ประจำเดือนมาแร้ว...ดีใจจังเลย
เมื่อวานวันที่ 10 ประจำเดือนครั้งแรกหลังแท้งน้องมาแล้ว ดีใจัง เพราะไม่นึกว่าจะมาร็วขนาดนี้ เพราะแท้งน้องไปตอนอายุครรภ์เกือบ 5 เดือน
เมื่อวันศุกร์รู้สึกปวดท้องหน่วงๆ เหมือนเมนส์จะมา คุยกับพี่ที่มีลูกแล้วเค้าก็บอกว่าไม่น่าจะเร็วขนาดนั้นนะ เราก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันแหละ แต่พอมาวันเสาร์ ตกใจหมดเลย ดีใจด้วย จะได้กลับสู่สภาวะปกติของรอบเดือนซักที จะได้ไม่ต้องรอนานเนอะ กะว่าจะพักซัก 3 เดือนให้เข้าที่เข้าทางดีก่อน แล้วค่อยเริ่มใหม่ จะได้แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งกายและใจ แต่วันอังคารที่จะถึงนี้มีนัดกับคุณหมอมฆวันที่สมิติเวชด้วย สงสัยต้องโทรไปถามแล้วล่ะว่าต้องเลื่อนมั้ย เพราะต้องมีอัลตร้าซาวน์ กะตรวจภายในหลังแท้ง 6 สัปดาห์ด้วย
อาทิตย์หน้าจะไปบอกนายแล้วล่ะว่าจะขอลาออก ไม่ไหวแล้ว เครียด ปวดหัวมากเลย ไม่อยากเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ยอมรับว่าเสียศูนย์ไปพอสมควร หลังจากเสียน้องไป เพราะเป็นลูกคนแรก เตรียมตัวมาอย่างดี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะทั้งเราและน้องสมบูรณ์ดีทุกอย่าง แต่สุดท้ายต้องยุติการตั้งครรภ์เพราะน้ำคร่ำรั่ว ตอนที่เราป่วยอยู่ 2 เดือนเต็ม ทุกคนรู้แล้วว่างานของเราหนักแค่ไหน กลับมาคราวนี้ ก็มีการกระจายงานไปให้คนอื่นมากขึ้น แต่เรารู้สึกแย่มากเลยว่าทำไมเพิ่งรู้กัน แต่เราไม่เอาแล้วล่ะ...เรารู้สึกว่าเราเป็นแม่ที่แย่มากเลยที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพนั้น เราอาจจะทนได้ แต่ร่างกายเราไม่ไหว สุดท้ายร่างกายเราก็สู้ไม่ไหวจริงๆ ซะด้วย แต่แฟนเราบอกว่าเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เราย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ อย่าไปคิดถึงมันอีกแลย เราต้องอยู่กับปัจุบัน แล้วมองไปข้างหน้าดีกว่า
แฟนบอกว่า ออกมาเถอะ ฝืนทำต่อไปก็ไม่มีความสุข เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ออกมาพักผ่อนให้สบายใจก่อนก็ได้ จะทำอะไรต่อไปก็ค่อยว่ากันอีกที เพราะเราก็ไม่ได้ลำบากอะไรกันมาก โอ๊ย...ทราบซึ้งกับคุณสามีจริงๆ แต่ตอนนี้ก็มี Headhunter เรียกอยู่หลายที่เหมือนกัน ก็ลองดู ตอนนี้กำลังหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าจะกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม หรือว่าจะออกมาทำขนมที่ตัวเองชอบและมีความสุขดี เลยขอตั้งหลักซักพักนึงละกัน
ถามเราจริงๆ เราอยากออกมาทำขนมตามที่เราชอบ แถมเราทำอร่อยด้วยน้า จะบอกให้ แต่มันเป็นงานที่พ่อแม่ไม่ภูมิใจเท่าไหร่หรอก เพราะพ่อแม่ก็มองว่ามันไม่มั่นคง อุตส่าห์เรียนจบโทจากอเมริกามา เสียดายความรู้หมด เราก็เลยอาจจะหางานที่ไม่เครียดมาก เงินอาจจะไม่เยอะเท่า แต่เรามีเวลาให้ตัวเองให้ครอบครัวมากขึ้น จะได้มีเวลาไปทำขนมที่เราชอบได้ด้วย เพราะจริงๆ เราเรียน marketing มา น่าจะเอาไปใช้สานต่อความฝันให้ตัวเองได้ล่ะน่า คนที่ไม่เคยเรียนอะไรมา เค้ายังทำได้เลย เราก็ต้องทำให้ได้สิ
บางทีเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามา มันก็ทำให้เรามาถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจ ขอให้การตัดสินใจของเราครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องด้วยเถอะ...สาธุ
Create Date : 11 มกราคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 11 มกราคม 2552 9:29:19 น. |
Counter : 1690 Pageviews. |
|
|
|