Renovate my home # ทาสีบ้านเองก็ได้ง่ายนิดเดียว

รีวิวนี้นานแล้วตั้งแต่ปีใหม่ปี 2555 โน้นแนะดองเค็มจนได้ที่ ปีนั้นเกิดนึกสนุกอะไรขึ้นมาไม่ทราบหันไปหันมาเห็นบ้านคุณแฟนโทรมแล้วสีก็เก่า จืดชืดไม่เร้าอารมณ์(เบื่อสีโทนอ่อนแล้ว) เลยอยากทาสีบ้านใหม่ จะทาเองด้วย เพราะเคยทาแล้วไม่ยากเท่าไรแต่ต้องใช้เวลา ใจเย็น และใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง แล้วคำถามต่างๆนานาก็เข้ามาในสมองมากมาย เช่น

1. จะเริ่มทายังไงสำหรับพื้นผิวที่ทาสีมาแล้ว

2. ต้องทำความสะอากบ้านครั้งใหญ่แน่แท้ชิมิ

3. จะเลือกสีที่ทาแบบไหนยี่ห้ออะไร คุณภาพต่างกันยังไง

4. แล้วจะต้องใช้สีกี่ถังต่อ1 ห้อง (คือ...ต้องมานั่งวัด นั่งคำนวณห้องเองหมดไอ้เรารึเลขก็ตก ตรม. ก็คำนวณไม่เป็๋น)

5. แล้วจะไปซื้อสีที่ไหนดีหว่า??? ที่ห้าง หรือร้านขายอุปกรณ์ทาสีโดยเฉพาะ

6. อุปกรณ์ในการทาสีมีไรบ้างเนี่ย

7. สีแบบเงา หรือแบบด้านสวยกว่ากัน จะเลือกแบบไหนดีหนอเรา

หลังจากคำถามผุดขึ้นในสมองมากมายก่ายกองก้ต้องลองสืบค้นข้อมูลชิมิละในที่สุดก็ได้ความกระจ่างว่าการทาสีใหม่ทับพื้นผิวที่เคยทาสีมาแล้วนั้น เราต้อง

1. ทำความสะอาดพื้นผิว(ผนังห้อง) ให้สะอาดเสียก่อน (งานช้างเลยตรู)

     >>> เรากะคุณแฟนช่วยกันแคะสิ่งสกปรกออกจากผนัง เช่นคราบสติกเกอร์ รูปภาพที่แปะไว้ตามผนังห้อง ขูด แคะ แกะ เกา จนเรียบก็ .......นำผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดผนังห้องค่ะ

     >>> จากนั้นทิ้งให้ผนังแห้งสัก 2-3 วัน(เราทิ้งไว้ 4 วันเลย) เพราะเวลาว่างไม่ค่อยจะมี แหะๆจากนั้นขั้นตอนต่อไป

2. เตรียมอุปกรณ์ในการทาสี อาทิเช่น ถุงมือยางกันเปื้อน / ถาดทาสี / ลูกกลิ้งทาสี / แปรงทาสี / เทปแปะกันสีเลอะขอบประตู / กระดาษหนังสือพิมพ์ เป็นต้น เริ่มจาก "ลูกกลิ้ง" ทาสีก่อนเลยสำคัญมากค่ะ ไม่มีทาไม่ได้แน่

"แปรงทาสี"  ไว้สำหรับทาตามมุม ตามชอบค่ะ หลายไซส์ หลายขนาด

"ถ้วยผสมสี" กับ ทัพพี?? 5555 เราใช้ "ทัพพี" มาคนผสมสี ตักสี ตวงสี แบบกะๆ เอาค่ะ 

"ถาดทาสี"  ที่เดินดูเล็กไปไม่ซะใจวัยรุ่นเซ็ง เอากระมังมาประยุกต์ใช้ค่ะ ^^

"ค้อน" เราเอาค้อนมาตอกกระป๋องสีค่ะ เวลาปิดจะได้สนิท สีไม่แห้ง อากาศไม่เข้า ส่วน "ไขควงปากแบน" เราเอามาใช้งัดกระป๋องสีค่ะ จะได้เปิดออกง่ายหน่อย

