The world around us: My perspective
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
มีมี่ ... เหมียวพุงยุ้ยยย

ความเดิมตอนที่แล้ว พอเหมียวเดลตามเจ้าของไปที่อื่น เราก็ทนเหงาไม่ไหวจนต้องไปรับเลี้ยงเจ้าเหมียวมีมี่มา

ความตอนปัจจุบัน
เจ้ามีมี่มาอยู่ด้วยกับเราตั้้งแต่ยังเด็ก ตัวเล็กขนาดที่นั่งบนฝ่ามือผมได้สบายๆ
อื้ม ดูท่าชะตาเราจะได้เลี้ยงแมวน่ารักๆ ตัวเพรียวๆ เป็นแน่ ก็เจ้ามีมี่น่ะซี้ ตัวเล็กผอมเพรียวเสียเหลือเกิน
พวกเราก็ห่วงว่าจะอ่อนแอไปหรือเปล่า ช่วงแรกเลยบำรุงเสียเยอะ ไม่ยอมให้กินอาหารอ่อนเลย เอาแต่ป้อนนมๆๆๆๆ กะว่าจะเสริมสารอาหาร จะได้แข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้ แต่ขนหน้าแข้งก็ร่วงไปเยอะเหมือนกัน ก็ไอ้เจ้านมสำหรับแมวนี่ มันแพงใช้ได้เลย จำราคาไม่ได้แน่นอน แต่น่าจะประมาณ 4-5 US ต่อกระป๋อง
(ประมาณ 160-200 บาทนั่นแหละ) แถมกระป๋องนึงก็กินได้สองครั้งเอง ไหนจะค่าวัคซีนป้องกันหมัด ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ไหนจะต้องพาไปติด microchip เผื่อไว้ใช้ค้นหามันตอนหายออกจากบ้าน ฯลฯ

แล้วพวกเราก็ไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงแมวในบ้านมาก่อนเลย แถมยังเป็นแมวเด็กอีกต่างหาก
ช่วงแรกก็เจอปัญหาพอสมควร อย่างแรกเลยคือเจ้ามีมี่นี่ซนมากๆ พอมาอยู่บ้านของเราที่ของเยอะแยะเต็มไปหมด (มี 4 คนแชร์อพาร์ทเมนต์กันอยู่) ซอกและมุมก็เลยมีชุกชุมเป็นที่เพลิดเพลินใจของมีมี่เป็นเช่นนัก แม้ผมกับจิ๋งจะเป็นเจ้าของมีมี่ตัวจริง แต่ทั้งหมดสี่คนก็ไม่รอดพ้นโดนเจ้ามีมี่บังคับให้เล่นซ่อนหาด้วยเป็นประจำ แถมเจ้าตัวก็หายากมากๆ ด้วยความที่ตัวเล็ก เสียงร้องก็ค่อยๆ พวกเราก็กลัวว่าเธอจะไปซ่อนแล้วออกมาไม่ได้ กลัวโน่นกลัวนี่เต็มไปหมด ด้วยความปวดหัวที่เพิ่มขึ้นๆ ผมก็เลยเอาทั้งผ้า ทั้งกระดาษไปแปะไว้ตามซอกเล็กซอกน้อยจนหมด

ช่วงนั้นมีมี่จะขี้กลัวเอามากๆ ขนาดผมเปิดประตูอพาร์ทเม้นต์ไว้ เธอยังไม่กล้าเดินออกไปข้างนอก
ไอ้ผมก็กลัวแมวจะไม่ได้เห็นโลกภายนอก เวลาจะเอาถุงขยะออกไปทิ้งก็เลยจับมีมี่ขึ้นคอ พาดบ่าออกไปด้วยเสมอ ช่วงแรกมีมี่ก็เกร็งจนเล็บจิกไหล่ผมเจ็บ แต่ตัวยังเล็กก็เลยไม่เป็นไร พอทำอย่างนี้ไปนานๆ กลายเป็นว่าเธอกลับติดที่จะนั่งไหล่ผมไปเสียนี่ ดังนั้นเวลาโดนผมอุ้มเมื่อไหร่ มีมี่จะพยายามพลิกตัวแล้วปีนมานั่งบนไหล่เสมอ บางครั้งพอสบายๆ ใจ คุณเธอก็จะนอนพาดหลังหลับตาพริ้มเลย

คราวนี้ถ้ามีมี่ตัวเล็กตลอดไปก็คงไม่เป็นไรน่ะสิครับ แต่นี่ผมเอารูปเจ้ามีมี่ตอนปัจจุบัน (3 ขวบ) มาให้ดู
พุงยุ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไหมเล่า????
ตัวขนาดนี้ นั่งไหล่ทีนะ พุงปลิ้นออกมานอกไหล่ผมเลยล่ะ บางทีเวลานั่งไหล่แล้วพุงหลุดเนี่ย มีมี่ก็จะขยับไปนั่งบนหลังแทน นั่นก็หมายความว่าผมต้องก้มตัวให้หลังขนานกับพื้นมากขึ้น เพื่อให้มีมี่นอนได้ถนัดขึ้น ตัวขนาดนี้นะคุณ นั่งทีก็แทบจะเต็มหลังเลยล่ะ



