Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
""ที่มาข้อมูล :


ปาก… มีปัญหา


ทั่วร่างกายของเราจะมีขนปกคลุมอยู่ทั่วไป ยกเว้นฝ่ามือ ฝ่าเท้า เท่านั้นที่ปราศจากขน ในวัยเด็กขนและผมจะมีลักษณะเป็นขนอ่อน นิ่ม เส้นเล็ก สีจาง ต่อเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือย่างเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ขนจะเริ่มมีเส้นแข็งมากขึ้น เส้นขนและผมมีขนาดอ้วนขึ้น สีดำเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นสีดำสนิท และโดยธรรมชาติ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหนุ่มสาวจะมีขนขึ้นบริเวณอวัยวะเพศอีกด้วย

อาการขนดก อาจเกิดได้โดยมิได้เป็นโรคอื่นใด หรือเกิดเพราะมีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อต่าง ๆ ก็ได้
โดยใช้วิธีสังเกตดงนี้ ถ้ามีอาการขนดกขึ้นภายใน 2-3 ปี ภายหลังหมดประจำเดือน แต่ตรวจภายในแล้วมีอาการปกติเสียงพูดคงเดิมไม่ห้าว กลุ่มนี้มักมีขนดกบนใบหน้า ไม่ถือเป็นโรค อยากทำให้ขนหายไปก็ได้ตามสมควร เพราะมีขนบนใบหน้ามากจะดูน่าเกลียด


ขบวนการกำจัดขน มีมากมายตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้แก่
1. ยาลอกสีขน
จะทำให้ขนซึ่งเคยมีสีเข้มนั้นมองไม่เห็นชัดเจน ไม่สะดุดตา วิธีนี้ถูกที่สุด ทำง่าย และสามารถจะทำเองได้ที่บ้าน โดยใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 50 ซีซี ผสมกับน้ำยาแอมโมเนียสัก 6 หยด เพื่อให้เกิดความหนืดควรผสมกับเกล็ดสบู่เล็กน้อย จะได้เป็นครีมเหนียว แล้วทาที่ขนดกทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออก ขนจะมีสีอ่อนลงกายเป็นสีน้ำตาล และยังดูผิวขาวขึ้นด้วย

2. การโกน ก็นับว่าเป็นวิธีกำจัดขนได้รวดเร็ว ราคาถูก ทำได้เอง อาจใช้เครื่องโกนขนชนิดไฟฟ้าก็ได้ และความคิดที่ว่า ยิ่งโกนขนแล้วจะยิ่งขึ้นใหม่ยาวกว่าเดิม แข็งกว่าเดิมและดำกว่าเดิมนั้น เลิกคิดได้แล้วเพราะไม่เป็นความจริง เพราะโกนแล้วแม้ยาวใหม่ก็จะมีอัตราการยาวเท่าเดิมไม่ดำกว่าเดิมอีกแน่นอน

3. การใช้ขี้ผึ้ง วิธีนี้เหมาะสมกับรายที่ขนดกเป็นบริเวณกว้างบนใบหน้า หน้าแข้ง แต่มีข้อเสียคืออาจมีอาการต่อมขนอักเสบติดตามมา เพราะการทาขี้ผึ้งทำให้เกิดอาการเหนียวเหนอะหนะ และมีเชื้อโรคเข้าไปสู่ต่อมขน ที่นิยมใช้คือ beewax โดยนำมาอุ่นประมาณ 34 องศาเซลเซียส (อย่าให้อุณหภูมิสูงกว่านี้เพราะอาจร้อนเกินไป) แล้วทาลงส่วนที่ขนดก โดยใช้ไม้พายเล็ก ๆ แล้วใช้ผ้าบาง ๆ ปูทับขี้ผึ้งอีกครั้ง แล้วจึงลอกออกเมื่อขี้ผึ้งเย็นลงแล้ว ผลก็คือผ้าจะดึงเอาขี้ผึ้งพร้อมขนหลุดออกมาถึงโคนเส้นเลยทีเดียว ทำซ้ำทุก 6-8 สัปดาห์
 
4. ครีมขจัดขน ซึ่งมีขายตามห้างสรรพสินค้า และร้านขายยาทั่วไป ประกอบด้วยตัวยา Thioglycollates ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายไดซัลไฟด์บอนด์ของเส้นขนทำให้ขนหลุดออกจากผิวหนังได้ง่าย แต่ไม่นิยมใช้ทาบนใบหน้าและอาจไหลย้อยลงมาถ้าทาบนผิวหน้าซึ่งอยู่ในแนวตั้งโดยธรรมชาติ

5. การถอนขนโดยใช้กระแสไฟฟ้าจี้ทำลายรากขน โดยใช้เข็มขนาดเล็ก จี้ลงไปถึงรากขนซึ่งอยู่ลึกลงไป ประมาณ 3 มิลลิเมตร ใช้กระแสไฟฟ้าเพียง 1-3 แอมแปร์ เหมาะสำหรับการทำที่คางหรือหนวด แต่ผู้ทำควรได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แล้วควรเป็นแพทย์ เพราะการสอดใส่วัตถุลงในผิวหนังนั้นมีอันตรายต่อการติดเชื้อ เช่น ไวรัสบี เอดส์เป็นต้น

นอกจากการใช้ยาเฉพาะที่ดังกล่าวข้างต้นแล้ว อาจทำการรักษาโดยการใช้ยา รับประทานประเภทฮอร์โมน โดยเฉพาะในรายที่มีโรคของต่อมไร้ท่อเป็นสาเหตุของการเกิดขนดก ไม่แนะนำให้ใช้เอง นอกจากแพทย์เป็นผู้สั่งใช้เท่านั้น

Create Date : 16 มิถุนายน 2553
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 15:12:23 น. 0 comments
Counter : 246 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หนูเหนือ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หนูเหนือ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.