|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เหนื่อยจัง เลี้ยงลูกสวนกระแสสังคมอเมริกัน
เวลาผ่านไปเร็ว เร็วมาก จำได้ว่าอัพเดทบล๊อกครั้งสุดท้ายเมื่อต้นปีเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและก็ยังค้างเติ่งอยู่ (แต่เรายังลดอยู่เรื่อยๆ เอื่อยๆ) วันนี้ได้มีเวลามานั่งบ่น เพราะปู่ย่าเอาหลานชายทั้งสองไปค้างคืนด้วย แต่หลังจากนี้ว่าจะไปออกกำลังสะบัดไขมันสักหน่อย จั่วหัวเช่นนี้มาเพราะว่าไม่รู้จะไปบ่นกับใคร เพราะเรามันคิดมาก หรือชอบทำอะไรตามความคิดของตัวเองมันเลยไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเค้า (แต่สิ่งที่เราทำดีนะ ไม่ดีไม่ทำหรอก) ลูกยิ่งโต ยิ่งต้องการพัฒนาการที่สมบูรณ์มากขึ้น ดชคดีหรือโชคร้ายไม่รู้ที่ลูกมีแม่เป็นนักหลายๆนัก นักจิตวิทยาเอย นักวิชาการเอย เราเลยเลี้ยงลูกตามหลักวิชาการตั้งแต่เกิด ผสมวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์กันไป เลี้ยงลูกที่ต่างแดนไม่ใช่แค่เหนื่อยเลี้ยงลูกอย่างเดียว ยังเหนื่อยกับสังคมด้วย แถมลูกเราลูกครึ่ง ยิ่งน่าท้าทายไปใหญ่ แต่ดูเหมือนคนรอบข้างไม่เห็นด้วย หรือเค้าไม่เข้าใจ ไม่รู้ แต่โชคดีที่สามีเข้าใจและให้การสนับสนุน แต่บ่อยๆ นานๆ เข้าเราก็เหนื่อยเพราะเหมือนสู้อยู่คนเดียว ไม่มีกำลังใจ
ตั้งแต่ลูกเกิด เรายืนยันนั่งยันเลี้ยงนมแม่ดีที่สุด แม่สามีวิ่งโล่ไปซื้อนมกระป๋องและตั้งท่ารำคาญเพราะเอาหลานมาเล่นด้วยไม่ได้เพราะเราต้องให้นมบ่อย แกลงทุน 250 ดอลล์ซื้อเครื่องปั๊มนมให้ เค้าจะได้เอาหลานและป้อนนมขวด แต่เรายืนยัน นมจากอกแม่ดีที่สุด กระตุ้นน้ำนมได้ดี และสานสัมพันธ์กับลูก เค้าไม่เข้าใจเพระาเค้าเลี้ยงลูก 3 คนด้วยนมกระป๋อง ลูก 3 คนเป็นหอบหึดจนโต น้องสาวสามียังทานยาจนถึงปัจจุบัน อายุ 23 แล้ว ท้ายที่สุดเค้าเข้าใจเพราะลูกเราไม่เคยวิ่งไปห้องฉุกเฉินเพราะภูมิคุ้มกันดี ของเล่น เยอะมาก เยอะเป็นภูเขา เต็มบ้าน รถของเล่นมีเป็นเกือบ 500 คัน เรานับด้วย เพราะจะได้เอาไปยืนยันว่าตัวเลขนี้มันเกินความจำเป็น (นักวิชาการต่อสู้ด้วยสถิติ) ท้ายที่สุดยอมแพ้เรา เพราะเราขนใส่กล่องขนาด 15 แกลลอน เอาไปไว้บ้านแก และบอกว่าไม่มีที่เก็บ
เราเลี้ยงลูก จำกัดเวลาดูทีวี เค้าแทบไม่เห็นด้วยเพราะเค้าหลับพร้อมกับทีวีเปิด 24 ชั่วโมง หลานสาวที่เค้าเอามาเลี้ยง นอนไม่ได้ถ้าไม่มีทีวี แต่เค้ายืนยันว่า หลานขาดไม่ได้ เราเอาหลานมาค้าง 2 คืน ไม่ให้มันเปิดทีวี มันก็นอนของมันจนถึงเช้า
โภชนาการ ขนม ของหลาน ชอบเอาของหวานล่อเพื่อให้หลานชายรัก เคยพาไปแม้ค สามีโกรธมากเป็นเรื่อง เค้าเลยเงียบไป ชอบเอาเค้ก ลูกอมให้ เราเอ็ดไปก็ไม่เลิก เพราะเค้ากินกันทุกวัน หมายเหตุ บ้านนี้มีปัญหาสุขภาพกันทุกคน เบาหวน อ้วน ความดัน แต่ไม่มีใครใส่ใจ
ตามหลักการเด็กสามารถอ่านและเข้าใจเรื่องราวได้ตั้งแต่ 8 เดือน เราสอนลูก อ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก เวลาคริสมาสต์หรือวันเกิด ขอของให้ลูกหนังสือเป็นหลัก ตอนนี้รวมๆ คงมากกว่า 500 เล่ม เวลาไปค้างเราก็แพ็คหนังสือลงไปด้วยพร้อมทั้งการ์ดคำศัพท์ แต่ไม่เคยโดนเปิดอ่าน เพราะเค้าไม่เลี้ยงลูกเค้ารือหลานเช่นนี้ แต่ที่น่าโมโหคือถ้ามีญาตมาเยี่ยมชอบเอาลูกเราไปอวดโดยให้ลูกเราอ่านคำศัพท์หรือ บอกชื่อไดโนเสาร์(ซึ่งเครดิตนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของพ่อแม่)ตอนนี้เค้าอวดของใหม่คือเจ้าตัวเล็ก 2 ขวบ 4 เดือน มันท่อง เอ ถึง แซดได้และนับได้ถึง 10 ก็เอาไปอวดเพื่อนๆ ญาติ
