[พุทราฯ] เด็กหญิงอีดะ (Two Little Girls Called Iida) มัตสุทานิ มิโยโกะ
[Pudsa] Two Little Girls Called Iida (Futari no Iida) Matsutani Miyoko
[ca-00] พุทราฯ แนะนำหนังสือ ตอนที่ 8 (see TAGs Colored+Pencil .. Pudsas Books .. TaPaab)
บล็อกเฉพาะกิจ หมายเลข 8 : เมื่อ ทุเรียนกวน ป่วนรัก ลาพักร้อน
Special Blog NO.8 : Durianguan taked a Break.
[ca-02] โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบฯ #86
@@@@@@@@@@
เด็กหญิงอีดะ Two Little Girls Called Iida
[cb-02] ปกหนังสือ เด็กหญิงอีดะ
. . . . . . สวัสดีค่ะ พุทรามาไม่ได้เขียนรีวิวหนังสือนานมากกกกก (จนเกือบลืมไปแล้วว่าเคยมีตัวตนที่นี่ -_-) นาน ๆ จะเจอกัน รับประกันว่ายาวแน่นอน ท่านที่ปกติเข้าบล็อกทุเรียนกวนฯ แล้ววันนี้เปิดมาเจอตัวหนังสือมากมายก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ ปีนึงโผล่มาไม่กี่ครั้งหรอก
. . . . . . วันนี้พุทราได้รับมอบหมายให้มาเขียนเรื่องพิเศษที่ต้องอัพบล็อกในวันที่ 6 สิงหาคม เท่านั้น แต่บังเอิ๊ญ~ วันที่ 6 มาตรงกับงานถนนสายนี้มีตะพาบฯ ซะด้วยสิคะ พอดีท่าน จขบ. เค้าเห็นว่ามันน่าจะเข้ากับโจทย์ครั้งนี้ก็เลยฝากอัพงานตะพาบฯ ไปด้วยเลย อืม...เขียน 2 งานแต่ทำไมหนูได้ค่าแรงเท่าเดิม (กระทรวงแรงงานรีบมาตรวจสอบด่วน)
. . . . . . หนังสือที่นำมาแนะนำวันนี้ชื่อว่า เด็กหญิงอีดะ เขียนโดยคุณมัตสุทานิ มิโยโกะ ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2512 ส่วนฉบับภาษาไทยแปลโดยคุณผุสดี นาวาวิจิต เคยตีพิมพ์หลายครั้งแล้วนะคะ ตอนแรกใช้ชื่อ เก้าอี้กับเด็กหญิงอีดะ แล้วก็มาเปลี่ยนเป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบันกับ สนพ. ผีเสื้อ ที่ฉันใช้ประกอบการรีวิวเป็นฉบับแก้ไขพิมพ์ครั้งที่สาม พ.ศ. 2544 ค่ะ
. . . . . . เนื้อหาในหนังสือค่อนข้างหนักสำหรับเด็กและเยาวชนเอาการอยู่นะคะ แถมมีเรื่องลึกลับให้ชวนคิดด้วย แต่ผู้เขียนแต่งเรื่องได้ดีจริง ๆ ไม่มีอะไรส่อความรุนแรงเลยสักนิด และที่ดีมากที่สุดก็คือเความทรงคุณค่าของเนื้อหานี่แหละค่ะ ดีซะจนได้รับรางวัลแอนเดอร์เสนนานาชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2522 ด้วยนะ
. . . . . . ฉันบอกไว้ตอนต้นว่า...หนังสือเล่มนี้ต้องอัพในวันที่ 6 สิงหาคม เท่านั้น ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไรก็ต้องลองตามอ่านดูเองนะคะ ใบ้ให้ว่า...หกสิงหา-น้ำตาท่วมจอ ตอนนี้ขอตัวไปหยิบผ้าเช็ดหน้าก่อนนะ
(English section is unavailable.)
[cb-02] ปก Futari no Iida ฉบับภาษาไทยทั้ง 4 แบบ
.
.
.
.