เอ้า ให้ดูพุงกันอีกที เห็นไหมว่ามีมี่น่ะ ถ้าดูแต่หน้า ดูแต่หัว จะเห็นหัวเล็กๆ หน้าเล็กๆ ดูเป็นสาวหวาน
แต่พอดูพุงกะทิ ว้าววว ช่างอวบอั๋นเสียเหลือเกิน



อันนี้รูปแถมครับ แบบว่าตอนเช้าๆ เวลาที่ผมกำลังรีบๆ จะไปทำงาน เอาเสื้อผ้ามาวางไว้ที่เตียงแล้วก็ออกไปเอาของ กลับเข้ามาร้องจ๊าก กลายเป็นที่นอนคุณเธอไปเสียแล้ว



ย้อนกลับมาตอนมีมี่ยังเด็กกันต่อนะครับ
หลังจากที่มีมี่เริ่มชินกับข้างนอก แล้วตัวก็ใหญ่ขึ้นพอที่เราจะปล่อยออกบ้าง ทุกๆวันมีมี่ก็จะได้ออกไปเดินข้างนอก 15 นาทีบ้าง ครึ่งชั่วโมงบ้าง หนึ่งชั่วโมงบ้าง แล้วแต่สภาพอากาศในวันนั้น แถมวันไหนผมเล่นเกมส์กับเพื่อนก็เปิดประตูทิ้งไว้แบบลืมไปเลย แต่ก็ไม่เคยมีปัญหา เพราะพอผมเรียกมีมี่เมื่อไหร่ เจ้าตัวจะวิ่งปรู๊ดขึ้นบันไดแล้วพุ่งเข้าประตูอพาร์ทเม้นต์ในทันที ไม่ครับ อย่าคิดว่ามีมี่รักบ้าน มันขี้ขลาดต่างหาก แบบว่าได้ยินเสียงอะไรดัง มีคนคุยกัน เสียงซ่อมบ้าน ฯลฯ เธอจะวิ่งไปหลบมุมทันที ซึ่งก็นิสัยนี่แหละที่ทำให้เราไม่เคยมีปัญหากับการที่มีมี่ออกไปเที่ยวข้างนอกทีละนานๆ

แต่มันก็เกิดเรื่องจนได้ในวันหนึ่ง วันที่เราหาเจ้ามีมี่ไม่เจอ หาทุกซอกที่มีมี่ชอบไปซ่อน ทุกมุมในบ้านที่แมวพอจะหลบได้ แต่หายังไงก็ไม่เจอ หากันเกือบชั่วโมงเลยครับ จนเหนื่อยและสรุปว่ามันคงอยู่นอกบ้านเป็นแน่

แต่พอผมร้องหามีมี่ มันก็ไม่วิ่งกลับมาเหมือนเก่า ผมลองลงไปหาก็ไม่เจอ พวกพุ่มไม้นี่อย่าหวังว่าจะเจอ แบบว่าเมืองที่ผมอยู่นี่ เป็นเมืองในรัฐเนวาด้าครับ ประมาณว่าอยู่ท่ามกลางทะเลทรายกับคาสิโน ไอ้พุ่มไม้เล็กๆ น้อยๆ นี่พอมีครับ แต่ไม่เยอะแยะจนถึงจะหาแมวตัวนึงไม่เจอ

พอสักพัก หิมะก็เริ่มตก (ใช่ครับ หิมะตกในเมืองทะเลทราย เป็นเรื่องปกติครับ)
พวกเราก็เริ่มจิตตก กลัวเจ้ามีมี่จะหนาว กลัวจะขาดอาหาร ขาดความอบอุ่น
ผมเริ่มออกเดินหาตามบ้านใกล้เรือนเคียง กลัวใครเอาแมวเราไปเก็บไว้ในบ้าน แต่หาอยู่นานก็ไม่เจอ
ผมออกเดินหาตั้งแต่หิมะเริ่มตก จนกระทั่งหิมะตกหนาเป็นนิ้ว หนาวมากๆ เพราะตอนออกเดินใส่แต่เสื้อยืดตัวเดียว หาจนถอดใจ แล้วเดินคอตกกลับบ้าน

ทั้งปลา จิ๋ง และผม (ก้อง เพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นต์ออกไปทำงาน) ต่างก็ไม่มีใครหามีมี่เจอ
เราสามคนที่กำลังเศร้าๆ ก็เลยนั่งทอดอาลัยกันอยู่สามคนที่โซฟาหน้าทีวี

