พฤศจิกายน 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
 
 
เส้นทางของหนอนหนังสือ : เล่มที่ตราตรึงในใจ





มาค่ะ มาจิบชาพร้อมฟังนันทน์โม้ดีกว่า..

ขอเล่าก่อนว่า ทุกตารางเมตรในบ้านนันทน์เต็มไปด้วยหนังสือค่ะ  นันทน์เลยขอจัดตัวเองเป็นหนอนหนังสือคนนึง ซึ่งขอยกความดีงามในการปลูกฝังนิสัยนี้ให้คุณแม่ค่ะ

ม๊าเป็นบุคคลที่มหัศจรรย์มากในความคิดของนันทน์ เพราะท่านเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ และไม่เคยเรียนหนังสือตามระบบการศึกษาปกติค่ะ  แต่มีความคิดสร้างสรรค์มาก และไม่รู้ท่านคิดยังไง หิ้วลูกเข้าร้านหนังสือแล้วไปปล่อยทิ้งไว้ตลอด ส่วนท่านไปทำธุระที่อื่น ช่างเป็นกุศโลบายที่ทำให้พี่น้องบ้านนี้รักการอ่านกันสุดๆ (ฮา)

วันนี้ นันทน์เลยขอมาเล่าถึง หนังสือเล่มที่ตราตรึงในใจ เป็นงานเขียนที่นันทน์อ่านช่วงวัยเริ่มโตถึงมหาวิทยาลัยค่ะ  เลยไม่มีงานเขียนของนักเขียนยุคใหม่ๆนะคะ


1. Jonathan Livingston Seagull by Richard Bach  (ฉบับภาษาไทย)

2. เดือนช่วงดวงเด่นฟ้าดาดาว โดย วินทร์ เลียววาริณ

3. ทุกเล่มของ Dan Brown โดยเฉพาะ Angels & Demons

4. พระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนก

5. The missing piece meets the Big O. by Shel Silverstein

6. หนังสือชุด คุยกับประภาส

7. โต๊ะโตะจังเด็กหญิงข้างหน้าต่าง


หมวดนวนิยาย

8. สุดขอบจักรวาล  โดย จุฑารัตน์  
:เล่มนี้หนามาก แต่ก็อ่านมากกว่าสิบรอบได้ค่ะ

9. ความลับบนแหลมไซไน, โกบี, ฟ้าจรดทราย โดย โสภาค สุวรรณ

10. โสมส่องแสง, รอยอินทร์ โดย โรสลาเรน
     ดั่งดวงหฤทัย โดย ลักษณาวดี


หมวดการ์ตูน

11. คำสาปฟาโรห์ 
: เชื่อว่าเล่มนี้นักอ่านต้องเคยอ่านกันทุกคน แต่นันทน์เลิกตามแล้วนะคะ สิบกว่าปีท่านยังเขียนไม่จบเลย -*-

12. ฮิคารุ เซียนโกะ

13. ตะวันรักที่ปลายฟ้า

14. ตินตินผจญภัย

15. กุหลาบเแวร์ซายส์

เล่าให้ฟังจบแล้ว ไปหามาอ่านอีกสักรอบสองรอบดีกว่า ^__^

วนานันทน์
(๑๒.๑๑.๒๕๕๕)



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2555 0:26:57 น.
Counter : 1175 Pageviews.

25 comments
  
อยากเป็นนักอ่านบ้างจังแต่ก็ไม่ค่อยได้อ่าน ไม่รู้ทำไม? ในจำนวนหนังสือเล่มที่ตราตรึงใจของคุณวรานันทน์ ผมอ่านอยู่เล่มเดียวคือ โจนาทานฯ พระมหาชนก เล่มที่คนไทยต้องอ่าน ยังแค่อ่านผ่านๆ อายจัง...
โดย: story_dnp วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:33:24 น.
  