@@@@@@@@@@
ฤดูร้อนแสนประหลาดที่ฮานาอุระ The Weird Summer in HANAURA
[cc-01] Naoki and the abandoned House
. . . . . . เรื่องราวเกิดขึ้นกลางฤดูร้อนในเดือนสิงหาคมปีหนึ่ง เด็กชาย นาโอกิ นักเรียนชั้น ป.4 จากโตเกียว ถูกแม่พาเดินทางไกลเพื่อมาฝากไว้กับคุณตาคุณยายพร้อมกับ ยูโกะ น้องสาวตัวเล็ก ๆ อายุ 2 ปี 11 เดือนที่ฮานาอุระเป็นการชั่วคราวแล้วเธอก็เดินทางไปทำงานต่อที่กิวชิวคนเดียว
. . . . . . ตอนพลบค่ำของวันแรกที่มาถึง ระหว่างที่นาโอกิเดินสำรวจเมืองตามลำพัง เขาก็สะดุดเข้ากับเสียงของใคร...หรือตัวอะไรอย่างหนึ่ง เสียงนั้นพูดแหบ ๆ เบา ๆ ว่า
. . . . . . ไม่มี...ไม่มี...ไม่มีที่ไหนเลย
. . . . . . เมื่อเขามองดูก็ประหลาดใจเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงเสียงนั้นคือเก้าอี้ไม้ตัวเล็ก ๆ เดินได้ เด็กชายเดินตามเก้าอี้ไปจนถึงบ้านร้างในป่า แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าไปในบ้านที่มืดมิดในตอนค่ำ
. . . . . . วันต่อมายูโกะเกิดหายตัวไป นาโอกิตามหาจนเจอที่บ้านร้างหลังนั้น เขาประหลาดใจเมื่อพบว่าน้องสาวรู้จักสนิทสนมกับเก้าอี้เป็นอย่างดีเหมือนกับว่าเด็กหญิงเคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาก่อนแล้ว เก้าอี้ไม้ในบ้านร้างและเด็กหญิงจากแดนไกล มีอะไรที่คล้ายกันอย่างน่าพิศวง
(English section is unavailable.)
++++++++++
เมื่อวานของเก้าอี้...วันนี้ของยูโกะ Yesterday of the Chair . . . Today of Little Yuko
[cc-02] The weird Chair and Yuko
. . . . . . เก้าอี้ ผู้ที่เวลาหยุดลงแค่ เมื่อวาน กำลังเฝ้ารอคุณตาและเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เขาเรียกว่า อีดะ ทั้งสองหายตัวจากบ้าน เมื่อวานหรือเมื่อวานของเมื่อวาน การได้พบเจอเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ยูโกะ ทำให้เก้าอี้ผู้เฝ้ารอคอยแล้วพูดด้วยเสียงแหบ ๆ ย้ำคิดย้ำทำว่า ไม่มี...ไม่มี...ไม่มีที่ไหนเลย กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
. . . . . . ยูโกะ เด็กน้อยไร้เดียงสาผู้ที่เวลามีแค่ วันนี้ เวลาของเธอคือปัจจุบันส่วนพรุ่งนี้ก็คือพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึง บางครั้งเธอก็ถูกเรียกว่า อีดะ ของบ้านนาโอกิเหมือนกัน เนื่องจากเป็นเด็กเล็กจึงรับรู้อะไรได้เร็ว แต่การที่เธอคุ้นเคยกับบ้านประหลาดหลังนี้เหมือนเคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อนสร้างความพิศวงให้นาโอกิเป็นอย่างมาก
. . . . . . เมื่อวานของเก้าอี้...วันนี้ของยูโกะ กาลเวลาของบ้านหลังนี้ดูเหมือนหยุดนิ่งตอนที่เจ้าของบ้านหายไป เก้าอี้ก็บอกอะไรได้ไม่มากไปกว่าเมื่อวานและเมื่อวาน ไม่ว่าจะอธิบายเท่าไรเก้าอี้ก็ยังยืนกรานว่ายูโกะคือ อีดะ เด็กหญิงของบ้านหลังนี้อยู่ดี แถม พฤติกรรมของอีดะ ที่เก้าอี้เล่ามายังคล้ายกับ พฤติกรรมของยูโกะ ราวกับเป็นคนคนเดียวกัน
. . . . . . นาโอกิจึงเริ่มคิดหาทางไขปริศนาช่วงเวลาที่หายไปของเจ้าของบ้านด้วยตัวเอง
(English section is unavailable.)
