเป้ หนักทั้งคน ![]() (มีการให้เราลงเดินแล้วขับขึ้นไปรอด้วย แถมบอกว่าถ้าไป 2 คนรถไปไม่ไหว น้ำมันก็จะหมดเพราะใช้แรงขึ้นเขามาเยอะ ให้เราโบกรถขึ้นดอยไป ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ขาลงนั่งงอนไม่พูดด้วยไปตลอดทาง ชิ ไม่ช่วยคิดไม่ช่วยวางแผน หาข้อมูล ไม่ช่วยเชี่ยไรเลย ดีแต่ขับรถมอไซต์เป็นแค่นั้น ![]() แล้วค่อยย้อนขึ้นมาใหม่ ![]() ![]() พอเห็นป้ายตามรูปด้านบนนี้ก็เลี้ยวซ้านเข้าไปแยกบ้านขุนกลาง - ขุนวางได้เลยจ้า ![]() ซ้ำรูปให้ดูชัดๆ อีกรอบ ตรงลูกศรชี้มีปั๊มอยู่นะ คุณพี่เขาใจดีให้เราเ้ข้าห้องน้ำ และให้เราฝากกระเป๋าไว้ได้อีกต่างหาก (ก็เติมกะพี่มา 3 รอบแล้วน่าจะจำกันได้) จากนั้นเราก็มุ่งตรงขึ้นยอดดอยเลยค่ะ ![]() พอถึงโค้งนี้ทัศนียภาพทะเลหมอกยังคงสวยงามอยู่ แต่ไม่เอาแล้วไม่จอดรถ เด็ดขาด เดี๋ยวขึ้นไม่ได้อีก พอไม่มีเป้ รถขึ้นได้ฉลุยเลยแหะ (นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว) ![]() ![]() พอถึงดอยอินทนนท์วันนี้คนเยอะมาก แต่ไม่หนาแน่น ร้านขายของพรึบไม่ต้องกลัวอด ยังกะตลาดนัดหย่อมๆ เราเดินดูแป๊ปเดี๋ยว แล้วย้อนมาศึกษาเส้นทางธรรมชาติกันก่อนดีกว่า พาคุณแฟนไปถ่ายรูปกับป้ายเป็นที่ระลึกหน่อย เราเคยถ่ายแล้วเลยไม่ถ่าย มีการรอคิวกันด้วย แต่ไม่นานเท่าไร หน้าเทศกาลก็งี้ ![]() ![]() อากาศแม้ว่าจะ เกือบ 11.00 น. แล้วแต่ยังหนาวเย็นอยู่อะ เสร็จแล้วก็พาเดินป่า ไปตามทางเข้ามาก็เจอ "กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์" ก่อนเลย ![]() ![]() จุดไฮไลท์เก็บภาพอีกมุมของดอยอินทนนท์ ![]() ซูมชัดๆ ![]() มีคนแอบถ่ายเราตอนเผลอด้วยเฟ้ย ![]() ![]() เส้นทางศึกษาธรรมชาติก็มีทางเดินไปเรื่อยๆ (นี่ขนาดมีแดดส่องแล้วคุณแฟนยังสามารถดำได้อีก) ![]() ![]() ถ่ายมั้ง จะได้รู้ว่ามาจริง ![]() เดินมาจนถึงป้ายบอกอุณหภูมิของวันนี้ค่ะ เมื่อเวลา 6.00 น. 9 องศา ตอนนี้ 11.30 อุณหภูมิอยู่ที่ 10 องศา อืม....นะ ![]() ![]() ดอกอะไรจำไม่ได้แล้วค่ะ ![]() เวลาบานสวยดี ![]() ปีนี้ดอกกุหลาบพันไม่บานเลย ไม่มีสักดอก ![]() นี้ดอกไรก็ไม่รู้ ข้างบนนี้ก็มีสำนักงานของเจ้าหน้าที่ มีห้องนิทรรศการแสดง ประวัติความเป็นมาของดอยอินทนนท์ มีห้องน้ำ มีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอาหารเล็กๆ ไว้บริการด้วยจ้า ![]() แต่เราขอเข้าร้านกาแฟร้านนี้ดีกว่า ราคาไม่ต่างจากร้านข้างๆ มากนักแต่มันเป็นกาแฟสด ที่ไม่ใช่พวกกาแฟซอง หรือเนสกาแฟอะนะ (ไหนๆ จะเสียเงินแล้วขอเลือกนิดนึง) ![]() ชอบหวานมาก/น้อย ชอบแบบไหนบริการตัวเองเลยจ้า ร้านนี้วันที่เราไปคนเยอะเหมือนกันนะ ![]() จัดไปคนละแก้วกะคุณแฟนให้หายหนาว ในราคายิ่งสูงยิ่งหนาว 120 บาท ต่อ 2 แก้ว (แพงโคตร...แต่ยอม) ![]() นั่งจิบกาแฟไปก็หยิบขนมปังที่พกมาแกล้มไปพลางแก้หิวก่อน แบ่งให้นกกินด้วย นกบินมาให้ชมตรงหน้าเลย ห่างกันแค่เอื้อมมือ ![]() ![]() ไม่รู้ว่านกอะไร คุณแฟนชอบนกเลยถ่ายใหญ่ เราก็ฆ่าเวลาด้วยการนั่งเขียนโปสการ์ดเพื่อส่งกลับบ้าน ![]() นั่งพักได้ที่ ก็ชวนกันลงจากดอยเพื่อตรงเข้าเมืองเชียงใหม่ค่ะ เพราะตอนนี้เวลา 12.15 น. แล้วไหนจะต้องแวะเอากระเป๋าเป้อีก ระหว่างลงยังคงมีหมอกหนาจัดอยู่ค่ะ ![]() สวยยังกะอยู่เหนือเมฆ ![]() ![]() มุมนี้แสงส่องเบาๆ สวยงามมากมาย ![]() ขอลงไปเก็บภาพหน่อย ![]() ![]() นี่เที่ยงกว่าๆ แล้วนะ ยังมีหมอกอยู่อีก อากาศตรงนี้ร้อนไม่มากค่ะ ![]() วิวระหว่างลงเขา ![]() แวะถ่ายกับป้ายหน่อยละกัน ![]() ![]() ![]() พอถ่ายรูปเสร็จเราก็กะว่าจะแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มเดิมอีกรอบที่เราเอาเป้ฝากไว้แล้วรีบตีรถเข้าเชียงใหม่อีกราวๆ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ไปเช็คอินเข้าที่พัก แล้วค่อยหาอาหารกลางวันทานตอนบ่ายๆ ปรากฏว่ามันมักมีเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึงอยู่เสมอ ทำให้เราต้องปรับแผนกระทันหันเราจะเจออะไรติดตามได้ใน ตอนที่ 5. ในที่สุดฉันก็พบเธอ...ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระ ![]() thx u crab
โดย: Kavanich96
![]() |
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey. Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney Blog : https://emilia0412.bloggang.com ** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |