Duke's Blog ยินดีต้อนรับทุกคนครับ
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
I'm in Hongkong ภาค 2 "แสงสี บะหมี่ สตรีหยิ่ง"

เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ผมอยู่ฮ่องกงครับ

ที่ตั้งชื่อเรื่องว่า "I'm in Hongkong ภาค 2"
คงสงสัยว่า แล้วภาค 1 ล่ะไปไหน
ที่ผมเรียกว่าภาค 2 เพราะนี้เป็นการไปฮ่องกงครั้งที่ 2 ของผม ส่วนภาค 1 ก็เมื่อกว่าสิบปีมาแล้วครับ

แต่คาดว่าจะมี ภาค 3 ภาค 4 ตามมาเรื่อยๆ เพราะระยะนี้คงจะไปบ่อยๆครับ

รูปเยอะนะครับ รอโหลดกันสักหน่อย

ผมไปถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง สนามบินที่เขาว่าดีที่สุดในโลก
รู้สึกว่าสุวรรณภูมิของบ้านเรา ก็สร้างแบบเดียวกับที่นี่ด้วย

มาถึงก็ตอนเย็นแก่ๆ เวลาที่นี่เร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง

สนามบินใหญ่มากครับ ระหว่าง Gate กับ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ต้องนั่งรถไฟไป

ระหว่างที่ผมนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ (ค่ารถแพงเป็นบ้า) ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าอยู่ในต่างประเทศสักเท่าไหร่เลย
อยู่บนทางด่วน สองข้างทางก็ใกล้เคียงบ้านเรา
จนตอนผ่านสะพานแขวน ผมยังพูดว่า "เดี๋ยวเราลงดาวคะนองเลยหรือเปล่า"

จะต่างกันก็ตรงที่ ถนนหนทาง ขึ้นๆ มุดๆ อยู่บ่อยๆ
ด้วยภูมิประเทศบนเกาะที่เป็นเขาเล็กๆ เต็มไปหมด
แต่ก็เห็นเขาขอดใช้พื้นที่ไม่มากนี้ ได้คุ้มค่าจริงๆ




ผมลงรถแท็กซี่แถวๆนี้ครับ ค่ารถก็ 300 เหรียญฮ่องกงพอดี (1 HK = 5.33 บาท)

เริ่มหิวครับ เลยสอดส่ายตามองหาร้านอาหาร




ยังไม่ถึงเวลาอาหาร ผมเลยเดินชมท้องถนนที่นี่ไปพลางๆ



ได้เวลาทานอาหารแล้วครับ ร้านนี้มีอาหารทะเลสดๆ หลายอย่าง
นี่เป็นปลาหมึกยักษ์ตัวเบ้อเร่อเลยครับ


ภาพนี้มัวไปหน่อยครับ ดันถ่ายไว้ภาพเดียวด้วย



อาหารมาแล้ว "หอยเชลล์กับวุ้นเส้น"



ปลาอะไรสักอย่างนึ่งซีอิ๊ว



ซุปหัวปลา อร่อยมากครับ




ส่วนจานนี้ก็...
ปลาหมึกตัวที่เห็นเมื่อกี้นี้แหละครับ






หลังจากนั้นผมก็นั่งรถต่อไปที่โรงแรม "นาธาน โอเต็ล"
ตั้งอยู่บนถนน "นาธาน" เวลาที่นั่นก็ประมาณสี่ทุ่ม

สักชั่วโมงนึง ผมก็ลงมาข้างล่างเพื่อที่จะไปหาซื้อน้ำและอาหารเล็กน้อย พร้อมกับชมท้องถนนไปด้วย
ตอนที่มองออกไปนอกประตูโรงแรม ผมเกือบจะนึกว่าสักบ่ายสามโมง มันดูสว่างมากเลยครับทั้งๆที่ 5 ทุ่มเข้าไปแล้ว