พี่ก๋าได้อ่านเล่ม 1 2 5 6 7 ครับ
ที่บ้านพี่ก๋าไม่ค่อยมีใครชอบอ่านหนังสือ
พี่ก๋าชอบอ่านเองตั้งแต่เด็กครับ

พี่ก๋ษว่าน้องนันทน์ลองหยิบมารีวิวทีละเล่มเลยน่าจะดีนะครับ
ว่าชอบหนังสือเล่มนี้เพระาอะไร

น่าสนุกดีครับ
เป็นแรงบันดาลใจให้คนรักการอ่านด้วยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:28:50 น.
  
เจ้าของบ้านอ่านหนังสือคุ้มจริง ๆ ค่ะ
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:02:44 น.
  
จากในลิสต์ เราอ่านโต๊ะโตะจัง พระมหาชนก ฟ้าจรดทราย ความลับบนแหลมไซไน

ส่วนสุดขอบฯ ได้จากร้านมือสอง แต่สภาพใหม่กิ๊ก (จนแอบสงสัยว่าไปขโมยมาหรือเปล่า) ยังอยู่ในกองดองอยู่เลย ความหนาทำให้ไม่อยากหยิบมาจัดการสักที

ว่าแต่ฮิคารุ เซียนโกะนี่สนุกมั้ยคะ? เด็กผู้หญิงอ่านได้มั้ย ดูท่าทางเหมือนการ์ตูนผู้ชายมากกว่า ถ้าสนุก จะได้ซื้อให้เจ้าตัวเล็กอ่าน
โดย: ข้าวปั้น IP: 122.111.5.25 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:04:03 น.
  
:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องนันทน์ ::






พี่ก๋า ลด ละ อารมณ์ทางลบได้อย่างไรคะ ?
จะทำให้ความโกรธ เกรี้ยวกราด และโมโหน้อยลงได้อย่างไรคะ ?





คำถามโดย : วนานันทน์ (eat pray love )
วันที่ : 10 พฤศจิกายน 2555
เวลา : 15:42:17 น.





**************************




พี่ก๋าเป็นคนใจร้อนมาก
เป็น “คุณสมบัติ” เฉพาะตัวที่เพื่อนๆและครอบครัวรู้ดี
เป็นคนที่มีจุดเดือดต่ำมาก
ใครแตะถูกจุดเป็นได้เรื่อง
ไม่ยอมคน เสียงดัง โกรธ โมโห ด่าไม่ไว้หน้า
และพร้อมมีเรื่องตลอดเวลา

สมัยเรียน พี่ก๋ามีปัญหากับเพื่อนและอาจารย์ในคณะเสมอ
ไม่ได้เป็นเด็กเกเร แต่ถ้าใครคิดไม่เหมือนกัน
ต้องคุยกันยาวเลยว่าเพราะอะไรถึงคิดไม่เหมือนกัน


ในตอนนั้นพี่ก๋ารู้สึกว่า “วิธีคิด” ...เป็นสิ่งสำคัญมาก



..........................



จบมาทำงานกับที่บ้าน
ด้วยความที่เป็นคนหนุ่มไฟแรง
พี่ก๋าทะเลาะกับพนักงานที่ร้านเกือบทุกวัน
ด้วยความคาดหวังและความกดดันมากมาย
ทำให้พี่ก๋ามองพนักงานเป็น “คนงาน” ที่ต้องทำตามคำสั่งของตัวเอง

พี่ก๋าคิดอย่างไร เขาต้องปฏิบัติตาม
เมื่อไหร่ที่พนักงานไม่ทำตาม โต้เถียง
เกิดปัญหาทันที....

จำได้ว่าช่วงแรกของการทำงาน
พี่ก๋ามีปัญหากับพนักงานบ่อยมาก เรียกมาคุยที่ห้อง
ตบโต๊ะ ตะโกนด่าเสียงดัง

สุดท้ายก็ไล่พนักงานออกไปสองสามคน...



ในตอนนั้นพี่ก๋าคิดว่า “ทัศนคติที่เรามีต่อคนอื่น” เป็นสิ่งที่สำคัญมาก



................................




