อัลคาเทลกลายเป็นอีกเจ้าในตลาดที่มองเห็นถึงช่องทางการทำตลาดผ่านออนไลน์ โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับทาง ลาซาด้า ในการจำหน่าย Alcatel Onetouch Flash Plus ผ่าน Flash Sale ที่จะเป็นการขายเครื่องในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจเข้าไปเลือกซื้อ
โดยโมเดลการทำตลาดดังกล่าวทางลาซาด้าเคยทำมาแล้วกับประเทศอื่นในภูมิภาค และได้รับผลตอบรับที่ดี และในประเทศไทยก็มีเคยทำร่วมกับเลอโนโวมาก่อนหน้านี้ และก็ได้รับการตอบรับที่น่าพอใจเช่นเดียวกัน
จุดเด่นหลักเลยของ Alcatel Onetouch Flash Plus ที่นำมาจำหน่าย Flash Sale ในครั้งนี้เลยคือเรื่องของราคาที่ 4,690 บาท แต่ได้สมาร์ทโฟนขนาดจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ใช้หน่วยประมวลผลแบบ 64 บิต RAM 2 GB และรองรับการใช้งาน 4G แต่ก็เสียตรงที่ไม่รับ 3G บนคลื่น 850 MHz
การออกแบบและสเปก
ถ้ามองในแง่ของการออกแบบ ต้องยอมรับว่าอัลคาเทล มีการพัฒนาขึ้นมาจากเครื่องรุ่นก่อนหน้าอย่าง Onetouch Flash ที่แต่เดิมจะเป็นรูปร่างเหลี่ยมๆ ตัดชอบเงิน ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับสมาร์ทโฟนแบรนด์ทั่วๆไปในท้องตลาด แต่พอมาเป็น Onetouch Flash Plus มีการเพิ่มความโค้งมนให้ตัวเครื่อง พร้อมกับวัสดุที่ใช้ดูดีขึ้นโดยรอบตัวจะอยู่ที่ 152.3 x 76.4 x 8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 147 กรัม
ด้านหน้า - จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD (720p) ความละเอียดเม็ดสี 267ppi โดยมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ส่วนบน กับลำโพงสนทนาที่พาดอยู่ พร้อมไฟแสดงสถานะ และเซ็นเซอร์วัดแสง และตรวจจับใบหน้า
ล่างหน้าจอมี 3 ปุ่มหลักของแอนดรอยด์คือ ปุ่มเมนู ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ โดยสังเกตได้ว่าปุ่มหลักยังเป็นปุ่มเมนูอยู่ ไม่ใช่เป็นปุ่มเรียกดูแอปล่าสุด เพราะตอนที่ผลิตเครื่องยังทำตอนที่แอนดรอยด์ 5.0 ยังไม่ออก ทำให้ปุ่มฮาร์ดแวร์ที่มาไม่ได้ถูกเปลี่ยนตามไปด้วย
ด้านหลัง - จะมีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่นูนขึ้นมาจากชิ้นเลนส์ และเซ็นเซอร์ โดยมีขอบเงินล้อมรอบอยู่ ถัดลงมาเป็นแฟลช LED โดยมีช่องไมค์ตัดเสียงอยู่ข้างบนกล้อง ถัดลงมามีสัญลักษณ์ Alcatel One Touch พาดอยู่กึ่งกลาง ส่วนล่างจะมีสัญลักษณ์มาตรฐานต่างๆ และช่องโพง ตัวเครื่องไม่สามารถถอดฝาหลังได้ แต่ภายในจะมีแบตเตอรีขนาด 3,500 mAh อยู่
ด้านซ้าย - จะมีช่องสำหรับใส่ไมโครซิมการ์ด 1 และไมโครเอสดีการ์ด ที่มีฝาปิดอยู่ ทั้งนี้ภายในกล้องจะมีอุปกรณ์เป็นพลาสติกไว้ใช้จิ้มซิม และการ์ดออกมาด้วย เพราะใส่ไปแล้วจะค่อนข้างลึก ทำให้ไม่สามารถใช้เล็บจิกออกมาได้ ด้านขวา - เป็นช่องไมโครซิม 2 (รองรับเฉพาะ 2G) และปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง
ด้านบน - มีเพียงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. เท่านั้น ด้านล่าง - เป็นพอร์ตไมโครยูเอสบี และไมค์สนทนา
สำหรับสเปกภายในของ Onetouch Flash Plus จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Mediatek MT6752M ที่เป็น Octa Core 1.5 GHz 64 บิต RAM 2 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16 GB สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้สูงสุด 32 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.4.4 (Kitat)
ด้านการเชื่อมต่อซิมแรกรองรับ 4G และ 3G บนคลื่น 900/2100 MHz (ไม่สามารถใช้งาน 3G ดีแทค และทรูมูฟเอชได้) ส่วนซิมสองรับแค่ 2G นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไวไฟมาตรฐาน 802.11 b/g/n บลูทูธ 4.0 มี GPS วิทยุFM