++++++++++
ปริศนาของเวลาที่หยุดนิ่ง The Mystery of the Frozen Time
[cc-03] Ritsuko visited the weird House
. . . . . . ด้วยความช่วยเหลือของ ริทสุโกะ หญิงสาวที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง ทำให้นาโอกิไขปริศนาได้หลายอย่าง คุณตาเจ้าของบ้านเป็นช่างทำเก้าอี้และบรรจงทำเก้าอี้ประหลาดตัวนี้ให้ อีดะ หลานสาวของเขาด้วยตัวเอง วันที่ทั้งสองหายตัวไปก็น่าจะเป็นวันเดียวกันกับที่ปรากฏอยู่บนปฏิทินที่แขวนอยู่ในบ้าน...ที่กาลเวลาหยุดนิ่งแค่เมื่อวันวาน 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488
. . . . . . ริทสุโกะเป็นหญิงสาวใจดียิ้มแย้มเสมอแม้ว่าบางครั้งจะเห็นเธอจะดูเศร้ากับบางเรื่องที่นาโอกิไม่เข้าใจก็ตาม แต่ให้ความช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดีมาก เธอขอให้นาโอกิพาไปดูบ้านหลังประหลาดหลังนั้นด้วย
. . . . . . เมื่อไปถึง...ริทสุโกะมีท่าทีสนอกสนใจภายในบ้านเป็นอย่างมาก และก็ได้พบสมุดภาพนิทานแอนเดอร์เสนเรื่อง ดอกไม้ของอีดะ ทำให้ทราบว่าชื่อเรียก เด็กหญิงอีดะ ของบ้านนี้มาจากชื่อตัวละครในนิทานนั่นเอง
. . . . . . วันที่ทั้งสองคนมาสำรวจบ้านบังเอิญเป็นวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งวันเดียวกับที่ปฏิทินหยุดนิ่งพอดี และในวันนี้ตรงกับวันที่ริทสุโกะเดินทางไปร่วมงานลอยโคมประจำปี เธอจึงชวนนาโอกิเดินทางไปด้วยกัน
(English section is unavailable.)
++++++++++
กาลเวลาที่หายไปในฮิโรชิม่า Time Lost in HIROSHIMA
[cc-04] The lanterns were floating over the water in Hiroshima Peace Memorial
. . . . . . ระเบิดปรมาณูค่อย ๆ ดิ่งลงมาเพราะผูกติดไว้กับร่มชูชีพ เมื่อมาถึงระดับความสูงห้าร้อยเมตรเหนือเมืองฮิโรชิม่าก็เกิดระเบิดขึ้น มีแสงสว่างจ้าและเสียงสนั่น แล้วทุกคนในฮิโรชิม่าก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น เส้นผมผู้หญิงชี้ตั้งขึ้น ใบหน้าถูกไฟลวกจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร ที่ร้ายกว่านั้นก็คือผิวหนังที่หน้าของบางคนลอกออกมาห้อยต่องแต่งอยู่ที่คาง ผิวหนังที่แขนก็ลอกออกมาห้อยจนดูเหมือนมีแขนสี่ข้าง---ลูกระเบิดเพียงลูกเดียวทำให้คนตายไปถึงสองแสนคน
+ คัดจากหนังสือ เด็กหญิงอีดะ (หน้าที่ 148) + สำนักพิมพ์ผีเสื้อ แปลโดย ผุสดี นาวาวิจิต
. . . . . . ริทสุโกะเล่าให้ฟังนั่งรถไฟถึงเหตุการณ์วันนี้ในอดีตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน...วันที่ 6 สิงหาคม 2488 เป็นวันที่ระเบิดปรมาณูถูกทิ้งลงที่ฮิโรชิม่าคร่าชีวิตผู้คนกว่าสองแสนลงทันที นาโอกิสังเกตว่าวันเดียวกันกับที่คุณตาและอีดะจังหายตัวไปนี่เอง และคิดต่ออีกว่า...ถ้าเช้าวันนั้นทั้งสองคนอยู่ที่ฮิโรชิม่าก็คงจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้านอีกแล้ว
. . . . . . เมื่อริทสุโกะและนาโอกิเดินทางไปถึงอุทยานสันติภาพ ก็ได้เห็นพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานต่าง ๆ รวมทั้งโครงหลังคารูปโดมที่เป็นที่ตั้งของจุดศูนย์กลางแรงระเบิด เบื้องหน้านั้นยังมีหลักจารึกข้อความสั้น ๆ อันสะเทือนใจว่า...