ถึงวันหนึ่งที่ทุกข์ใจที่สุด
พี่ก๋าบังเอิญได้ไปเมืองจีน
ไปเจอเทือกเขาที่มีภูเขาซ้อนกันเป็นชั้นๆหลดหลั่นมากมาย

(พี่ก๋าเขียนเล่าถึงภูเขาที่กุ้ยโจวไปหลายครั้งแล้วในบล็อก)


ทุกข์ทางใจทั้งเรื่องการงาน ความรัก และการใช้ชีวิต
ถูกทลายลงไปด้วยการยืนมองดูเทือกเขานี้

เมื่อได้รับคำตอบจากภูเขาเบื้องหน้าว่า

“ตัวเราเล็กจ้อยดั่งฝุ่นผงในจักรวาล”

เราไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลยเมื่อเทียบกับภูเขาเบื้องหน้า
ทุกข์ที่เราว่าหนักหนาสาหัส มันเป็นเพียงฝุ่นผงในจักรวาล

เราทุกข์เพราะไปคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่
เราไปขยายขนาดของความทุกข์ตามขนาดความคิดของเราเอง


พอคิดได้แบบนี้
ชีวิตพี่ก๋าเปลี่ยนไปทันที

กลับมาจากทริปเมืองจีน
พี่ก๋าเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองใหม่
ว่าถึงเวลา “เปลี่ยนแปลง” ตัวเองแล้วหรือยัง ?

แล้วถ้าจะเปลี่ยน...
จะต้องทำอย่างไร ?



....................................



โชคดีที่พี่ก๋ามีนิสัย “รักการอ่าน” เป็นทุนเดิม
เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก และอ่านหลากหลายแนว

ช่วงนั้นจำได้เลยว่าซื้อหนังสือแนวจิตวิทยามาอ่านเยอะมาก
เพราะอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร
มีปัญหาอะไรซ่อนอยู่ในใจตน

หลายเล่มเป็นหนังสือรักษาผู้ป่วยจิตเภทด้วยนะ 555
แอบคิดว่าเราเองก็มีคุณสมบัติเสี่ยงอยู่ไม่น้อย 555

แม่แอบตกใจว่าทำไมลูกชายสนใจเรื่องจิตวิทยา
สนใจหนังสือเกี่ยวกับความตาย จิตสลาย
วิธีเอาชนะมิตรและศัตรู ฯลฯ

หนังสือประเภทพัฒนาความคิดและจิตวิทยาประยุกต์ถูกซื้อมาเต็มบ้าน

พี่ก๋านั่งอ่าน นั่งวิเคราะห์ตัวเองไปด้วย


เล่มที่โดนใจมากที่สุด คือ หนังสือของอาจารย์นวลศิริ เปาโรหิตย์
ชื่อหนังสือ “ค้นหาตัวเอง”

เคยชอบสมัยเรียนมหาวิทยาลัย

หนังสือเล่มนี้ถูกนำกลับมาอ่านอีกหลายรอบมาก



พี่ก๋านำสิ่งที่ได้จากการอ่านมาปรับปรุงตัว

ค่อยๆลอกเปลือกบางๆของตัวเองทีละชั้นๆเหมือนคนปอกหัวหอม

ปอกเปลือกไป ร้องไห้ไป
และรู้แล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบเลย

เราแค่ซ่อนความกลัวเอาไว้ภายใต้ความรุนแรง
เราแค่ทำเสมือนว่าตัวเองเข็มแข็ง แต่จริงๆแล้วเราอ่อนแอมาก

ได้เห็นตัวเองในมุมมองใหม่ที่เราเคยรู้ แต่ไม่รู้สึก
ได้เห็น “ความเคยชิน” บางอย่างที่สร้างขึ้นในตัวเอง

“ตัวตน” ที่เราสร้างขึ้นจาก “ความเคยชิน”


อารมณ์โกรธ อารมณ์ร้อน เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห
เหล่านี้ก็เป็น “ความเคยชิน” ที่ตัวเราได้สร้างขึ้นเช่นกัน
ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว


คำถามคือ...
แล้วจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร ?




................................




พี่ก๋าค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ฝึกเตือนตนบ่อยๆ ค่อยๆทำไปช้าๆ

เมื่อก่อนเวลาโกรธพนักงานปุ๊บ จะเรียกมาด่าทันที
ตอนนี้เตือนตัวเอง “ใจเย็นๆ” พูดกับตัวเองแบบนี้เลยครับ

“ใจเย็นๆ”

“ค่อยๆคิด”

พูดในใจย้ำๆ

เวลาที่รู้สึกว่าโกรธมาก
ให้เดินเลี่ยงมาก่อน
ดื่มน้ำเย็นๆ
นั่งนิ่งๆ

จนรู้สึกว่านิ่งขึ้น ค่อยเรียกคู่กรณีมาคุย


ด้วยวิธีนี้
พี่ก๋าก็เริ่มโกรธน้อยลง ไม่แสดงออกรุนแรงเหมือนก่อน

พนักงานเริ่มแปลกใจในความเปลี่ยนแปลง
เขามองเราในมุมใหม่ ไม่ใช่แค่เจ้านายเจ้าอารมณ์
แต่เป็นคนธรรมดาที่พูดคุยกันได้ด้วยเหตุด้วยผล


สองสามปีผ่านไป
พี่ก๋าเริ่มฝึกมองคนอย่างที่เขาเป็น
ไม่ใช่อย่างเราอยากให้เขาเป็น

พี่ก๋าเริ่มหันกลับมามองคนอื่นอย่างตั้งใจ

ที่ผ่านมาเขามี 2 เราคาดหวัง 10
พอเขาทำไม่ได้ เราก็หงุดหงิด ขุ่นเคืองใจ

คราวนี้ลองมองใหม่ เขามี 2 ลองให้เขาทำแค่ 2 ให้เต็มที่

วิธีนี้ทำให้ลดความคาดหวังไปได้มาก
(แต่ไม่ได้ลดคุณภาพในการทำงานนะครับ)


เมื่อมองเขาอย่างที่เขาเป็น
เราก็เห็นแง่มุมที่กว้างขึ้น ให้โอกาสคนในการพัฒนาตัวเอง

ลูกน้องเริ่มมีความสุขในการทำงาน
เราก็ไม่ต้องหงุดหงิดกับความคาดหวังตลอดเวลา


นี่หลายปีแล้วที่พี่ก๋าไม่ได้หงุดหงิด
หรือเรียกลูกน้องมาด่าที่โต๊ะทำงานเลย


ช่วงไหนหย่อนยานไปบ้าง แค่เรียกมาคุย
พูดจากันในที่ประชุมทุกคนก็เข้าใจ


การงานราบรื่น ทุกคนทำตามหน้าที่

ถึงจะไม่ได้พัฒนาองค์กรอะไรมาก
แต่อยู่กันอย่างมีความสุข พออยู่พอกิน
พี่ก๋าว่าเราก็มีความสุขแล้ว



...................................




มองย้อนกลับไปในวันที่มองเห็นตัวเองร้อนเป็นไฟ
โมโหอย่างบ้าคลั่ง
พี่ก๋าอดคิดไม่ได้ว่าถ้าไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนั้น
วันนี้เราคงรักษาอะไรไว้ไม่ได้เลยทั้งครอบครัว คนรัก
ความสุขในการทำงาน ความหมายในการใช้ชีวิต

พี่ก๋าคงมองหาแต่ความสมบูรณ์แบบในตัวคนอื่น
และคอยสร้างแต่ความทุกข์ทับถมใจตัวเอง


ขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงตัวตนใช้เวลาหลายปีนะครับ
ไม่ใช่คิดวันนี้ พรุ่งนี้แก้ไขได้เลย
แต่ถ้าใจเรามุ่งมั่นว่าเราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ไม่มีอะไรยาก ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้

