The world around us: My perspective
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
ทัศนคติผิดๆ ของรุ่นพี่และเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยที่พวกเราพึงระวัง

เห็นว่าเปิดเทอมมาได้สักพักแล้ว เลยขอฝากอะไรไว้ให้นิสิตนักศีกษารุ่นใหม่ได้รู้กันเอาไว้ ว่าคำพูดของรุ่นพี่ทั้งหลาย (รวมถึงของเพื่อนๆ ในรุ่น) นั้นหลายครั้งก็มีค่านิยมและความเชื่อผิดๆ ที่พึงระวังอย่าไปหลงทำตาม ที่ได้ยินกันบ่อยๆ ก็ได้แก่

*พวกดูถูกสถาบันตัวเอง*
1 - โอ้ย พี่เรียนมา 3-4 ปีแล้วยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
2 - พี่จะจบอยู่แล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองจะทำงานอะไรเลย
*ความจริงก็คือ*
- ที่พวกนี้ไม่รู้เรื่องอะไร ก็เพราะไม่คิดจะขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวเอง เวลาเรียนก็ไม่ค่อยเข้าเรียน จดก็ไม่จดแต่ใช้ถ่ายเอกสารของเพื่อนแทน เวลาทำรายงานหรือการบ้านก็ใช้วิธีลอกจากเว็บ (หรือไม่ก็ลอกเพื่อน โดยเพื่อนก็ลอกเว็บอีกที) ... โดยมากแล้วพวกนี้จะเป็นพวกเรียนไม่เก่งแต่สังคมดี คือเอาเวลาทำการบ้านไปออกสังคมหมดทำให้คุยเก่ง ดังนั้นปี 1 ทั้งหลายอาจเคลิ้มเมื่อฟังพวกนี้ แต่ขอให้ฟังเอาสนุกอย่างเดียว อย่าไปเชื่อเด็ดขาด การบอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรนั้น เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่าพวกนี้เอาเวลา 3-4 ปีในมหา'ลัยไปทิ้งขว้าง ดังนั้นจะไปฟังพวกนี้ทำไมกัน???

*พวกบ้าอำนาจ*
1 - รุ่นน้องปีนี้มันแย่จริงๆ ไม่เห็นเคารพรุ่นพี่กันเลย ระวังโดนตัดรุ่นนะ
2 - ตัว O ใน SOTUS คือ order แปลว่าคำสั่ง ดังนั้นรุ่นน้องต้องฟังคำสั่งรุ่นพี่ (อันนี้ผมได้ยินเด็กวิศวะยืนสอนน้องมากับหู ฟังแล้วปวดตับยิ่งนัก)
*ความจริงก็คือ*
- รุ่นพี่ที่พูดแบบนี้ ปีที่แล้วก็ไม่ได้เคารพรุ่นพี่กันนักหรอก และก็โดนขู่แบบนี้มาต่อๆ กันมาแทบทุกรุ่น แล้วรุ่นพี่บางคนยังทำตามคำสอนที่ตัวเองบอกน้องไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ส่วนคำว่า Order นั้นแปลว่า ระเบียบวินัย ไม่ได้หมายความว่ารุ่นน้องต้องทำตามคำสั่งรุ่นพี่แต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำสั่งที่ไร้เหตุผลทั้งหลาย (อ่า ผมไม่ได้ต่อต้านระบบ SOTUS นะครับ เพราะตอนผมเรียนวิศวะบางมด ผมก็เป็นพี่ว้าก เพียงแต่ว่าเด็กวิศวะปัจจุบันมันแปล Order ได้เพี้ยนเกินจะทน เฮ่อออ)

*พวกที่คิดว่า ถ้าผิดหลายคนก็จะกลายเป็นถูก*
1 - เวลาเพื่อนพูดอังกฤษกับอาจารย์ฝรั่ง ก็จะกรี๊ดกร๊าดล้อเพื่อนอยู่ข้างๆ
2 - เวลาเพื่อนขยันอ่านหนังสืออยู่ที่หอ ก็จะจับกลุ่มกันบ่นว่า ซุ่มว่ะ
*ความจริงก็คือ*
- การพยายามฝึกภาษาอังกฤษ กับการขยันอ่านหนังสือ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ทำไมคนพูดอังกฤษกับคนอ่านหนังสือที่หอถึงต้องโดนเพื่อนล้อในสิ่งถูกต้องที่ตัวเองทำด้วยล่ะ เพียงเพราะว่าพวกเขาเป็นส่วนน้อยของสังคมเท่านั้นเหรอครับ ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ดังนั้นต่อไปถ้าใครจะล้อเพื่อนเรื่องพูดภาษาอังกฤษ ขอให้รู้ตัวไว้เถิดว่าคุณกำลังขวางความเจริญของเพื่อนคุณเอง (รวมถึงของสังคมไทยด้วยนะ)