"แอ๊ว" เสียงค่อยๆ ลอยมากระทบโสต ผมวิ่งไปเปิดประตู แต่ก็ไม่เห็นเจ้ามีมี่เลย เอ หรือผมหูฝาดไป
"แอ๊ว" เสียงเดิมลอยมาเข้าหูซ้ำอีกครั้ง ใช่เสียงมีมี่แน่นอน แต่ว่ามันอยู่ไหนล่ะ
"แอ๊ว" เสียงใกล้มากๆ แต่ก็ค่อยมากๆ เช่นกัน พวกเราสามคนวิ่งกระจายกันออกหาทั่วอพาร์ทเม้นต์อีกครั้ง
แต่เหลว หายังไงก็ไม่เจอ แถมเสียงก็หายไปแล้วด้วย พวกเรางงกันสุดๆ จิ๋งถึงกับเศร้าจนคิดไปว่าเป็นเสียงมีมี่ที่ตายไปแล้วแต่กลับมาทักทายพวกเรา (ว่าเข้าไปนั่น .. คิดอีกทีก็ยังรู้สึกว่าเธอคิดไว้เว่อร์เหลือเกิน)

พอหาจนอ่อนใจก็ไม่เจอ พวกเราก็เดินกลับมาที่โซฟา แล้วก็นั่งลงไปอีกครั้ง

"แอ๊ว"
เฮ้ยยยยยย ได้ยินอีกแล้ว ไม่ใช่เสียงแว่ว เสียงวิญญาณแน่นอน เสียงมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
เราสามคนมองหน้ากัน แล้วก็ตกลงใจค้น....

ปรากฏว่าเจอครับ เจอในไหนรู้ไหมครับ ในเบาะเอนของโซฟาเลยครับ
คือไอ้โซฟาของเราน่ะมันเก่าแล้ว ก็เลยมีรอยขาดอยู่บ้าง รูมันไม่ได้ใหญ่นัก แต่เจ้ามีมี่ตัวเล็กก็พอแทรกเข้าไปได้ แล้วเธอคงเข้าไปติดอยู่กับสปริงในเบาะมาเป็นชั่วโมงๆ แต่คงออกไม่ได้ ที่ทำได้ก็แค่ร้องแอ๊วค่อยๆ เรียกพวกเราแค่นั้น เราสามคนดีใจกันมากๆ แต่กว่าจะเอาเจ้าตัวซนออกมาได้ก็ใช้เวลาพอดู เพราะมันเข้าไปอยู่เสียลึก แถมไม่ค่อยร่วมมือในการช่วยชีวิตตัวเองเสียอีก

ส่วนโซฟานั่นก็ ใช่ครับ จากที่โทรมๆ อยู่แล้ว ก็โดนเรารื้อเสียกระจุยยิ่งกว่าเดิม
พูดแล้วก็หมั่นไส้เจ้าีมีมี่จอมซนเสียเหลือเกิน ทำให้เป็นห่วงแล้วยังทำไม่รู้ไม่ชี้เสียนี่

ดีที่ตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว ที่บ้านไม่มีโซฟาให้เธอไปแอบ (แต่ไปนอนในตู้เสื้อผ้าแทน)
แถมตัวเธอก็ใหญ่จนแทรกเข้าไปในที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เดี๋ยวนี้จะมุดเข้าไปใต้ตู้เย็นยังติดพุงเล้ยยยยยย

หุๆๆ วันนี้เล่าเสียยาว ขอจบไดอารี่ของเจ้าเหมียว(ไม่)น้อยยไว้แค่นี้ก่อนครับ :-)


Create Date : 18 สิงหาคม 2550
Last Update : 18 สิงหาคม 2550 21:59:52 น. 7 comments
Counter : 1505 Pageviews.

 
มีมี่น่ารักเชียวค่ะพี่พล



สบายดีนะคะ ไม่ได้คุยกัยตั้งนาน


โดย: aquaworld วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:9:53:22 น.  

 
มีแมวน่ารักมากนะคะ ดีใจจังมีคนรักแมวมาก ๆ แบบนี้เนอะ


โดย: นุ่น IP: 203.154.52.47 วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:11:47:41 น.  

 
เห็นพุงแล้ว น่าจับขย้ำ จังคะ


โดย: No matter what... วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:12:51:32 น.  

 
ชอบ ชอบ จังเยย เหมือนเราเลย


โดย: vichee วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:23:15:37 น.  

 
เขียนอีกเยอะ ๆ นะคะ พิมพ์รวมเล่มขายเลยยิ่งดี หนูจะซื้อคนแรกเลย


โดย: loukkid IP: 58.147.74.4 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:02:10 น.  

 

เจ้ามีมี่น่ารักนะ แต่เจ้าเทาสิ หายไปแล้ว ไม่กลับมาด้วย ..เศร้าจัง


โดย: มะปรางค์ IP: 125.27.245.243 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:11:48:54 น.  

 
5555+
น่ารักมากมายเลยคร้า


โดย: reborn_hibari IP: 58.9.14.139 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:5:54:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MrET_TK
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




วิศวกรคอมพิวเตอร์โดยปริญญา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นอาจารย์ในที่สุด (แถมเป็นคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเป็นวิทยากรด้านการตลาดออนไลน์ให้กับสถาบันในเครือกรุงเทพธุรกิจและเว็บ exitcorner รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทเอกชน

ปัจจุบันผมเขียนบทความใน fan page เป็นประจำ (http://www.facebook.com/dr.ekkasit กับ http://www.facebook.com/InspireRanger)
Friends' blogs
[Add MrET_TK's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.