พี่ก๋าทำได้ ทุกคนก็ทำได้
อยู่ที่ว่าสนใจอยากลองจะทำหรือไม่


ถ้าจะให้สรุปก็พอจะสรุปได้ว่า



1. รู้สึก

ต้องรู้สึกว่าเราเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย
ควบคุมตัวเองไม่อยู่ เมื่อรู้สึกตัวแล้ว
ต้องอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง


2. รู้ตัว

เวลาโกรธ ก็โกรธ ไม่ต้องกดข่มความรู้สึก
ช่วงแรกคงต้องยอมให้ตัวเองโกรธไปก่อน
การกดข่มความโกรธ บางครั้งจะยิ่งทำให้เราเครียด
และหงุดหงิดมากกว่าเดิม


3. รู้เตือน

“สติ” เป็นสิ่งที่สำคัญมากในขั้นตอนนี้
ไม่จำเป็นต้องฝึกในวัด ฝึกที่ไหนก็ได้ ด้วยวิธีใดก็ได้
บางคนใช้การนับลมหายใจ 1..2..3...
บางคนใช้การนั่งนิ่งๆ ไม่คุยกับใครจนอารมณ์สงบ
บางคนใช้การวิ่งหรือออกกำลังกาย
บางคนใช้การร้องเพลงหรือตะโกนเสียงดังๆ
ฯลฯ

ทำอย่างไรก็ได้เพื่อเตือนให้ “นิ่ง” และ “รู้สึกตัว”



4. รู้ตน


เมื่อเตือนตัวเองได้บ่อยเวลาโกรธหรือโมโห
จะเริ่มมีสติมากขึ้น
อาหารหลุด สติแตกจะเกิดขึ้นช้าลง
โกรธเมื่อไหร่ ก็เตือนตัวเองไปเรื่อยๆ
ทำบ่อยๆจนจิตใจคุ้นเคยกับการเตือนตัวเอง

โดนคนปาดหน้ารถ ก็ให้อภัยเขา เขาคงรีบ แม่คงป่วยหนัก

โดนคนนินทา ก็เตือนตัวเองได้ว่า เขาพูดไม่จริง เราไม่ได้อย่างเขาว่า

ลูกน้องทำงานพลาด ค่อยๆเรียกมาคุยมาเตือน
ชี้ให้เขาเห็นถึงข้อผิดพลาด ไม่ใช่คอยด่าอย่างเดียว

คนรักพูดจาผิดหู ค่อยๆบอกตัวเองว่าเขาหรือเธอคงเหนื่อย

ฯลฯ


เหตุผลที่เรานำมาตอบตัวเองจะทำให้ความโกรธค่อยๆลดลง
เมื่อเตือนตัวเองบ่อยๆ ความโกรธจะลดลงไปเรื่อยๆ
หรือเมื่อโกรธโมโหมันจะไม่รุนแรงเหมือนก่อน
จะหยุดอารมณ์รุนแรงได้ทัน ก่อนที่มันจะระเบิดออกมา



............................



ไม่มีทางลัดสำหรับการเปลี่ยนแปลงตนเอง
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ทันสิ่งที่เกิดขึ้น
รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจ
และพยายามแก้ไขปรับปรุงตัว

พี่ก๋าคิดว่าไม่มีเรื่องใดที่เราจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ไม่มีความเคยชินใดที่เราปรับปรุงไม่ได้



นิสัยแย่ๆ ที่เราว่าเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ไม่ใช่มันเปลี่ยนไม่ได้
แต่เราไม่ยอมเริ่มต้นเปลี่ยนต่างหาก


และถ้าเรากล้ายอมรับความจริง
คิดลองแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง

เรื่องการฝึกฝนตนให้ใจเย็นและมองทุกอย่างตามความเป็นจริง
มันจะเปลี่ยนแปลงตัวเราได้อย่างแท้จริง


จะใช้เวลานานแค่ไหนอย่าไปใส่ใจเลยครับ
แค่เราเปลี่ยนตัวเองให้โกรธยากขึ้นสักหนึ่งนาที
โกรธแล้วหายเร็วสัก 5 นาที

