ภาวะการนอนกรนในเด็ก ที่ดูว่าน่าจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่ความจริงแล้วเป็นปัญหาที่อันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อยมาก เพราะเด็กที่มีภาวะนอนกรน เสี่งต่อการเป็นเด็กสมาธิสั้น, พฤติกรรมก้าวร้าว, เรียนรู้ช้า และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งปัจจุบันภาวะนอนกรนในเด็ก ที่มีอันตรายพบมากขึ้นถึง 10% จากเด็ก 20% และเด็กที่สุขภาพดีมากมีแค่ 2% เท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบในเด็กอายุ 2 - 6 ปี เพราะในเด็กวัยนี้จะมีต่อมทอมซิล และต่อมอะดีนอยด์ ที่ทำให้เกิดการอุดกั้น ของระบบทางเดินหายใจ(Obstructive Sleep Apnea Syndrome : OSAS)จนเกิดเสียงกรนที่เป็นภาวะอันตราย ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงทางด้านร่างกาย และพัฒนาการทางด้านสมอง หรือในอีกด้านหนึ่ง เด็กอาจมีปัญหาของโรคภูมิแพ้ ทำให้ต้องหายใจผ่านทางปาก จึงทำให้เกิดเสียงกรนเล็ก ๆ ซึ่งถ้าเป็นแค่ด้านนี้ เด็กก็จะมีอาการดีขึ้นเองเมื่อตื่นขึ้น ก็จะไม่ส่งผลอันตรายมาก เท่ากับเด็กที่มีปัญหาของต่อมทอมซิลอุดกั้น ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกอย่างชัดเจน เมื่อเด็กนอนกรน ก็จะยิ่งทำเด็กหลับไม่สนิท ซึ่งก็จะเป็นการรบกวนการนอน ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ การนอนไม่มีประสิทธิภาพ และอาจทำให้เด็กหยุดหายใจ ซึ่งเมื่อหยุดหายใจ ออกซิเจนในเลือดก็จะลดลง ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้น เพื่อไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย และถ้าปล่อยให้เด็กมีภาวะแบบนี้นาน ๆ เข้า เด็กก็จะมีอาการหัวใจโต และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ เด็กจะปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน จนอาจฉี่รดที่นอน หรือนอนพลิกไปพลิกมาหลับไม่สบาย และด้วยการที่ต้องอ้าปาก เพื่อรับอากาศทางปาก จึงทำให้มีความผิดปกติ ของเพดานปากที่จะโก่งสูง จึงทำให้เด็กจะมีลักษณะฟันเหยินจนผิดรูป และกระทบต่อการพัฒนาการเรียนรู้ ที่อาจเรียนรู้ช้ากว่าคนอื่นอีกด้วย ฮอร์โมนเจริญเติบโตช้า เพราะฮอร์โมนชนิดนี้ จะหลั่งมาตอนที่เด็กหลับสนิท แต่เมื่อเด็กมีอาการนอนกรนจึงหลับไม่สนิท ทำให้ฮอร์โมนไม่สามารถหลั่งออกมาได้เต็มที่ ร่างกายของเด็กจึงโตที่ไม่เต็มที่ไปด้วย โดยเฉพาะความสูง และอาจทำให้มีปัญหาการหลับในห้องเรียน เพราะนอนหลับไม่สนิทในเวลากลางคืน ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด, ฉุนเฉียวง่าย และก้าวร้าวในที่สุด จนอาจถึงขั้นเป็นโรคสมาธิสั้น, ซุกซน และไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใดได้นาน มีอาการอักเสบ ของต่อมทอมซิลอยู่บ่อย ๆ หรือเมื่อเวลามีไข้ ไม่สบาย ก็มักจะมีอาการเจ็บคอร่วมด้วยอยู่บ่อยครั้ง มีอาการไอเยอะมากกว่าปกติ และยังทำให้การรับประทานอาหารของเด็กไม่สะดวก ทำให้การรับรู้รส และกลิ่นลดลง ความอยากอาหารก็จะลดลงไปด้วย นอกจากนี้ยังทำให้หูชั้นกลางอาจติดเชื้อได้ และมีอาการอักเสบของโพรงไซนัสเพิ่มขึ้น เพราะเยื่อบุโพรงจมูกขาดความชุ่มชื้น ความสามารถในการกรองโรคก็ลดลง จนทำให้เกิดการติดเชื้อง่ายขึ้นกว่าเดิม ในเด็กบางรายอาจมีปัญหา เรื่องเสียงพูดไม่ชัดร่วมด้วย เพราะเสียงที่ต้องออกจากจมูก หรือเสียงนาสิกโดยเฉพาะเสียง ม, น, ง ที่ต้องมีลมออกจากทางจมูก แต่เด็กมีอาการอุดตันในส่วนนี้ จึงจะออกเสียงได้ไม่ชัดเจน หากสนใจหาพี่เลี้ยงเด็ก สามารถติดต่อสอบถามปรึกษาเรื่อง พี่เลี้ยงเด็ก, พี่เลี้ยงฟิลิปปินส์ ได้ที่ เว็บไซต์ : https://www.kidnario.com Facebook : https://www.facebook.com/KiDNARIOห
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2561 14:04:39 น. |
Counter : 280 Pageviews. |
|
|
|