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ในส่วนของอินเตอร์เฟสการใช้งาน อัลคาเทล พยายามที่จะเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน โดยเริ่มกันตั้งแต่หน้าจอปลดล็อก ที่นอกจากแสดงวันเวลา แล้วตรงส่วนของปลดล็อกจะมีให้เลือกว่า ถ้าต้องการปลดล็อกเฉยๆให้เลื่อนลง ถ้าเลื่อนขึ้นจะเป็นการเข้าสู่โหมดกล้องแทน นอกจากนี้ก็จะมีปุ่มโทรศัพท์ และข้อความให้ลากเพื่อเข้าใช้งานได้ทันที
นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นพิเศษอย่างการลากนิ้วเป็นตัวอักษร (รูปแบบสั่งการ Smart) เพื่อเข้าโหมดลัดในการใช้งานตามที่ตั้งไว้ อย่างวาดตัว O เพื่อเปิดกล้อง ตัว Z เปิดเว็บเบราว์เซอร์ C เปิดโทรศัพท์ M เครื่องเล่นเพลง และแตะ 2 คร้งเพื่อปลุก โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกดเปิดหน้าจอขึ้นมาก่อนแต่อย่างใด
ถัดมาคือฟังก์ชันพิเศษที่ให้มาอย่างการรับสายโดยการนำโทรศัพท์แนบหู ปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยการปัดมือไปมา รวมถึงการวาดมือผ่านเซ็นเซอร์เพื่อเปลี่ยนรูป ถ่ายภาพ ซึ่งถ้ามองแล้วก็เหมือนเป็นลูกเล่นที่เพิ่มขึ้นมาอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เป็นหลัก
แถบการแจ้งเตือน นอกจากไว้แจ้งเตือนตามปกติแล้ว ผู้ใช้สามารถสลับไปยัง สวิตซ์ เพื่อเข้าไปเลือกสลับตำแหน่งการตั้งค่าต่างๆได้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยสามารถเลือกมาไว้ได้ 11 รูปแบบ อย่างการเปิดปิด ไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส การใช้งานบนเครื่องบิน ไฟฉาย เสียง และยังมีส่วนของการปรับเปลี่ยนธีมด้วย
ส่วนที่เหลือตัว Flash Plus ก็สามารถใช้งานได้เหมือนแอนดรอยด์ทั่วๆไป โดยเบื้องต้นแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องก็จะมีบริการต่างๆของกูเกิล พร้อมกับการใช้งานพื้นฐานอย่าง โทรศัพท์ กล้อง เครื่องเล่นเพลง ปฏิทิน
นอกจากนี้ ก็จะมีการรวมโฟลเดอร์แอปต่างๆเป็นกลุ่มๆไว้ อย่างระบบ ที่จะมีพวกตัวจัดการไฟล์ ตัวปล่อยฮอตสปอต จัดการพลังงาน ถัดมาคือเครื่องมือ อย่างเครื่องคิดเลข ไฟฉาย เข็มทิศ บันทึกเสียง อีเมล สแกนบาร์โค้ด สังคม ไว้รวมพวกโซเชียลเน็ตเวิร์ก สื่อ คือพวกเครื่องเล่นเพลง ภาพยนตร์ ความช่วยเหลือ จะเก็บพวกศูนย์รวมแอป การช่วยเหลือต่างๆ
ในส่วนของการดาวน์โหลดแอป จริงๆแล้วผู้ใช้สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จากกูเกิลเพลยสโตร์ได้ทันที แต่ทางอัลคาเทลมีการใส่ zApp มาให้เพิ่ม เพื่อช่วยในการอัปเดตแอปให้ทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งในความเป็นจริงออกจะสร้างความรำคาญในการใช้งานมากกว่า เพราะต้องมาคอยสลับอัปเดตกับทางเพลยสโตร์ ทั้งนี้ตัวเครื่องจะเหลือพื้นที่ให้ใช้งานราว 11 GB
ส่วนของโหมดกล้องถือว่าทำมาเน้นการใช้งานง่ายเป็นหลัก โดยจะมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือก 3 แบบ หลักๆคือ ภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ และพาโนราม่า สามารถใช้นิ้วเลื่อนบริเวณปุ่มชัตเตอร์เพื่อสลับโหมดได้ทันที
ถ้าต้องการตั้งค่าถ่ายภาพก็สามารถกดที่ปุ่มเพิ่มเติม เพื่อเข้าไปเลือกตั้ง ความสว่าง ความคมชัด ตัวกรอง (ใส่เอฟเฟกต์ภาพ) เลือกโหมด HDR ถ่ายภาพแบบซ้อนภาพจากกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน โหมดหน้าสวย ที่เลือกใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง ที่น่าสนใจคือสามารถแยกจุดวัดแสง และจุดโฟกัสได้ โดยการกดปุ่มบวกข้างๆจุดโฟกัส
การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ที่ให้มา มีความเร็วในการเรียกใช้งานในระดับหนึ่ง การตอบสนองทำได้ดี สามารถเปิดใช้งานหน้าเว็บได้อย่างลื่นไหล ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน
คีย์บอร์ดที่ให้มากับตัวเครื่องเป็นคีย์บอร์ดแบบพื้นฐานของแอนดรอยด์ รองรับการใช้งานทั้งภาษาไทย อังกฤษ เพียงแต่เมื่อใช้งานครั้งแรกอาจต้องมีการเข้าไปเพิ่มภาษาก่อน หรือถ้าไม่ชอบก็สามารถเข้าไปโหลดคีย์บอร์ดตัวอื่นจากเพลยสโตร์ได้