ทำไปเรื่อยๆ... ฝึกฝนตนไปนานๆ
อารมณ์ร้อน อารมณ์โกรธที่เคยมีจะค่อยๆลดลงและหายไป

และเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้กับตนเอง

เมื่อถึงจุดหนึ่งจะรู้เลยว่า

“โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” นั้น
จริงแท้และแน่นอนอย่างยิ่ง

เมื่อเราไม่โกรธ ไม่โมโหใครง่ายๆ
เราจะเห็นด้านที่สวยงามของชีวิต
และเราจะรู้โดยอัตโนมัติเลยว่าการเป็นคนใจเย็นและมีความสุขนั้น
เป็นความน่ารักที่ทำให้คนอยากเข้าใกล้และรู้สึกดีกับเราจริงๆ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:18:33 น.
  
ดีใจจัง เจอหนอนหนังสืออีกคนแล้ว
โดย: สารพัดช่าง วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:52:29 น.
  
เคยอ่าน 2,4,8,9,10,11,13 ค่า ที่เหลือยังไม่เคยอ่านเลย ถ้ามีโอกาสคงได้อ่าน
---
แว๊บมาอ่าน...
เมื่อวานคุณพี่สาว(โสด) เปรยๆว่าอยากมีลูก อย่างโน้นอย่างนี้.. นันทน์สกัดดาวรุ่งไปทีนึงว่า "ข้ามขั้นตอนหรือเปล่าจ๊ะ"
---
โดนแซวบ่อยเหมือนกันค่ะ เห็นเด็กแล้วอดไม่ได้ แหม ก็เด็กสมัยนี้น่ารักจริงๆ ก็เลยโดนแซวให้หาพ่อของเด็กก่อนที่จะมีเด็ก อย่าข้ามขั้นเหมือนกันค่ะ เฮ้อ มันไม่ได้หาง่ายๆ เหมือนดอกหญ้าข้างทางซะหน่อย

สวัสดียามสายๆ ค่ะ มีความสุขกับงานทำงานนะคะ
โดย: ประกายพรึก วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:43:01 น.
  
คุณ ประกายพรึก

สวัสดียามบ่าย มีความสุขเช่นกันค่ะ
เด็กน้อยน่ารักจริงๆค่ะ บางคนอยากอุ้มกลับบ้าน ฮาาาา

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุณ สารพัดช่าง

อิอิ ดีใจเหมือนกันค่ะ กรี๊ดๆ หนอนหนังสือเป็นเผ่าพันธุ์ประหลาด ที่คนอื่นไม่ค่อยเข้าจายยย...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:41:41 น.
  
คุณ ข้าวปั้น

ในความคิดเรา 'สุดขอบจักรวาล' เป็นนิยายที่สนุกมากกกกกกค่ะ สภาพเยินมาก ถึงจะหนามากแต่ก็อ่านได้อย่างรวดเร็วค่ะ

ส่วน 'ฮิคารุ เซียนโกะ' จริงๆก็น่าจะเป็นการ์ตูนผู้ชาย แต่นันทน์ขอจัดว่าเป็นการ์ตูนเด็กมากกว่าค่ะ เด็กผู้หญิงอ่านได้ค่ะ ไม่มีพิษมีภัยค่ะ สนุกมากค่ะ ถ้าอ่านจบ เจ้าตัวเล็กอาจจะอยากขอเล่นโกะเลยก็ได้นะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุณ ~:พุดน้ำบุศย์:~

ตอนปิดเทอมตอนเด็กๆ ว่างค่ะ เลยอ่านหนังสืออย่างเดียว :-)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุณ story_dnp

คงต้องค่อยหาเวลาอ่านบ้างค่ะ พอโตทำงานทำการก็อ่านน้อยลงกว่าสมัยก่อนเยอะเลยค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:50:44 น.
  
..พี่ก๋า..

วันนี้หมิงหมิงเท่ห์มากเลย ^^

ที่จริงเนื้อหาเริ่มเลือนๆตามกาลเวลา ไว้จะทะยอยรีวิวนะคะ น่าสนุกดีได้แลกเปลี่ยนกับคนรักการอ่านเหมือนกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:03:28 น.
  