จงหลับให้สบายเถิด จะไม่เกิดความผิดเช่นนี้ขึ้นอีกแล้ว
. . . . . . ขณะเดินไปหอระฆังแห่งสันติภาพก็พบเจอ รูปปั้นเด็ก ตั้งอยู่ ริทสุโกะเล่าอย่างเศร้า ๆ ว่า ในตอนนั้นมีเด็ก ๆ ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด...บางคนก็ยังไม่ทันได้เกิดจากท้องแม่ด้วยซ้ำ แต่ก็ป่วยเป็น ลูคีเมีย ตายตามไปทีหลังอีกไม่น้อยเลย
. . . . . . ผู้คนมากมายลอยดวงโคมสว่างไสวทั่วแม่น้ำทั้งเจ็ดสายในฮิโรชิม่า เพื่อระลึกถึงวิญญาณผู้ที่ตายในเหตุการณ์ครั้งนั้น ริทสุโกะมาที่นี่เพื่อลอยโคมของตัวเองเช่นกัน นาโอกิสังเกตเห็นตัวหนังสือบนโคมเขียนว่า หนูโตขึ้นขนาดนี้แล้วค่ะ เขาอ่านข้อความนั้นโดยที่ไม่ทราบว่าริทสึโกะหมายความว่าเช่นไร
(English section is unavailable.)
++++++++++
นาฬิกาชีวิตที่เปลี่ยนไป Many Things have been Changed Forvever
[cc-05] Naoki read the Letter
. . . . . . จนถึงตอนนี้นาโอกิคิดว่าเขาน่าจะได้ไขปริศนาต่าง ๆ ได้หมดแล้ว ได้รู้ชื่อของคุณตาช่างทำเก้าอี้เจ้าของบ้านและลูกสาวที่เป็นเจ้าของสมุดภาพ ดอกไม้ของอีดะ และที่สำคัญที่สุดคือได้รู้วันที่และสาเหตุอันน่าเศร้าที่เจ้าของบ้านหายตัวไป ความทรงจำของเก้าอี้ที่เรียกว่า เมื่อวาน ได้ผ่านมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว
. . . . . . แม้จะไม่ได้ร่ำลาริทสุโกะเนื่องจากเธอไม่อยู่ที่บ้านในวันนั้น นาโอกิก็เลยได้แต่เขียนจดหมายเล่าเรื่องราวฝากไว้กับคุณยาย แล้วเขาก็กลับโตเกียวพร้อมแม่และน้องสาวด้วยความโล่งใจที่ได้คลายปริศนาที่ฮานาอุระแล้ว แต่สิ่งคิดน่ะมันยังไม่ใช่ทั้งหมด จนเมื่อเขาได้อ่านจดหมายจากริทสุโกะหลังจากกลับโตเกียวได้ 1 สัปดาห์
. . . . . . สงครามทำให้ นาฬิกาชีวิต ของทุกสิ่งเปลี่ยนไป เวลาของผู้คนมากมายสิ้นสุดลงทันที บางคน...เช่นอีดะจังกลายเป็นความทรงจำอันเลือนราง บ้างก็เวลาเดินวนเวียนกลับหลัง...เช่นเก้าอี้ในบ้านร้าง แต่ก็ยังมีใครอีกไม่น้อยเหมือนกันที่เวลาเดินช้าลง ๆ รอวันหยุดเมื่อสิ้นสุดลมหายใจ แต่เมื่อนาฬิกาชีวิตยังเดินอยู่ก็ยังหวังให้มีพรุ่งนี้เสมอ
. . . . . . นาโอกิน้ำตาเอ่อล้นเมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนั้น ผลกระทบของสงครามแม้เวลาผ่านไปสักเท่าไรก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยจริง ๆ
(English section is unavailable.)