ประตูโรงแรมอยู่ด้านขวาครับ รูปเนี้ยมันมืดเพราะผมเปิดรูรับแสงน้อยและหันไปอีกทาง


แต่ถ้ากลับหลังหันไป จะเห็นแบบนี้ครับ


แค่ลำพังไฟถนนของที่นี่ ซึ่งผมก็ว่าสว่างมากเป็นพิเศษแล้ว
พอบวกกับแสงสีจากป้ายต่างๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ






นั่นแน่ มีภาษาไทยด้วย
แต่น้องสาวผมแอบกระซิบให้ฟังว่า ไม่เห็นคนขายพูดไทยได้สักคน









ส่วนที่เห็นอยู่ในภาพนี่ ผมเข้าใจว่าเป็นประมาณเทคกระมังครับ มีวัยรุ่นอยู่ข้างหน้าเยอะแยะไปหมดเลย แต่งตัวก็คล้ายๆ วัยรุ่นไทยตามสถานที่ท่องราตรี



ที่ภาพออกมาแบบนี้ เพราะว่าผมไม่กล้าไปยืนถ่ายข้างหน้าจะๆน่ะครับ บอกตรงๆว่าออกจะกลัวๆ บ้านเมืองเราก็ไม่ใช่ จะไปยืนถ่ายรูปหน้าเทคก็ไม่รู้จะเป็นไรหรือเปล่า
ก็เลยไม่ได้เก็บภาพวัยรุ่นข้างหน้ามาฝาก
แล้วรู้สึกว่าในนั้นจะมีงานฮาโลวีนด้วยนะครับ
ความจริง ผมอยากจะลองเข้าไปชมภายในสักหน่อย แต่เกรงจะพูดกับทางหน้าประตูไม่รู้เรื่อง
ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ มาเจอกันทั้งสองฝ่าย มันจะแย่เอาครับ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึงเก่งยังพอไหว






กลับมาถึงโรงแรมพร้อมกันเสบียง


และหนังสือดีๆ ที่พกมาจากเมืองไทย



ประมาณตี 3 ผมลงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เดินไปอีกด้านครับ ด้านนี้สีสันไม่เท่าด้านนั้น แต่เห็นไหมครับ ว่าไฟถนนเขาสว่างจริงๆ




ผ่านไป 1 คืน รุ่งขึ้นผมตื่นเช้าไปทานโจ๊กเจ้าอร่อยใกล้โรงแรมที่น้องสาวผมคุยหนักหนา อยู่ตรงข้ามกับเทค 348 เมื่อคืนนี้แหละ
ร้านนี้พูดภาษาไทยกับเจ้าของร้านได้เลยครับ
เมนูที่ติดข้างฝาก็มีภาษาไทย ที่สำคัญโจ๊กเขาเด็ดขาดมาก ผมไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีไหนทำ ถึงได้มีทั้งส่วนที่เป็นน้ำข้นๆ กับส่วนที่เป็นเม็ดข้าวพองๆ คงจะใช้วิธีต้มสองส่วนหรือเปล่าก็ไม่รู้






กินโจ๊กเสร็จ ผมก็กลับไปหลับบนห้อง จนถึงมื้อกลางวันเลยครับ
อาหารกลางวันก็เป็นอาหารจีน เห็นว่าเป็นร้านจีนแคระ อยู่ใกล้ๆโรงแรมเหมือนเคย ข้างๆร้านโจ๊กเมื่อเช้า

ไก่ ? อบเกลือมั้งครับ เค็มๆ


หมูพันชั้น ? นุ่มมาก ทานกับกาหนาฉ่าย


ผัดผักนี่ก็ไม่เลวครับ


เต้าหู้กับผักอะไรหว่า


ซุปกระเพาะหมูกับแปะก้วย







เมื่อคืนนี้ผมให้ชมแสงสียามราตรีกันไปแล้ว
วันนี้เรามาชมกลางวันบนถนนนาธานกันบ้างครับ