ดูเหมือนว่าเล่มที่ตราตรึงใจของเราจะซ้ำกันอยู่หลายเล่มนะคะ

จะต่างกันก็ตรงที่...
ถ้าเป็นนิยายที่จะหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำ ๆ ค่อนข้างน้อยค่ะ
ต่อให้ประทับใจแค่ไหนก็ไม่ถึงขั้นอ่านได้เป็นสิบ ๆ รอบแน่ แหะ ๆ เพราะมีกองดองรอเคลียร์เยอะจัด
โดย: แม่ไก่ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:08:58 น.
  
ก่อนอื่น ขอบคุณพี่จากใจจริงค่ะ ที่ตอบคำถามนันทน์

..............................................................................


ค่อยๆลอกเปลือกบางๆของตัวเองทีละชั้นๆเหมือนคนปอกหัวหอม

ปอกเปลือกไป ร้องไห้ไป
และรู้แล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบเลย

เราแค่ซ่อนความกลัวเอาไว้ภายใต้ความรุนแรง
เราแค่ทำเสมือนว่าตัวเองเข็มแข็ง แต่จริงๆแล้วเราอ่อนแอมาก

ได้เห็นตัวเองในมุมมองใหม่ที่เราเคยรู้ แต่ไม่รู้สึก
ได้เห็น “ความเคยชิน” บางอย่างที่สร้างขึ้นในตัวเอง

“ตัวตน” ที่เราสร้างขึ้นจาก “ความเคยชิน”


อารมณ์โกรธ อารมณ์ร้อน เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห
เหล่านี้ก็เป็น “ความเคยชิน” ที่ตัวเราได้สร้างขึ้นเช่นกัน
ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว



........................................................................................
^
แทงใจที่สุดค่ะ ปอกไปร้องไห้ไป ว่าเราไม่ได้ดีอย่างที่เคยคิดจริงๆ




........................................................................................

มองคนอย่างที่เขาเป็น
ไม่ใช่อย่างเราอยากให้เขาเป็น



........................................................................................
^
โดนค่ะ แม้กระทั่งตัวเรา ก็ควรมองแบบที่เราเป็นจริงๆ ไม่ใช่เอาเปลือกที่เราอยากเป็นมาหลอกตัวเอง
ทั้งๆที่จริง เราไม่ได้เปนเช่นนั้น เราจึงทุกข์ใจตลอดเวลา


ณ ตอนนี้ นันทน์รู้ตัวค่ะ แต่ไม่เคยเชื่อว่าตัวเองเปลี่ยนได้
จนมาเจอพี่ก๋า อ่านบันทึกเก่าๆของพี่ แล้วดูบันทึก ณ ปัจจุบัน
เลยต้องคิดใหม่ว่าคงจะเปลี่ยนได้ค่ะ

อยากเป็นน้ำเย็นค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นไฟ ฮ่าๆ (ไฟที่เผาตัวเองด้วยนะคะ)
ขอเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่วันนี้ก่อนที่จะสายไป..
ขอบคุณจากใจอีกทีค่ะ
โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:12:40 น.
  
วันพีชชชชชชชชชชชชชชชช โอลี่
โดย: FundZ3 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:13:54 น.
  
จนถึงวันนี้พี่ก๋าก็ยังคงต้องเรียนรู้
และเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เพื่อให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น

ยิ่งเราเข้าใจคนอื่นมากแค่ไหน
เราก็เข้าใจตัวเองมากเท่านั้น

เป็นกำลังใจให้น้องนันทน์ด้วยนะครับ

ขอให้เปลี่ยนตัวเองได้ในเร็ววัน

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:36:09 น.
  
ชอบผลงานของคณวินทร์ เลียววาริณเหมือนกันค่ะ เคยอ่านเรื่องประชาธิปไตยบนเส้นขนาน สนุกดี

ส่วนผลงานคุณจิก ประภาสก็สนุกเช่นกัน

โต๊ะโตะจังก็ชอบ เวอร์ทั้งเด็กหญิงโต๊ะโตะ นางสาวโต๊ะโตะเลย :)
โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:04:42 น.
  
