This is my showroom &the show must go on
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
ถ้ำคูหาภิมุข


ไม่ทราบคุณๆ เคยไปวัดนี้หรือเปล่า ถ้าไม่เคยก็คงไม่เคยไปอีกหลายปีหรืออาจจะไม่มีโอกาสเลยก็ได้ วัดนี้อยู่ถึงก่อนอำเภอเมืองยะลาประมาณไม่เกินสิบกิโล ตัวผมก็คงไม่ได้ไปอีกหลายปี บางทีครั้งนั้นที่ได้ไปสามสี่ครั้งก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ ตอนนี้ก็ไม่กล้าไปเยี่ยมเยียนอีกเลย กลัวระเบิดครับ สมัยนั้นผมเคยไปเรียนออกชุมชนที่ยะลาอยู่เป้นเดือนๆ ดีมากๆ และขับมอเตอร์ไซด์จากหาดใหญ่ไปเที่ยวแถวๆนั้น และแวะเยี่ยมอีกสองสามเที่ยว รู้สึกดีครับ นั่งรถเมล์จากตัวเมืองยะลาไปเที่ยวครั้งหนึ่ง ถ้าเป็นในสมัยนี้คงเสี่ยงต่อการถูกยิงดิ๊งไม่น้อย(ใครใกล้ตัวพูดทองแดงเป็น ลองให้แหลงให้ฟัง สักสองสามครั้ง จะสนุก บางทีก็ขำในสำเนียงเขา แต่ฟังคนพื้นเพพูดในโทรทัศน์ตอนนี้ ก็ไม่ขำแล้วและเศร้าใจไม่น้อย เวรกรรมอะไรไม่รู้) นี่แหละผมคงไม่ได้ไปอีกนาน และบางทีก็อาจไม่ได้ไปอีกแล้ว
ถามว่าวัดนี้มีอะไรดี เวลาผมไป ผมตะลึงกับความเก่าแก่ของวัดนี้ อย่างพระนอนด้านล่างนี้ที่เขาเล่าว่า สมัยก่อนเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์มาก่อน ก่อนชาวพุทธจะมาแปลงเป็นพระพุทธรูป รูปปั้นนี่ก็มีมาก่อนเป็นรูปเคารพมาเป็นพันปีก่อนแล้ว



วัดนี้ก็สงบดี คนมาเที่ยวไม่มากนัก รู้สึกเป็นส่วนตัวดี ในถ้ำก็เป็นห้องใหญ่ เดินดูจะมีพระพุทธซึ่งจะมีรายชื่อคนสร้างถวายวัดไว้ ปีนั่นปีนี้ มีวันเกิดวันตายไว้อีก อย่างมีคนหนึ่งจำได้ว่าเป็นเด็กชาย แต่ตายไปแล้วตั้งแต่ปีที่พ่อผมยังไม่เกิดเลย บรรยากาศผมก็รู้สึกถึงความขรึมขลังในความหลัง ความไม่แน่นอนในชีวิต การผ่านพ้น และเราก็ไม่ได้เป้นอะไรเลย ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก เมื่อยืนดูอยู่ต่อหน้าพระนอน ท่านจะนอนมากี่พันปีแล้ว ไม่รู้ถามคนที่แก่ที่สุดในละแวกนี้ก็คงแก่มากจนถามเอาเรื่องราวไม่ได้ หรือก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากี่ปีแน่ คนมาไหว้กี่ยุคกี่คนแล้ว เขาก็คงรู้สึกอย่างเราสมัยนี้ว่าเก่ากว่าชีวิตเราเหลือเกิน ไหว้ๆ วันนั้นวันนี้ก็คงตายไปหมดแล้ว ที่ได้มาไหว้ตั้งแต่สมัยท่านยังอยู่ในสวรรค์จนออกบวชก็คงตายไปมากมายแล้ว นึกไม่ออกว่าขนาดไหน ช่วงชีวิตเราคงแค่สะเก็ดดาวตกเมื่อเปรียบเทียบกับท่านที่อยู่มา ในช่วงเวลาแห่งความร้าวรานของชีวิตช่วงนั้น ก็แปลกว่าแม้ผมจะไม่ได้รู้สึกมีค่าหรือสำคัญอะไรในการคิดอย่างนี้ แต่กลับไม่หยุดแสงวิบวับของสะเก็ดดาวของผมไปก่อนเวลาอันควร ผมกลับอยู่ต่อมาอย่างสงบรำงับได้ เหมือนเข้าใจว่าชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ชีวิตมันก็ไม่มีอะไรสลักสำคัญ ต้องยึดมั่นถือมั่นจะเป็นจะตายเหรอก็ไม่ ความร้าวรานแบบเราๆ คงมีใครที่ตายไปแล้ว ได้มีได้เป็นผ่านไปแล้ว อาจจะฆ่าตัวตายไปหรือผ่านไปได้ แต่มันก็จะพ้นไปได้เอง เหมือนคนเหล่านี้ที่สร้างพระถวายวัดก็เคยมีอยู่จริง เคยทุกข์ เคยสุข เกิด แต่งงาน มีเมียน้อย เจ็บป่วย ผิดหวัง และเชิงตะกอนวัดนี้เผาไปกี่ร่างแล้ว เป็นวังวนที่ไม่จบและไม่เข้าใจอยู่นี่



อย่างยักษ์นี้ ยืนเฝ้าหน้าบันไดมาได้แค่ร้อยกว่าปีเอง ถือว่ายังเด็กนัก เมื่อเทียบกับพวกที่อยู่ในถ้ำ



ครับ แม้ว่าจะไม่ได้ไปอีก แต่ก็ขอส่งกำลังใจไปให้คนแถวๆ นั้นที่ผมรู้สึกว่าทุกคนเป็นญาติธรรม มีวัดนี้ในชุมชนหมู่บ้าน ทำนุบำรุงกันมาและร่วมทุกข์ร่วมสุขในการเกิดมามีชีวิตในสมัยเดียวกัน และเราจะผ่านเวลาไปด้วยกัน จนมีระเบิดจนพระสงฆ์ในวัดนี้มรณภาพไปเป็นปีแล้วมั้ง น่าสงสารคนที่ฆ่าฟันเพื่ออุดมการณ์หรืออะไรบ้าบออะไรอยู่ ชีวิตพวกเรามันก็แค่สะเก็ดดาวตกเท่านั้น จะยึดมั่นถือมั่น สร้างทุกข์สร้างโศกกันให้ยิ่งขึ้นไปอีกทำไม เกิดมานี่ก็ทุกข์กันมากพออยู่แล้ว




Create Date : 16 ตุลาคม 2550
Last Update : 16 ตุลาคม 2550 19:46:49 น. 1 comments
Counter : 1046 Pageviews.

 
......ที่นี่สวยมากครับ ผมเคยไปเมื่อปี2538 แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย......


โดย: jetsada.999 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:7:49:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

dworasayan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มือใหม่ ตามคนอื่นมาเห็นว่าคนอ่านมากดี อยากโชว์ผลงานตัวเองบ้าง หวังว่าจะให้ที่นี่เป็นโชว์รูมของตัวเองครับ
Friends' blogs
[Add dworasayan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.