โหมดการใช้งานโทรศัพท์ เนื่องจากเป็นเครื่องที่รองรับการใช้งาน 2 ซิม ในหน้าจอกดเลขหมายถ้าใส่สองซิมก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะโทรเข้าจากซิมไหน มาพร้อมระบบคาดเดารายชื่อจากเบอร์ และตัวอักษร หน้าจอขณะสนทนาจะมีชื่อขึ้น พร้อมกับเวลาสนทนา และปุ่มลัดสำหรับเรียกแป้นตัวเลจ เปิดลพโพง ปิดเสียง เข้ารายชื่อผู้ติดต่อ บันทึกเสียง พักสาย เพิ่มสาย ส่วนจอสายเรียกเข้าจะสามารถใช้นิ้วลากตรงปุ่มรับสายลงเพื่อรับสายได้ทันที
ส่วนของการตั้งค่าตัวเครื่องจะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือตั้งค่าทั่วไป ที่จะนำการตั้งค่าบางส่วนที่ใช้งานบ่อยๆออกมาให้เลือก อย่างการเลือกเครือข่ายมือถือ เปลี่ยนเสียงเรียกเข้า ภาพพื้นหลัง การเชื่อมต่อไวไฟ จัดการแอปพลิเคชัน และบลูทูธ
อีกส่วนคือการตั้งค่าทั้งหมด ที่จะเป็นรูปแบบมาตรฐานของแอนดรอยด์ แบ่งการตั้งค่าออกเป็น การเชื่อมต่อ อุปกรณ์ ส่วนบุคคล บัญชีผู้ใช้ และตั้งค่าระบบ โดยจะมีโหมดที่น่าสนใจให้เลือกคือเรื่องของการประหยัดพลังงานที่จะช่วยยืดเวลาการใช้งานบนแบตเตอรี และอีกอันคือการตั้งค่าสีของหน้าจอที่สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ตามต้องการ
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 14,054 คะแนน และ 39,711 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 5 จุดพร้อมกัน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo จากเว็บเบราว์เซอร์ได้ 2,501 คะแนน โครมเบราว์เซอร์ 2,801 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ (Metal) 1,073 คะแนน Multicore 1,505 คะแนน Geekbench Single Core 727 Multi Core 3023 สำหรับระยะเวลาการใช้งานบนแบตเตอรีจะอยู่ที่ 9 ขั่วโมง 27 นาที 20 วินาที คิดเป็นคะแนนได้ 5,438 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 3,806 คะแนน CPU 27,215 คะแนน Disk 11,438 คะแนน Memory 3,804 คะแนน 2D Graphics 3,671 คะแนน และ 3D Graphics 970 คะแนน
ส่วนการทดสอบ 3D Mark ตัว Ice Storm Unlimited ได้ 9,458 คะแนน ส่วน Ice Storm Extream 5,872 และ Ice Storm คะแนนทะลุเกินไป PCmark จะอยู่ที่ 3,458 คะแนน
จุดขาย
- เครื่องสเปกดีในราคาไม่ถึง 5 พันบาท
- รองรับ 4G
- กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ไม่รับ 3G บนคลื่น 850 MHz
- ตัวเครื่องร้อนง่ายเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ถ้ามองว่าต้องการสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ราคาไม่สูงมาก แต่ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานครบถ้วน ต้องบอกว่า Alcatel Onetouch Flash Plus ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพียงแต่ด้วยการที่มีจำหน่ายผ่านช่องทาง Flash Sale ของลาซาด้าเท่านั้น ทำให้ปิดโอกาสที่จะได้จับเครื่องจริงก่อนซื้อ แต่ก็และมาด้วยระดับราคาที่หาได้ยากกับรุ่นสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
ที่น่าเสียดายก็คือในเรื่องของความเฉพาะตัวที่อัลคาเทลไม่ได้สร้างจุดเด่นอะไรขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกว่าใช้งานเครื่องของอัลคาเทลเท่านั้นอยู่ เพราะแม้แต่การดาวน์โหลดแอปเสริมก็ไปผูกกับบริการอย่าง zApp แทนที่จะผูกกับเพลยสโตร์เพียงอย่างเดียว
การที่อัลคาเทลพยายามชูเรื่อง Selfie ด้วยกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล อาจจะดูแล้วน่าสนใจ แต่ในความเป็นจริง การใช้งานโดยรวมของ Flash Plus ถือว่าครอบคลุมอยู่แล้ว ที่สำคัญคือรองรับการใช้งาน 4G ด้วย ถ้าไม่ได้ติดแบรนด์ และเรื่องของบริการหลังการขายมากนักรุ่นนี้ถือว่าผ่านเมื่อเทียบกับราคา
ที่มา CyberBiz Online | |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [
