ณ เวิ้งว้างอ้างไว้ไยอ้างว้าง

แม้นมีดาวน้อยดวงในค่ำวาน
และไร้ขานหวานแว่วจากใครไหน
ดุหยงหลงลอยเท้งเคว้งคว้างไกล
ปล่อยกายให้สายน้ำกำหนดชะตา

ยังมีหลงเรืองเรื่อจากบุหลัน
ยามรัตติกาลเท่านั้นเฝ้าปลอบหา
ทาบผืนน้ำนำทางบางเวลา
ครั้งดาวแห่งทิศายังพร่าเลือน

พลัดกลุ่มชุมฝูงเคยจูงกลุ่ม
หลงดั้นด้นดุ่มกับกลุ่มเพื่อน
ใจคะนองของใครเงาเลือนเลือน
กี่ราตรีเยือนยังรางราง

ร่องน้ำคลาคล่ำผู้อยู่เก่า
ยังพอมีไหมเล่ากับที่ว่าง
ร้าวใจเหลือเกินเกินปล่อยวาง
ณ เวิ้งว้างอ้างไว้ไยอ้างว้าง

วันเลาะเลี้ยวเที่ยวท่องคลองน้ำตื้น
จะเที่ยง,เย็น,ดึกดื่นจวบรุ่งสาง
ท้องลืมหิวกิ่วคอดตลอดทาง
กลับอิ่มหว่างไร้ที่ว่างจนวางใจ

หญ้าทะเลเขียวขจีมียอดอ่อน
ปลิวยอดไหวออดอ้อนร่อนไสว
ดุหยงหมู่กรูป่ายแหวกว่ายไป
เริงสำราญหาไหนแทบไม่มี

หลบตาข่ายสายอวนมีป่วนปะ
ไม่ลดละทดท้อหลบย่อหนี
แสวงหาถิ่นใดเล่าเจ้าเสรี?
อยากพำนักพักที่ นทีเดียว

พอหันมองกลับไปจากใหม่ที่
นานเท่าไหร่แล้วนี่ที่ดุ่มเดี่ยว
ร่องน้ำเก่าดูห่างช่างไกลเชียว
สายน้ำเชี่ยวจนยากทวนถ้าหวนคืน

ครั้นคราน้ำขึ้นคาแอบหาฝั่ง
เหมือนหวังในทุกครั้งที่รื้นอื้น
จะกี่ค่ำน้ำนองลองคืนอื่น
ยังหาชื่นคืนสนุกสุขเก่ากาล


ครีบพุ้ยพาพยุงไปเอื่อยเอื่อย
ชวนให้คิดไหลเรื่อยไร้แก่นสาร
ถนอมใจเอาไว้คงไม่นาน
จะพ้นผ่านอีกคืนค่ำน้ำพยุง

เอี้ยวหินโขดเลาะลัดออกห่างหาด
ไม่เปรียวปราดชองช่ำเที่ยวดำผลุง
ค่อยค่อยปล่อยใจหนาอย่ารังรุง
เดี๋ยววันพรุ่งรุ่งแล้วสว่างตา

ทั้งปูปลาสารพัดจะชัดกลอก
แนวกะรังเคยเย้าหยอกเขาชอกกว่า
ยากจะซ่อนห่อนเห็นเร้นกายา
เสร็จมนุษย์มนาผู้ธรรมมโน

ขอต้อนรับกล้าแสงมะตาหะรี
ทอทอดอาบทาบน้ำนี้มีสุโข
อ่อนอ่อนรินกลิ่นเข้มเค็มวาโย
คราพ้นโผล่ผิวผืนหลังคืนเค็ม

สะบัดหางทางพุ่งมุ่งไปต่อ
หามีท้อท่องไปไม่เบนเข็ม
ตราบทะเลอุ้มรับร่างฉันเต็ม
อีกยังหญ้าแทะเล็มคราวต้องการ