อ่านตรงกันหลายเรื่องอยู่นะคะ

เราว่า "คนที่บ้าน" คือตัวอย่างที่ดีค่ะ
เราก็ชอบอ่านหนังสือ เพราะแม่อ่านเช่นกัน
และทุกวันนี้ ทุกๆ ห้องและทุกซอกทุกมุมของบ้านก็จะมีชั้นหนังสือเต็มผนัง
ทุกคนในบ้าน นอกจากจะช่วยกันอ่านแล้ว ยังช่วยกันซื้ออีกด้วย
หนังสือในบ้านจึงมึมากมาย ...พยายามทำ list และจัดระเบียบกันอยู่ค่ะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:15:24 น.
  
สวัสดีค่ะคุณนันทน์ แวะมาเช็คลิสต์บ้าง มีเท่านี้เองค่ะ

4. พระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนก
6. หนังสือชุด คุยกับประภาส
7. โต๊ะโตะจังเด็กหญิงข้างหน้าต่าง
9. ความลับบนแหลมไซไน, โกบี, ฟ้าจรดทราย โดย โสภาค สุวรรณ
10. โสมส่องแสง, รอยอินทร์ โดย โรสลาเรน
ดั่งดวงหฤทัย โดย ลักษณาวดี (เล่มหลังสุดนี่ชอบมากๆ)

เช็คจบนี่รู้สึกว่าน้อยจัง

แป๋วชอบอ่านชุดบ้านเล็กของลอร่า อิงกัลส์มากค่ะ หลังๆไม่ได้อยู่เมืองไทยเลยไม่ได้อ่านมากเหมือนสมัยก่อน ส่วนนวนิยายชอบอมาญาส์และสองฝั่งคลองเป็นพิเศษค่ะ (คนละแนวกันเลยเนอะ)





โดย: SevenDaffodils IP: 68.50.164.97 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:34:40 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:50:04 น.
  
โจทย์นี้สนุกดีครับน้องนันทน์
ครั้งหน้าจะร่วมเขียนก็ได้นะครับ
โครงการตะพาบใครเขียนก็ได้ครับ
โจทย์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:59:05 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:50:10 น.
  
พี่ก๋าเรียงรูปอย่างตั้งใจเลยนะครับ
ทุกภาพเรียงร้อยต่อเนื่องกันหมดครับ

ตั้งแต่ภาพแรก
จนภาพสุดท้ายครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:32:36 น.
  
เป็นเหมือนกัน (อีกแล้ว) ค่ะ เ็ห็นเด็กๆ น่าลักๆ แล้วอยากลัก 5555 โอ๊ย เด็กสมัยนี้น่ารักจริง ไรจริง อยากได้ อยากได้ รออุ้มหลานดีกว่า อิๆ
โดย: ประกายพรึก วันที่: 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:04:43 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:29:55 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:31:46 น.
  
คุณ FundZ3:

วันพีซ เราก็อ่านบ้างค่ะ แต่มันหลายเล่มมากจนขี้เกียจตาม ฮาา
โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:27:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

eat pray love
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



:: ยินดีต้อนรับค่ะ ::
:: รู้อะไร ไม่สู้รู้ 'ใจ' ตัวเอง ::


พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหลายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
(กฤษณาสอนน้องคำฉันท์)
   วันแรกเริ่มของบ้านหลังนี้: ๒๗.๐๙.๒๕๕๕

   มีคนมาเยือนแล้ว
 
   [บทความและรูปภาพใน blog นี้]
   - หากนำไปใช้เพื่อการศึกษา ยินดีค่ะ แต่รบกวนแจ้งกันนิดนึงและให้เครดิตด้วย เพื่อยกระดับการศึกษาไทย
   - หากนำไปใช้เพื่อการค้าหรือผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต จะดำเนินคดีตามกฏหมาย