การฝึกขับถ่าย ที่นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเราบอกว่าลูกเราอึเองได้ตั้งแต่ 2 ขวบ เค้าจะฮือ ฮามาก แต่หลานสาวที่บ้านเมืองไทยทำได้ตั้งแต่ก่อนสองขวบด้วยซ้ำ เนื่องจากคนที่นี่ขี้เกียจ ให้ลูกใส่ไดเปอร์จนถึง 4 ขวบก็มี อย่างลูกพี่ลูกน้องน้องไค จะเข้า ป1 แล้วถึงหยุดใส่ผ้าอ้อมสำเร็จ
อาหารเด็กกระป๋อง กับอาหารที่แม่ทำเอง ลูกคนแรกยอมให้แม่สามีช่วยโดยการแกไปซื้ออาหารเด็กที่ทำสำเร็จ เพราะเราต้องทำงานด้วย อีกทั้งตอนนั้นเราไม่กล้าทำร้ายน้ำใจครอบครัวสามี แต่พอหลานสาวเริ่มมีปัญหาเราเลยไม่ค่อยให้ทางนู้นช่วยเลยและตัดสินใจปิดร้าน โชคดีที่น้องไคแพ้อาหารสำเร็จตอน 9 เดือน เราเลยได้โอกาสมาทำอาหารให้ลูกทานเอง เค้าไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่าเสียเวลา บางครั้งเราทำอาหารไทย จีน ญี่ปุ่นปนกันไป เวลาส่งอาหารลูกไปด้วยเค้าไม่คุ้นบอกว่าไม่รู้ให้กินไม่เป็น (เราโมโห เพราะเค้าอยากป้อน สปาเก็ตตี้ พาสต้า เบอร์เก้อมากกว่าข้าวหรือ เต้าหู้) เราก็บอกว่า ก็ใช้ช้อนตักเข้าปากมันไง ไม่ยาก
เราจะดุ หรือตักเตือนลูกหรือลงโทษเมื่อเค้าทำผิดมากๆ และซ้ำซากเท่านั้น เราจะใช้เหตุผล ข่มอารมณ์ก่อน เพราัเด็กก็ยังเป็นเด็ก ต้องค่อยๆ สอน สามีเติบโตมากับคำดุ ด่า ตะโกน เพราะบ้านนั้นคิดว่าเสียงดังข่มท่านได้ สามีไม่ชอบเลยที่จะต้องขึ้นเสียงกับลู แต่เราก็บอกว่าจะไม่ให้ใช้เลยไม่ได้เพราะถ้าเค้าไม่เชื่อฟังจริงๆ คงต้องลงโทษบ้าง อย่างไอ้ ทาม์เอาท์ นี้พ่อแม่ฝรั่งฮิต ใช้พรำ่เพรื่อ ใช้ไม่เป็น เด็กเลยไม่เปลี่ยน
เลี้ยงลูกสองหรือมากกว่าสองภาษา เหนือ่ยมาก เพราะสามีทำงานตลอด เราต้องสอนทั้งอังกฤษและไทยเพราะเค้าต้องไปโรงเรียนและเจอญาติ ขณะเดียวกันเราก็อยากให้ลูกได้ไทย ที่เหนื่อยมากคือเวลาเราคุยกับลูกภาษาไทยที่บ้านแม่สามี เค้ามีทีท่ารังเกียจ หรือล้อเลียน (น่าโมโหมาก)
มีปลีกย่อยอีกเยอะที่เราไม่เป็นไปตามกระแสการเลี้ยงลูกของคนที่นี่ แต่เราจะทำต่อไปเรื่อยๆ ของอย่างนี้มันใช้เวลาพิสูจน์ บลีอกวันนี้น่าเบื่อจริงๆ อย่าว่ากันนะเจ้า
Create Date : 07 สิงหาคม 2554 |
|
9 comments |
Last Update : 17 สิงหาคม 2554 9:43:21 น. |
Counter : 992 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สาวชนบท 7 สิงหาคม 2554 7:22:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: BIGLATTE 7 สิงหาคม 2554 10:47:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Aery 7 สิงหาคม 2554 15:56:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
์ํNY United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
ไม่ได้ทำร้าน(ทำงาน)แล้ว (สถานะ ว่างงาน/ไม่มีรายได้) ตอนนี้เลี้ยงลูกอย่างเดียว(สถานะ แม่บ้่าน) ไม่ใช่ไม่เหนื่อย ไม่ใช่ว่าว่างจัด แต่อยากให้เวลากับตัวเองมากขึ้นเกี่ยวกับการอ่าน การเขียน และศึกษาข่าวสารบ้านเมือง บันเทิง การศึกษา สังคม ในมุมมองของจิตวิทยาและสังคมศึกษา ผ่านการใช้ชีวิตส่วนตัว
|
|
ถือว่าเล่าสู่กันฟัง มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง วิชาการน้อยบ้าง มากบ้าง ก็พิจารรากันเอาเองเด้อ อ่านเอาเพลินๆ ถ้าคิดว่าหลงผิดมาอ่าน รู้สึกเสียเวลา ก็ขออภัยเด้อ
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ิืแต่ประการใด
|
|
|
|
|
|
|
|
แต่ก็ยังเอาใจช่วยนะคะ สู้ สู้ค่ะ