*พวกคิดว่าขี้เกียจแล้วเท่ห์*
1 - โอย ใครอ่านหนังสือก่อนสอบกัน อั๊วอ่านก่อนแค่คืนเดียวเฟ้ย
2 - กระจอกว่ะ ตรูอ่านก่อนสอบชั่วโมงเดียวเองงง
*ความจริงก็คือ*
- มันไม่เท่ห์เลย ... และผมรู้ว่านิสิตนักศึกษาหลายคนคงค้านอยู่ว่าแค่พูดสนุกๆ เท่านั้น แต่ผมคิดว่ามันเป็นการปลูกฝังภาพลักษณ์และอุดมคติที่ผิดว่าทำงานน้อยๆ แค่ให้ผ่านก็พอแล้ว ทำให้สังคมไทยในปัจจุบันมีพวกชอบทำงานน้อยๆ แบบขอไปทีกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ (แล้วมาตรฐานของคำว่า "ผ่าน" ก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน เฮ่อ) ... ดังนั้นถ้าจะจับกลุ่มล้อใครสักคน มาล้อเจ้าพวกเท่ห์แบบผิดๆ นี่ดีกว่าครับ

*พวกรักเพื่อนแบบผิดๆ*
1 - เราจะจบไปด้วยกันให้ได้
2 - เพื่อนไม่ช่วยทำงานเลย แต่ทำๆ ไปให้มันก่อนละกัน เพื่อนกันนี่
*ความจริงก็คือ*
- มีนิสิตนักศึกษาที่ไม่ได้มาตรฐานหลายต่อหลายคนที่จบปริญญาไปเพราะเหตุผลผิดๆ แบบนี้ เพราะเพื่อนๆ ที่คิดว่านี่เป็นการช่วยเหลือเพื่อน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นการทำร้ายเพื่อน ทำให้เพื่อนช่วยตัวเองไม่ได้ ทำงานเองไม่ได้ และสุดท้ายก็กลายเป็นทำร้ายสังคมต่อเนื่องไปด้วย ยิ่งถ้าเพื่อนที่ถูกช่วยนั้นทำงานเป็นครูในโรงเรียนมัธยมหรือประถม ทัศนคติผิดๆ แบบนี้ก็จะถูกเขาปลูกฝังเป็นทอดๆ สู่เด็กในโรงเรียน ถ้าเพื่อนเป็นพนักงานในองค์กร เขาก็จะปล่อยทัศนคตินั้นให้รุ่นน้องในที่ทำงานต่อๆ ไป

ดังนั้นการที่เรายอมให้เพื่อนงอมืองอเท้าตอนทำการบ้านหรือรายงานด้วยกันนั้น ผมมองว่าเหมือนกับเราทำขายตรงแบบ MLM ที่มีเพื่อนเราเป็นดาวน์ไลน์ จากนั้นเจ้าดาวน์ไลน์คนนี้ก็จะเอาระบบขายตรงมรณะนี้ส่งต่อไปยังดาวน์ไลน์คนอื่นๆ ต่อไปเป็นทอดๆ จาก 1 เป็น 2, 4, 8, ... (นึกเอาเองละกันว่าสายของการขายตรงมันเยอะขนาดไหน)

อ่า วันนี้ขอจบการบ่นแต่เพียงเท่านี้ ;-P

------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้ผมจะเขียนบทความทั้งเรื่อง E-Commerce เรื่องภาษาอังกฤษ และเรื่องอื่นๆ อีกที่อยากคุย ใส่ไว้ใน fan page ก่อนแล้วก็อปมาวางไว้ที่บล็อกครับ ดังนั้นถ้าใครสนใจ ก็สามารถตามไปที่ //www.facebook.com/dr.ekkasit ได้เลย

หรือแวะไปดูสัมมนาการตลาดออนไลน์ที่ผมทำกับสถาบันปัญญาธุรกิจของเครือเนชั่นได้ที่ //www.nation-education.com/enews/SocialBeauty-Jun8/Outline.pdf (กำลังจะมีรอบที่ 2 ในเดือนกันยายนครับ โปรดรอติดตาม)




Create Date : 07 กรกฎาคม 2555
Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 21:58:26 น. 0 comments
Counter : 1252 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MrET_TK
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




วิศวกรคอมพิวเตอร์โดยปริญญา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นอาจารย์ในที่สุด (แถมเป็นคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเป็นวิทยากรด้านการตลาดออนไลน์ให้กับสถาบันในเครือกรุงเทพธุรกิจและเว็บ exitcorner รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทเอกชน

ปัจจุบันผมเขียนบทความใน fan page เป็นประจำ (http://www.facebook.com/dr.ekkasit กับ http://www.facebook.com/InspireRanger)
Friends' blogs
[Add MrET_TK's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.