เวลาตวงสีเสร็จก็ใช้ค้อนตอกแบบนี้เลยจ้า

"เทปแปะกันสีเลอะขอบประตู" เขาว่ายี่ห้อนี่ดีมาก  " 3M Blue " ลอกง่าย สีไม่ถลอกเวลาลอกออกด้วย และราคาก็แพงมากเช่นกัน ม้วนละ 109 หรือ 119  บาทนี้แหละ  (ราคา ณ เดือนธันวาคม 2556) 

"อะไหล่ลูกกลิ้งโฟม" เอาไว้ใช้สำหรับเพนท์ลวดลายลงบนผนังค่ะ ราคาอันละ 80 บาท  (ราคา ณ เดือนธันวาคม 2556) 

ปรากฏอันนี้ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ แป่ว!!

3. ต้องทา "น้ำยารองพื้นปูนเก่า" ให้ผนังห้องก่อนค่ะเพื่อความติดทนนานของสีใหม่ (คงเหมือนเวลาเราแต่งหน้าอะนะ) ไปเดินซื้ออุปกรณ์ที่ Home Pro ค่ะ ไปสืบราคาด้วยค่ะ  อิอิ ปรากฏว่าได้เจ้านี้มาลองก่อนในราคา 715 บาท (ราคา ณ เดือนธันวาคม 2556) 

สีของน้ำยารองพื้นจะขาวขุ่นเหมือนเอาแป้งไปละลายน้ำเล่น (ลืมถ่ายรูปค่ะ)  เราทา 4 ห้อง ใช้ 2 กระป๋อง ทาห้องละ 2 รอบค่ะ 

นี่คือผนังที่ทำความสะอาด และทาสีรองพื้นเรียบร้อยแล้วค่ะ เราทิ้งไว้ 1 อาทิตย์เลย เพื่อให้น้ำยาซีมเข้าไปเกาะเนื้อผนัง

4. ขั้นต่อมาก็คือการ "เลือกสี" ค่ะ เรามาลงตัวที่บุญถาวร กับ Home Pro เพราะเราสามารถสั่งให้เขาผสมสีตามแบบที่เราชอบได้ แม้ว่าจะแพงหน่อยก็ตาม แต่ก็ได้สีที่เราถูกใจ เราเลือกสีแบบกึ่งเงา (Semi Gloss) เพราะได้ข้อมูลมาว่า สีทนนาน เช็ดล้างง่าย ทนต่อการขัดถูมากกว่าสีอะครีลิคทั่วไป 10 เท่า 

ที่วงไว้นั่นเป็นราคาเฉพาะแม่สีที่ต้องนำผสมลงไปนะค่ะ

ได้สีฟ้ากับสีเขียวออกมะนาวมา 2 กระป๋องใหญ่ค่ะ (1 แกลลอน) สีฟ้า คือ Heavenly Day 

สีเขียวมะนาว คือ Jewels

เราคิดว่าจะใช้สีฟ้าทาห้องนอน เพราะดูแล้วน่าจะผ่อนคลาย สบายอารมณ์เวลาที่เราเหนื่อยล้า

สีม่วง Elusive Dream ว่าจะเอามาทาสีห้องน้ำ 555

สีเหลือง Sunblast คุณแฟนบอกว่าให้ทาห้องครัวค่ะ จะได้สดใส แจ่มว้าว

พื้นที่ผนังของห้องครัว และห้องน้ำไม่กว้างนัก จึงเลือกแบบ 1/4 แกลลอน (เห็นกระป๋องแค่นี้แต่ทาได้เยอะมากนะค่ะ เราทาทับตั้ง 3 รอบแนะ) 

ระบุข้างกระป๋องว่า สีกัปตัน พาราชิลด์ รุ่น Freshi Clean เงาแค่ 20% เอง เงาไม่มาก

ปริมาณที่จุ

เรื่องของสีเราทยอยซื้อเรื่อยๆ ค่ะ เอามาลองทาดุก่อน อยากได้สีไหนก้ไปซื้อมาเพิ่มอีก เลยได้มาอีก 3-4 กระป๋อง ชอบสีฟ้านี้มาค่ะ เข้มดี Sky High