ทีแรกผมสงสัยจังว่าที่นี่คืออะไร ? ทำไมมีคนวัยทำงานอยู่เยอะแยะไปหมด
พอมองไปที่ป้ายถึงได้ร้อง...อ๋อ Jocky Club
ดูจากหนังฮ่องกงคงทราบนะครับ ว่าม้าแข่งที่นี่ฮิตกว่าบ้านเราหลายเท่านัก


รถยนต์ทีนี่ซิ่งมากครับ ดูเหมือนคนขับรถจะยึดถือแต่สัญญาณไฟเป็นหลัก คือถ้าไฟเขียวก็จะวิ่งอย่างเดียว ไม่ต้องมองคนเลย
เวลาข้ามถนนผมจึงระวังเป็นพิเศษ รอข้ามตอนสัญญาณมาใหม่ๆเท่านั้น ถ้าไฟคนกระพริบ(หมายถึงใกล้หมดเวลาคนเดิน) ผมจะไม่เสี่ยงออกไปครับ





ส่วนนี่ เป็นลานชุมนุมคนชราหรืออย่างไร


แผงขายหนังสือข้างทาง เหมือนในหนังฮ่องกงเปี๊ยบเลย



อุ้ย...แล้วนี่ตัวอะไร ?







โปสเตอร์เหล่านี้ ผมเห็นอยู่ตามผนังเต็มไปหมดเลยครับ อยากรู้จังว่ามันพูดถึงอะไร เห็นมีสาวสวยและก็ ราคา ???
ผมเดาเอาว่าอาจเป็น คาราโอเกะ หรือเปล่า






อันนี้ติดอยู่ข้างๆกัน แต่น่าจะคนละแนว
ดูเหมือนจะเป็นนักร้องวัยรุ่นครับ






พอตกเย็น ไฟก็เริ่มเปิดกันแล้ว
มาลองชมบรรยากาศยามเย็นกันดู





ทางเข้ารถไฟฟ้าใต้ดินเหมือนบ้านเราครับ



แผงขายหนังสืออีกแล้ว ผมเดินผ่านบ่อยๆ ชักอยากจะซื้อนิตยสารสักเล่มสองเล่ม เห็นสาวสวยหน้าปกน่ารักเหลือเกิน


มาดูกันดีกว่าว่ามีหนังสืออะไรกันมั่ง




แต่ขอบ่นอะไรสักหน่อยเถิด เรื่องสาวๆที่นี่
ก็น่ารักดีอยู่หรอกครับ แต่แม่นางหยิ่งจังเลย
ผมเห็นใครน่ารักก็ทักว่า...
"อยากมีแฟนเป็นคนไทยไหมครับ"
แต่ไม่เห็นมีใครตอบผมสักคน จะปฏิเสธผมก็ไม่ว่าดอก แต่เลยไม่ตอบเลยนี่สิ ทำเหมือนไม่ได้ยินผมเสียอย่างนั้น แย่จริงๆ




แผล่บเดียวก็เริ่มค่ำอีกแล้ว


เดินกลับมาแถวเดิม 348 เมื่อคืนนี้ไงครับ



และนี่ก็ร้านโจ๊กที่ทานเมื่อเช้า สังเกตป้ายดูสิครับ



แถวนี้เป็นย่านแผงลอยครับ


ตลาดนัดเหมือนบ้านเราเลย



อันนี้...น่าจะเป็นร้านคาราโอเกะ




ได้เวลากลับแล้วครับ ทีแรกวางโปรแกรมไว้ว่าจะอยู่ 2 คืน
แต่แล้วต้องเปลี่ยนกระทันหันเหลือแค่ 1 คืนครับ

