Tie a yellow ribbon round the old oak tree ... ขอเพียงแต่ผูกริบบิ้นสีเหลืองสักอันที่ต้นโอ๊กต้นนั้น
... เพลง Tie a yellow ribbon round the old oak tree นี้นั้น เป็นเพลงสมัยยุค Sixty ที่มียอดขายที่เรียกว่าเกิน ล้าน Copies ก็ว่าได้ เนื่องจากบทเพลงแห่งความรักอมตะ ที่ซึ้งกินใจ ไม่ว่าจะฟังกี่ที ก็สามารถที่จะซาบซึ้งไปกับบทเพลงเหล่านั้นได้ครับ ...
เนื้อหาของเพลงนั้น ผู้เขียนบทเพลงได้นำมาจากเรื่องจริงในปี 1973 ซึ่งมีชายคนนึง ที่เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานนัก ได้นั่งรถระหว่างเมืองไปยังรัฐไมอามี่ และได้บอกกับพนักขับรถว่า ถ้าหากผ่านบริเวณที่มีต้นโอ๊กขนาดใหญ่แ ให้ช่วยชะลอรถได้หรือไม่ เพราะเค้าได้บอกกับคนรักว่า ไม่ต้องรอเค้า แต่ ถ้าเค้ายังรออยู่ให้ช่วยผูกริบบิ้นสีเหลืองไว้ 1 เส้นที่ต้นโอ๊กเส้นนั้นนะ ... และแล้ว เค้าก็ได้เห็นริบบิ้น สีเหลืองนับร้อยเส้น ผูกไว้ ทำให้พนักงานขับรถอดที่จะซาบซึ้งไม่ได้ จนต้อง เก็บเรื่องดังกล่าว กระจายเสียงไปยัง ศูนย์รถประจำทางทำให้ มีโอกาส ได้นำมาเผยแพร่ต่อสถานีวิทยุในเวลานั้น ...
Tie a yellow ribbon round the old oak tree
I'm coming home I've done my time ( ผมกำลังกลับมาแล้วครับ เพราะผมได้ชดใช้สิ่งที่ผมทำไปเรียบร้อยแล้วหล่ะ ) Now Ive got to know what is or isn't mine ( ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่า สิ่งไหน ที่ใช่ และไม่ใช่ตัวผม ) If you received my letter Telling you I'd soon be free ( ถ้าหากคุณได้รับจดหมายจากผมฉบับนี้ ที่บอกคุณไว้ว่า ผมเป็นอิสระแล้ว ) Then you'd know just what to do ( คุณก็คงจะรู้สินะครับ ว่าจะทำอะไร ) If you still want me If you still want me ( ถ้าหากคุณยังอยากจะมีผมอยู่หล่ะก็ )
Oh tie a yellow ribbon 'Round the old oak tree ( ขอให้คุณผูกริบบิ้นสีเหลืองสักเส้น รอบๆต้นโอ๊กเก่าแก่ ต้นนั้นที ) It's been three long years ( เวลาล่วงเลยมาก็สามปีแล้ว ) Do you still want me ( ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าคุณยังต้องการผมอยู่หรือป่าว ) If I don't see a yellow ribbon 'Round the old oak tree ( แต่ถ้าหากผมไม่ได้เห็นริบบิ้นสีเหลืองสักเส้น แล้วหล่ะก็ ) I'll stay on the bus, forget about us ( ผมก็คงจะไม่ลงจากรถ และก็จะลืมเรื่องของเราซะ ) Put the blame on me ( และคงจะโทษตัวเองไปตลอด ) If I don't see a yellow ribbon 'Round the old oak tree ( ถ้าหากผมไม่ได้เห็นริบบิ้นสีเหลืองสักเส้น ) Bus driver please look for me ( คุณคนขับรถครับ โปรดเห็นแก่ผมเถิดนะครับ ) 'Cause I couldn't bare to see what I might see ( เพราะผมเองคงไม่กล้าที่จะดูในสิ่งที่ผมกำลังมอง) I'm really still in prison And my love she holds the key ( ตัวผมเหมือนกับถูกขังอยู่ในคุก โดยมีเธอเป็นผู้ถือกุญแจหัวใจผมอยู่จริงๆนะ ) A simple yellow ribbon's all I need to set me free ( เพียงแค่ริบบิ้นีเหลืองง่ายๆสักเส้นเท่านั้นแหละครับ ที่จะช่วยผมให้หลุดพ้นได้ ) I wrote and told her please (ผมได้เขียนเล่าและขอร้องเธอได้แล้ว )
Oh tie a yellow ribbon 'Round the old oak tree It's been three long years Do you still want me If I don't see a yellow ribbon 'Round the old oak tree I'll stay on the bus, forget about us Put the blame on me If I don't see a yellow ribbon 'Round the old oak tree
Now the whole damn bus is cheering ( และแล้ว ณ เวลานั้น รถประจำทางก็กำลังจะเลยผ่าน ไป ) And I can't believe I see ( และผมไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองเสียเลยจริงว่า ) A hundred yellow ribbons 'Round the old, the old oak tree ( โอ้ นี่มันริบบิ้นสีเหลืองนับร้อยๆ ผูกอยู่รอบๆต้นโอ๊กเก่าแก่ต้นนั้น )
Tie a ribbon 'round the old oak tree Tie a ribbon 'round the old oak tree Tie a ribbon 'round the old oak tree Tie a ribbon 'round the old oak tree
Tie a ribbon 'round the old oak tree Tie a ribbon 'round the old oak tree Tie a ribbon 'round the old oak tree Tie a ribbon 'round the old oak tree
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
6 comments |
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2549 20:45:42 น. |
Counter : 2623 Pageviews. |
|
|
|
แม่บีชอบเพลงนี้มากกกกกกก
ความหมายดีมากกกกก
ร้องคาราโอเกะบางครั้งยังน้ำตาซึมเลย
ด้วยความปลื้มใจ
ยังมีรักแท้ในโลก
ที่เป็นยังไงก็รัก
และรักมากกว่าเดิม