สีนี้ออกชมพูอ่อนๆ  Pink Dusk เราไม่ค่อยปลื้มเท่าไร แต่ทาไปแล้วสวยดีค่ะ

สีนี้สิถูกใจวัยรุ่น ชอบมากค่ะ แสบทรวงดี สีส้ม Siesta

มันต้องสีชมพูแปร๋นแบบนี้ต่างหากที่เราชอบ สีชมพู Hoya

ตอนแรกอยากได้ยี่ห้อ "ดูลักซ์" แต่ราคามันแพงเกินไปหน่อยอะนะ เลยได้ยี่ห้อนี่มาแทน ก็โอเคนะค่ะ

เลือกสีครบแล้วเรามาเริ่มทาสีกันเลยดีกว่าค่ะ

เปิดกระป๋องสีแล้วคนสีให้เข้ากันก่อนนะค่ะ

เทแบบกะๆ เอาเพราะผนังที่จะทานั้นพื้นที่นิดเดียวค่ะ

ใช้ทัพพีหรือถ้วยตวงน้ำก็ได้ค่ะ เอาพอข้น หากเติมน้ำมากไปสีจะจางทำ และเราต้องทาทับหลายรอบ

จากนั้นก็คนให้เข้ากัน หากยังรู้สึกว่าสีข้นไปก็ค่อยๆ เติมน้ำเพิ่มค่ะ (ทีละน้อย)

เนียนได้ที่ละ จนเป็นที่พอใจก็เทใส่แม่พิมพ์เข้าตู้อบ อร๊าย...ยยย ไม่ใช่แหละ

ลองตักแล้วเทดูความหนืดของเนื้อสีที่เราผสมว่าได้ตามที่เราต้องการหรือยัง

ทาสีโดยให้ลูกกลิ้ง กลิ้งไปในทิศทางเดียวกัน

อย่าลืมนำกระดาษหนังสือพิมพ์มารองพื้นด้วยนะค่ะ เดียวสีหยดจะเช็ดไม่ออก

ทารอบที่ 1 เสร็จก็ทิ้งไว้ให้อห้งสัก 2-3 วัน หรืออย่างเร็สก็ 3 ชั่วโมง แล้วจึงทาทับอีกรอบค่ะ (แอบมีทาเลอะนอกกรอบด้วย อิอิ)

พอทาทับอีกสัก 2-3 รอบสีชมพูอ่อนก็จะเนียน เรียบสวยงามค่ะ แล้วก็หันมาทาผนังด้านอื่นกันต่อ ห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายที่ทาเลย เพราะเริื่มขี้เกียจแล้ว และไม่รู้ว่าจะเลือกสีไรทาดี เลยนำเอาสีที่เหลืออยู่มา Mix & Match

ห้องนี้เลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ 5555 หวานแหวว ทาเสร็จเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ทั้งวัน แค่ 2 วันกลิ่นสีก็ไม่มีแล้วค่ะ เดี๋ยวนี้ดีมากเลย แป๊บเดียวเอง

ทาแบบตามใจฉัน

พอมีแสงสะท้อนจากข้างนอกสีที่ทาจะออกเงานิดหน่อยค่ะ แจ่มว้าว.....

ทาวนครบ 3 รอบก็เนียน เนียบแล้ว

รูปนี้คือห้องครัว ยังกับห้องเด็กอนุบาล

มาทาห้องนอนต่อ มีเจ้าสัวตัวน้อยค่อยป่วน

ทาห้องนอนเสร้็จแล้ว เรียบจริง ไรจริง 

ตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ หรือ Wall Sticker 

นี้ห้องกลางค่ะ สดใส แสบตามาก

ห้องน้ำเน่าๆ ทาไปเราทำกระเบื้องหลุดด้วยละ หลุดเป็นแถบเลย

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 5,000 บาทค่ะ ใช้เวลาทาไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ แต่ก็เสร็จภายใน 3 เดือนนะ

Create Date : 05 มีนาคม 2557 Last Update : 6 มีนาคม 2557 0:18:01 น. Counter : 5176 Pageviews.		3 comments
Share Tweet