นี่คือในรถไฟไปสนามบิน



ลองชมสนามบินนานาชาติฮ่องกงดูครับ
ถ่ายไว้ไม่เยอะ เพราะผมเริ่มเหนื่อยแล้ว








บนเครื่องบินมีเกมให้เล่นด้วย


ขากลับมีแอร์คนไทยตั้งหลายคนแนะ น่ารักทั้งนั้น




หลังจากอาหารหมดไป ผมก็ว่างไม่มีอะไรทำ
เล่นอยู่กับกล้อง หนังสือ และ เบียร์







ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
แค่นี้ก่อนนะครับ ไปรอบหน้าคงจะมีอะไรมาฝากอีกในภาค 3

ปล. ก่อนมานี่ ผมตั้งใจจะกินบะหมี่แสนอร่อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้กินเลย คราวหน้าต้องไม่พลาด


Create Date : 21 ตุลาคม 2548
Last Update : 8 กรกฎาคม 2550 3:46:50 น. 23 comments
Counter : 1910 Pageviews.

 
โห พี่ดุ๊ก อยากกิน อยากกินอ่า ไปกันกี่คนเนี่ย อาหารเยอะเชียว

ผักนั่น แถวนี้เค้าเรียก Bok Choy อ่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าภาษาไทยเอิ้นว่าอีหยัง


โดย: น้ำตาล IP: 128.2.141.22 วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:4:49:30 น.  

 
เคยไปเหมือนกันชอบสนามบินเพราะทันสมัยมาก แต่ของเรากำลังจะทันสมัยกว่า รู้สึกเห็นด้วยที่สนามบินแบบดีๆ เพราะเป็นด่านแรกที่คนต่างชาติเห็นเรา ถ้าสนามบินสวยก็จะรู้สึกประทับใจ


โดย: ปุ้ย (puimnida ) วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:7:01:52 น.  

 
ฮ่องกง เดินเที่ยวสนุกอะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:10:03:08 น.  

 
กำลังจะไปปลายเดือนนี้เหมือนกันค่ะ แต่ไปทำงานน่ะ


อยากได้อะไรมั้ยคะ?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:10:29:40 น.  

 
แอบตามไปเที่ยวฮ่องกงค่ะ อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย


โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:10:40:41 น.  

 
ถ้าไม่มีการผิดพลาดแต่ประการใดสิ้นปีนี้คงได้ไปเยือนภาค 2 เหมือนกันคะ
เห็นโจ๊กแล้วน้ำลายสอ ต้องไปจัดการหม่ำโจ๊กที่ร้านนี้ให้ได้คะ


โดย: นู๋ส้มจุก วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:14:05:04 น.  

 
น่าเที่ยวเนอะ เดี๋ยวผมว่าจะกลับไปเที่ยวอีกเหมือนกัน


โดย: dont wanna no วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:14:59:30 น.  

 
ไปรอบหน้าต้องลองไปกินโจ๊กร้านนี้ซะหน่อยแว้ว


โดย: หมาร่าหมาหรอด วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:17:45:09 น.  

 
โอ...ซุปหัวปลาน่ากินจังเลย ไปคราวหน้าอยากไปลองมั่งจังค่ะ ^__^


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:17:51:03 น.  

 
อาหารน่าทานทุกอย่างเลย เลือกร้านน่าสนใจจริงๆ ของเราร้านไหนก้อได้ ขอแค่กันตาย
เห็นรูปแล้วหิวเลยค่ะ
แสงสี บะหมี่นี่พอเข้าใจค่ะ แต่ผู้หญิงหยิ่งตรงไหน งงค่ะ


โดย: Fruit_tea วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:21:02:19 น.  

 
หยิ่งสิคะ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย
ผมพูดว่า "อยากมีแฟนเป็นคนไทยหรือเปล่าคะ"
เธอไม่ตอบครับ ทำเหมือนไม่ได้ยิน


โดย: Duke-ดุ๊ก วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:21:29:06 น.  

 
แวะมาท้วงของฝาก....


โดย: เหมือนจะไม่คิดถึง IP: 203.118.104.119 วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:22:45:45 น.  

