จิตหลอน
ความมืดเข้าปกคลุม  ฉันถูกกลืนกิน

ด้วยความมืดไร้ซึ่งแสงสว่าง

ฉันยังพอจดจำได้ฉันอยู่บนเส้นสีน้ำเงิน

มันมีอีกเส้นเป็นสีแดงที่เป็นคู่ขนานกับ

เส้นที่ฉันกำลังยืนอยู่บนมัน  นี่ไม่ใช่เรื่องจริง

ฉันเตือนด้วยความหวังดี  ใครบางคนผู้หวังดี

ที่ไม่รู้ความเป็นไปว่าใครจะอยู่บนเส้นสีอะไร

เขาตั้งใจใช้กรรไกรตัดเส้นพวกนั้นที่อยู่

ด้านหน้าของเขา  เขาไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหน

เขาไม่รู้ว่าเส้นไหนสีอะไร  เขาหยิบมันขึ้นมา

และจัดการตัดมัน  ฉันเชื่อว่าเขาคงจะไม่ตัดเส้น

สีน้ำเงิน  ฉันเชื่ออย่างนั้น  เส้นที่ฉันยืนอยู่บนมัน

คือสีน้ำเงิน  แต่ที่เขากำลังตัดอยู่นั้นมันเป็นสีอะไร

ไม่มีใครรู้จนกระทั้งฉัน  ตัดสินใจว่าจะให้มันเป็น

สีอะไร  ฉันจะให้มันเป็นสีแดง  ไม่มีใครคนใดสักคน

ทักท้วงในสิ่งที่เกิดขึ้น  มีเพียงฉันเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด

ช่วงเวลาหนึ่งฉันรู้สึกว่านั้นคืออำนาจที่ฉันได้รับและตัด

สินใจลงไป  ถูกเขาตัดเส้นสีแดง  แล้วก็ถูกอีกเมื่อยัง

เหลืออีกเส้นที่เป็นสีน้ำเงินฉันยืนอยู่บนมัน

เขาวางกรรไกรไว้บนเก้าอีกไม้เก่า ๆ ที่ปลวกยังไม่กิน

ความมืดทำให้ทุกอย่างดูวังเวง  ความรู้สึกของ

คนที่อยู่บนเส้นสีน้ำเงิน  หดหู่  จืดจาง ลางเลือน วิเวก

หรรษา ฉันมองไปรอบ ๆ เชื่อไหมว่าฉันไม่เห็นดวงดาว

ฉันไม่เห็นดวงจันทร์  ความปรารถนาของฉันถึงที่สุดเมื่อ

ดวงอาทิตย์ขึ้น  แต่ฉันลืมนึกไปเลยว่ายังมีหลอดไฟ

ที่ใครสักคนตั้งมันเอาไว้ที่นั้น  ฉันกระซิบไปที่เขา

เปิดไฟ  เขาเชื่ออย่างที่ฉันบอก  เขาเชื่ออย่างที่ไม่มีใครกำหนด

เขาเชื่ออย่างที่มองไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้น  เขาเดินไป

ด้วยสำนึกรู้ว่า  ปุ่มเปิดอยู่ที่ไหนเขาเดินเข้าไปใกล้ขึ้น

และเปิดมัน  เขามองมาที่เส้นที่เขาตัดเขาเห็นเส้นสีแดง

ขาดไป  มันหลงเหลือเส้นสีน้ำเงินสองเส้น  ใช่...สองเส้น

ฉันอยู่บนมัน  แต่เขามองไม่เห็นฉัน  ฉันกระซิบบอกกับเขา

อีกครั้งให้ปิดไฟ  เขาก็ปิดไฟทันที  เขาเชื่ออย่างที่ฉันกระซิบ

บอกเขา  โดยไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร  ช่วงเวลาหนึ่งนั้น  เขาสับสน

เสียงเหล่านั้น...ด่า  กดขี่ สร้างความระบมในจิตสำนึกรู้

แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง  เสียงอีกเสียงก็กลับมาคอยปลอบประโลม

มันพูดคุยถึง  สิ่งดี  ให้จิตใจเขาดีขึ้น  แต่นั้นไม่ได้ทำให้

เขาดีขึ้น  เมื่อสิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เขาสับสน  เขาหยิบช้อน