.
.
.
.
@@@@@@@@@@
วันพรุ่งของรุ่งเช้า Sunrise of Tomorrow
[cd-01] Children's Peace Monument (ซาดาโกะกับนกกระเรียน) Credit : //www.wikinut.com . . . thanks you :)
. . . . . . เด็กหญิงอีดะ เป็นหนังสือที่สร้างความลำบากใจที่สุดตั้งแต่พุทราเขียนรีวิวเลยค่ะ อ่านไปน้ำตาก็ไหลไป ลองคิดดูสิ? กว่าจะเขียนรีวิวได้ต้องอ่านไปกี่รอบ แล้วน้ำตาไหลไปกี่ปี๊บกันล่ะเนี่ย แต่ที่ลำบากใจไม่แพ้กันคือ...การรีวิวโดยไม่เปิดเผยเรื่องราวนี่ยากจัง แม้จะเขียนบอกอะไรไปเยอะแล้วแต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะคะ หนังสือดี ๆ อย่างนี้อ่านด้วยตัวเองจะดีกว่า
. . . . . . คุณมัตสึทานิ มิโยโกะ เขียนเรื่องสะท้อนผลกระทบของสงครามอย่างดีเยี่ยม ทุกรายละเอียดล้วนมีความหมาย แต่ไม่มีแม้สักประโยคที่แสดงถึงความโกรธแค้นชิงชังเลยค่ะ ตรงกันข้าม กลับทำให้นึกถึงผลของความร้ายแรงจากความขัดแย้ง และยิ่งเศร้าหนักช่วงที่ได้อ่านข้อความในหลักจารึกที่อนุสรณ์สถาน จงหลับให้สบายเถิด...จะไม่เกิดความผิดเช่นนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ไม่รู้ว่าใครคิดยังไงนะคะแต่สำหรับฉันรู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาไหลทุกที T^T
. . . . . . จริง ๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสงครามส่วนใหญ่ก็เป็นคนธรรมดา ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการสู้รบ ไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายไหนหรือด้วยวิธีการอะไร...ก็เป็นผู้สูญเสียทั้งนั้น ว่าไหมคะ? บางคนก็เสียชีวิตทันที มีอีกมากที่แม้ยังไม่ตายแต่ก็บั่นทอนไฟชีวิตมืดลง ๆ ตราบใดที่ไฟชีวิตยังไม่ดับสนิท พวกเขาก็ยังมีกำลังใจที่จะเจอแสงสว่างในพรุ่งนี้ต่อไปนะ ^^
. . . . . . 6 สิงหาคม เป็นวันที่ระลึกถึงเหตุการณ์ผู้คนมากมายที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าในปี 2488 วันที่กำลังเขียนบทความอยู่นี้แม้ห่างกันหลายสิบปี แต่ก็เป็นวันที่ 6 สิงหาคม เช่นกัน
. . . . . . ฉันคงไม่ได้อ่อนไหวเกินไปใช่ไหม...นั่งเขียนไปน้ำตาก็เอ่อไหลอีกแล้ว...
(English section is unavailable.)
See you
แล้วพบกันใหม่ค่ะ
พุทราน้อย อ้อยอิ่ง
[ภาพวาดประกอบบล็อกโดย ทุเรียนกวน ป่วนรัก]
.
.
.
.
Let all the souls here rest in peace For we shall not repeat the evil
- Memorial Monument for Hiroshima -
.
.
.
.
หมายเหตุ
+ พุทราฯ เป็นนามปากกาที่ จขบ. ใช้สำหรับการเขียนบล็อกแนะนำหนังสือ ส่วนการตอบความคิดเห็นต่าง ๆ จะให้ ทุเรียนกวนฯ มาเขียนตามปกติจ้า
FYI
Create Date : 06 สิงหาคม 2556 |
|
36 comments |
Last Update : 11 กรกฎาคม 2560 18:24:33 น. |
Counter : 5250 Pageviews. |
|
|
|
A Memorial blog on August, 6th