 
โอ้ ปลาหมึกน้อยผู้น่าสงสาร ลงไปอยู่ในกระเพาะเจ้าของบล็อกซะแระ

อยากอ่านหนังสือของคุณประภาสเล่มนั้นบ้างจัง


โดย: tabebuia วันที่: 24 ตุลาคม 2548 เวลา:14:27:39 น.  

 
เล่าเรื่องด้วยภาพได้หนุกมากคับ รอภาค 3 นาคับ


โดย: 5150_b วันที่: 25 ตุลาคม 2548 เวลา:7:07:23 น.  

 
ซี่โครงหมูกับแปะก๊วยยย
อาหารเครื่องบินนนนน แผลบๆๆๆๆ


โดย: Nutjung วันที่: 26 ตุลาคม 2548 เวลา:13:11:27 น.  

 
ประกาศไว้ก่อนครับ ก่อนจะมีฮ่องกงภาค 3 จะเป็นญี่ปุ่นภาค 2 ก่อนครับ
พอดีได้โอกาสไปดูงานของ Toyota ที่นั่น


โดย: Duke-ดุ๊ก วันที่: 27 ตุลาคม 2548 เวลา:1:35:31 น.  

 
พี่ดุ๊ก ไปญี่ปุ่นนี่ต้องถ่ายรูปอาหารมาเยอะๆนะ


โดย: Pat :o) วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:13:40:00 น.  

 
เข้ามาอ่านค่ะ


โดย: มาริอา วันที่: 2 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:29:56 น.  

 
ไอ้ดุ๊กว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

กรูมาแล้วน๊า

เมิงนี่นั่งสิงคโปร์แอร์ไลน์แน่ๆ เพราะกูเองกลับจากญี่ปุ่นสองสามทีที่ผ่านมาก็สิงคโปร์แอร์ไลน์ตลอด มีเกมส์เล่นพร้อมเบียร์แด๊ก เอิ๊ก

สาวฮ่องกงเหรอ กูว่าเขาดูถูกคนไทยว่ะ อย่าว่างั้นงี้เลย เดี๋ยวนี้ขนาดสิงคโปร์ มาเลย์ มันยังดูถูกคนไทยเลย อย่าไปคิดมาก ไว้รวยมากๆ แล้วเอาเงินฟาดหัดเลยดีกว่า ไม่ต้องถามสัญชาติละงานนี้

กรูอยากกินนั่นโน่นนี่หลายอย่าง แต่ที่แน่ๆ ธันวานี้กูกลับไทยละ เจอกันเว้ย

ปล. เมิงไปดูงานตั้งโตเกียวแน่ะ แล้วจะเจอกรูไม๊ อยู่คนละฟากประเทศเลยเมิง


โดย: ฉุย IP: 222.10.136.53 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:03:53 น.  

 
ไม่ใช่สิงคโปร์แอร์ไลน์ว่ะฉุย เอมิเรสต์แอร์ไลน์


โดย: Duke-ดุ๊ก วันที่: 6 พฤศจิกายน 2548 เวลา:23:52:43 น.  

 
แสงสีจริงๆ


โดย: คนสวย (ทำใจได้ ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:13:14 น.  

 
แวะมาดู...และขอบคุณง่ะ


โดย: คนข้างบ้าน IP: 203.154.154.162 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:16:24 น.  

 



คุณดุ๊กนี่ยิงกล้องไม่ยั้งเหมือนผมจริงๆ
แต่มันเก็บบรรยากาศได้ละเอียดดีนะว่าไหมครับ

ผมเคยเห็นเขา
เสริฟเต่าทะเล ในชามยักษ์ ให้โต๊ะอื่นนะ
ท่าทางจะเป็นเหมือนซุปหรือต้มยำ ประมาณนั้น
กระดองเต่า โผล่เหนือน้ำข้นขาวขึ้นมาหน่อย

โอย...
เห็นแล้วเวียนหัว




โดย: ปิศาจสุรา (อะไรดี ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:15:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Duke-ดุ๊ก
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Duke-ดุ๊ก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.