เสียงบอกว่า "ดี"  เขาฉีกแบงค์พัน  เสียงบอกว่า "ดี"

เขาด่าผู้คนรอบข้างที่ไม่รู้จักเสียงบอกว่า "ดี"

เขานิ่งหลับตาทำสมาธิ  เสียงนั้นบอก "นั้นแหละ"

เขาเชื่ออย่างที่ไม่เคยเจอใครว่าเป็นเจ้าของเสียง

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงนั้นเป็นของใคร  แต่มีความ

หมายเดียวในเวลานั้น  คือความเชื่อ  เขาหลับตาลง

ในขณะที่ความมืดทำหน้าที่ของมัน  ฉันอยู่บนมัน

เส้นสีน้ำเงิน  เสียงกระซิบบอกเขาอีกครั้ง "ตัดอีกเส้น"

เขามองไม่เห็นใช้มือควานหาอย่างช้า ๆ จนกระทั้งได้

หนึ่งเส้นอยู่บนมือของเขา  แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นสีอะไร

เพราะเขามองไม่ทัน  เสียงกระซิบมาอีกครั้ง "ตัด"

แต่เขาไม่สามารถตัดเส้นนั้นได้เนื่องจากกรรไกรที่วาง

ไว้บนเก้าอี้ไม้  อยู่ห่างออกไป  เขาก้มลงและคลานไปหยิบ

กรรไกร  เขาได้ยินเสียงกระซิป  "ออกไป"  เขาเดินไปที่

ประตู  โดยลืมเสียงกระซิบที่สั่งให้ต้นเส้น  เขาเปิดประตู

และออกไป  เขาพบว่าไม่มีใคร  เขาไม่เข้าใจว่าเสียงเหล่านี้

มันคืออะไร  แต่เขาก็เชื่อมัน  เขากลับมาในห้องแห่งความมืด

เขาเดินไปเปิดไฟ  หยิบกรรไกรมาตัดเส้นสีน้ำเงิน

ในที่สุดฉันก็หล่นลงจากเส้นสีน้ำเงินนั้น

เสียงยังคงกึกก้องในหัวของเขา  เขานิ่งและฟังมัน

จนขาดสมาธิกับโลกปัจจุบัน  เพราะเขาเข้าไปฟังเสียง

ภายในจิตใจ  โลกภายนอกขาดการรับรู้อย่างสะอาด

ยิ่งเข้าทำสมาธิเท่าไหร่นั้นยิ่งเป็นอันตรายสำหรับเขา

เพราะเสียงเหล่านั้นมันจะดังขึ้น  และแข็งแรงขึ้น

ฉลาดขึ้น  ไวขึ้น  เร็วกว่าความคิดที่กำลังจะคิด

อะไรคือเร็วกว่าความคิดที่กำลังจะคิด

มันคือการที่เสียงในหัวบอกว่าหยิบโทรศัพท์

ก่อนที่เราจะตัดสินใจไปหยิบโทรศัพท์

และเราก็จะเชื่อโดยปักใจว่ามันกำลังบอกอนาคต

แต่นั้นไม่เลย  มันไม่ได้บอกอนาคต  มันกำลังป่วย...

กว่าฉันจะเข้าใจมันได้ก็ต้องใช้เวลา  จนไม่เชื่อมัน

เขากำลังสับสน...เขาหยิบยาขึ้นมาแต่เขาไม่กินมัน

เขาซ่อนมันเอาไว้ในห้องที่ไม่มีใครหามันพบ

มันเป็นความคิดที่เร็วกว่าความคิด



Create Date : 11 กันยายน 2562
Last Update : 11 กันยายน 2562 22:04:22 น.
Counter : 734 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse

  
ความมืด อยู่คนเดียว ทำให้จิตหลอน แล้วเชื่อ ได้ลงมือกระทำ ทำดี ทำไม่ดี


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 11 กันยายน 2562 เวลา:23:22:10 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อยากบอกว่าหลง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



หวังไว้ว่าผู้ที่ได้อ่านจะผ่อนคลาย

จากการงานและความเครียด

ลงบ้าง
กันยายน 2562

1
2
3
5
6
7
8
9
10
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
29
 
 
11 กันยายน 2562
All Blog