พอโตแล้วลืมความฝันของตัวเองไปบ้างหรือเปล่าครับ??
ตอนเป็นเด็กนั้น บางทีมีไอเดียน่าสนใจอยากทำอะไรสักอย่างแล้วก็ชอบเก็บเอาไว้ยังไม่ยอมเท่า พร้อมมีข้อแก้ตัวว่า ตอนนี้เรียนให้ดีก่อน (ทั้งๆ ที่เกรดก็ไม่เห็นจะดีนัก ฮะๆๆ) หรือไม่ก็อ้างว่ารอให้ทำงานมีประสบการณ์ก่อน รอให้มีเงินทุนก่อน ฯลฯ แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไอ้จำนวนข้อแก้ตัวนั้นจะเพิ่มเป็นเท่าตัว เมื่อก่อนผมก็เคยคุยกับเพื่อนบางคนไว้ว่าพอเรียนจบแล้วก็จะไปทำงานหาประสบการณ์สักพักแล้วค่อยกลับมาทำงานร่วมกัน แต่พอถึงเวลา ทุกคนต่างก็มีภาระกันทั้งนั้น บางคนผ่อนบ้านผ่อนรถ บางคนแต่งงาน หรือไม่ก็มีภาระที่ทำให้ไม่สามารถเข้ามาเสี่ยงกับการเริ่มงานใหม่ที่ยังไม่มั่นคง ส่วนผมนั้นก็ต้องไปเรียนต่อ พอได้กลับมาก็ต้องทำงานใช้ทุนจนกว่าจะครบกำหนด ส่วนเพื่อนๆ นั้นก็มีการงานมั่นคงและมีลูกกันแล้ว สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ผมก็เริ่มต้นงานที่ผมคิดๆ ไว้ได้บางอันแล้ว และก็ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนคนหนึ่งที่เคยคุยกันไว้ด้วย แม้ว่าจะเป็นการร่วมงานเพียงบางส่วน แต่ก็จัดว่าดีกว่าทิ้งความฝันไปทั้งหมดเลย และก็ดีใจที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นช่วยให้จัดการอะไรหลายๆ อย่างได้สะดวกมากขึ้น และทำสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ในอดีตให้เกิดขึ้นได้ด้วย ดังนั้นถ้ามีไอเดียดีๆ สักอย่าง หรืออยากทำอะไรที่เราสนใจ ก็คิดวางแผนไว้บ้างแต่อย่านานเกินไป และก็เริ่มต้นทำได้เลยครับ เพราะถ้าเรามีข้อแก้ตัวในตอนนี้แล้ว ในอนาคตเราจะมีเรื่องใหม่ภาระใหม่และข้อแก้ตัวใหม่ที่ทำให้เรามีโอกาสได้ทำสิ่งๆ นั้นน้อยลงแน่นอน โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาปริญญาตรีทั้งหลาย จำไว้ว่าตอนนี้เรามีเวลาเป็นทุนอยู่กับตัว ใช้เวลาให้คุ้มนะครับ ถ้าปล่อยผ่านแล้วแล้วจะเสียดายทีหลังแน่นอน จริงๆ ผมอยากเห็นเด็กไทยทำแบบมาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก สตีฟ จ็อบส์ หรือบิล เกตส์ นะครับ คือเริ่มทำอะไรที่ตัวเองสนใจจนกลายมาเป็นธุรกิจของตัวเองได้ แต่เนื่องจากสังคมไทยยังคงให้ความสำคัญกับเจ้าใบปริญญาอยู่ ดังนั้นก็คงไม่ต้องถึงกับลาออกจากการเรียนแบบพวกนั้น แต่อย่างน้อยก็อยากให้ทำโครงงานนักศึกษาให้ดีขนาดที่นำไปขายหรือเปิดให้บริการได้เลย ดังนั้นถ้าใครมีไอเดียดีๆ แต่ไม่กล้าเริ่มต้นทำเสียที เริ่มเสียตรงนี้เลยครับ ถ้าสำเร็จก็สุดยอดไปเลย แต่ถ้าพลาด ก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราเรียนรู้เป็นบทเรียนสำหรับครั้งต่อๆ ไป พยายามหลีกเลี่ยงการหาข้ออ้างในตอนนี้ เพราะว่าพอเรามีอายุมากขึ้น เราก็จะเก่งกับการหาข้อแก้ตัวมากขึ้น และความฝันก็จะยังเป็นความฝันอยู่เหมือนเดิม และพออายุมากๆ เข้า ก็จะเริ่มเสียดายว่าเราลืมความฝันของตัวเองไปกี่ฝันกันแล้วนะ ------------------------------------------------------------------------ ช่วงนี้ผมจะเขียนบทความทั้งเรื่อง E-Commerce เรื่องภาษาอังกฤษ และเรื่องอื่นๆ อีกที่อยากคุย ใส่ไว้ใน fan page ก่อนแล้วก็อปมาวางไว้ที่บล็อกครับ ดังนั้นถ้าใครสนใจ ก็สามารถตามไปที่ //www.facebook.com/dr.ekkasit ได้เลย หรือแวะไปดูสัมมนาการตลาดออนไลน์ที่ผมทำกับสถาบันปัญญาธุรกิจของเครือเนชั่นได้ที่ //www.nation-education.com/enews/SocialBeauty-Jun8/Outline.pdf หรือจะดูสัมมนาเรื่องภัยออนไลน์กับเด็กและผู้ปกครอง ที่ผมทำกับสถาบันปัญญาธุรกิจของเครือเนชั่นได้ที่ //www.nation-education.com/enews/Kids&Disaster-Jul13/Outline.pdf
Create Date : 18 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 20:33:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 783 Pageviews. |
|
|