ล่องผ่านท้องเรือหางต้องห่างพัด
ควงใบตัดน้ำร่องต้องใบฝาน
เป็นฟองสายท้ายเรือดูเพรื่อลาน
ฉันแอบสุขสำราญพอผ่านฟอง

เห็นอวนกัดกางกั้นเขาคั่นดัก
มากมายนักติดปลาดูหน้าหมอง
จะช่วยด้วยวิธีใดได้แต่มอง
สุดท้ายต้องเบือนหน้าน้ำตาคลอ

ลัดโขดแก่งแหว่งเว้ามีเจ้าของ
ตุหนาหงันจับจองตูหนาหอ
มีหยอกยั่วแกมเย้าเฝ้าพะนอ
ฉันลับล่อขอห่างไม่ขวางกัน

พอพ้นผ่านลานโล่งละลานตา
ทั้งการังกัลปังหาดูลดหลั่น
บ้างไหวไหวใต้น้ำดำรงค์พันธุ์
ธรรมชาติรังสรรค์ปันทะเล

ทุกชีวิตกำหนดวางต่างมีค่า
ประดับดาบรรเจิดย้อมแต่กล่อมเห่
ต้องหลุดพ้นถีบไกลกว่าไกวเปล
แต่มนุษย์แสนเล่ห์เพทุบาย

" ณ เวิ้งว้างอ้างไว้ไม่อ้างว้าง
มีเส้นทางให้ไปได้หลากหลาย
แม้ภัยพรางต่างเร้นไม่เด่นกาย
ขอเพียงเจ้าดำว่ายระมัดระวัง "

คือคำพ่อคลอหูเหมือนไม่นาน
หลายปีผ่านฉวยใช้ไม่ผิดหวัง
หากแต่ยากตรงมิตรมาคิดชัง
ฉากเบื้องหลังซับซ้อนถูกซ่อนไว้

เคยจะถามท่านระตูผู้ครองถิ่น
ว่าธรรมะเฉกผืนดินเคยยินไหม
ควรคัดลอกศาสดาเอามาใช้
กำหนดไว้เป็นกฎใต้ทะเล

เสียงผืนน้ำตูมดังภวังค์หลุด
ฉันเผลอว่ายดำผุดจนโพล้เพล้
เห็นแดดเหลือยังเรื่อเรือตังเก
ประมงเห่เรือพาเข้าหากิน

ทอดสมอน้ำไหวใช้ถ่วงท้อง
ก่อนฟ้าหมองลองไดเผื่อไฟหมิ่น
ซอตองหมู่กรูแห่แพประทิน
ดั่งแพรดิ้นงามเกินน้ำเงินแพร

ทิ้งระลึกรอยเก่าเอาลอยทิ้ง
ดำดิ่งปล่อยเลือนไปหัวใจแผล
ใครระตูอ้างไว้ไม่เหลียวแล
ทิ้งหรือขวาง?ไร้ทางแก้แพ้อธรรม

อนุรักษ์ช้ำชอกหลอกให้เชื่อ
โรยยาเจือเบื่อเมาเอาขย้ำ
แค่ชีวิตใต้ทะเลยังระกำ
ไยมนุษย์ผู้เลิศล้ำซ้ำทำลาย

พลันกระทบพบครืนคลื่นใต้น้ำ
เผลอถลำดำม้วนยากทวนสาย
กระแสแรงรุนโหมเข้าโถมกาย
หางพยุงครีบว่ายไม่ดังใจ

แม้นมีดาวน้อยดวงในรัตติกาล
และไร้ขานหวานแว่วจากใครไหน
ดุหยงหลงลอยเท้งเคว้งคว้างไกล
คงปล่อยให้สายน้ำกำหนดชะตา.

ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จากโลกออนไลน์ครับ

ศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

บุหลัน : ดวงจันทร์

มะตาหะรี : ดวงอาทิตย์

ระตู : ผู้ครองเมือง

ซอตอง : หมึก

ดุหยง : พะยูน

การัง : ปะการัง

ตูหนา : ชื่อปลาชนิดหนึ่ง

กัด : อวนดักปลา




Create Date : 24 ธันวาคม 2555
Last Update : 12 มีนาคม 2557 8:02:45 น.
Counter : 2513 Pageviews.

14 comments
  
อันดามันกว้างไกลไร้ขอบเขต
แนวประเทศขวางเสรี..หามิได้
เสาะแสวงแหล่งวารีที่สุขใจ
ร่าเริงว่ายผุดดำ.ตามจินตนา

ห้วงธารินถิ่นเก่าพาเศร้าสร้อย
เจ้าจึงคล้อยจากร้าง..พลางใฝ่หา
ณ แดนนี้หลากหลายเหล่ามีนา
ต่างวางท่าครีบหาง สมดังใจ

หวังดุหยงคงสุข.ปลุกจิตชื่น
นับวันคืนรื่นรมย์..สมปองหมาย
ท่องนที.ใหญ่กว้าง อย่างเพลินใจ
อันดามัน..โอบเจ้าให้..ได้สุขเอย...
โดย: อนตมน IP: 14.207.127.219 วันที่: 24 ธันวาคม 2555 เวลา:12:29:20 น.
  
แวะมาอ่านค่ะ
โดย: มาโซคิส วันที่: 24 ธันวาคม 2555 เวลา:20:30:21 น.
  
ขอบคุณมากครับ สำหรับกลอน... คุณ อนตมน

ขอบคุณ คุณมาโซคิส ที่ให้เกียรติแวะมาครับ

โดย: ดุหยง วันที่: 25 ธันวาคม 2555 เวลา:9:47:01 น.
  


สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ

กลอนเพราะมาก
โดย: พันคม วันที่: 25 ธันวาคม 2555 เวลา:18:39:21 น.
  
ขอบคุณมากครับ คุณพันคม ที่มาเยี่ยม
โดย: ดุหยง วันที่: 26 ธันวาคม 2555 เวลา:9:51:47 น.
  

ผมมาอ่านท่านเขียน อ่านง่ายมีความหมายดีครับ
อ่านแล้วเข้าใจเลย อ่านของท่านแล้วผมชอบนะ

เชื่อมั๊ยประโยคนี้ผมเพิ่งเขียนครั้งแรก แบบนี้หล่ะที่ผมอยากเขียน
แต่ทำไม่ได้ดังใจ ความรู้สึกแบบนี้หล่ะ
โดย: พันคม วันที่: 26 ธันวาคม 2555 เวลา:10:04:07 น.
  
ขอบคุณครับ
โดย: ดุหยง วันที่: 29 ธันวาคม 2555 เวลา:14:28:35 น.
  
นึกถึงเพลงบุหลันลอยเลื่อน
โดย: Pikake วันที่: 16 มกราคม 2556 เวลา:8:46:46 น.
  
ท้องทะเลไร้คลื่นแรงคอยแกล้งเจ้า
ดุหยงคลายเงียบเหงาแล้วซิหนอ
มากปลาว่ายส่ายครีบหางกางเคลียคลอ
ชวนเจ้าล้อเล่นน้ำผุดดำไป

ทอดตามองไกลไกลใจสุขด้วย
แหล่งนี้ช่วยปรับแต่งแปลงใจใส
ขอเจ้าอยู่ยงยืนอย่ามีใด
มาทำให้เร่ร้าง..ห่างจากจร

อธิษฐานทุกวันคืนจงชื่นสุข
ปะการังดอกไม้ปลูกบานสลอน
เปล่งสีสรรสดสวยอรชร
บนงานกลอนอ่อนหวาน..ปันให้ชม...

..........................................................
ยินดีที่มีความสุขค่ะ...

โดย: นานา IP: 223.204.187.229 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:14:56 น.
  
คลื่นกระแสแปรปรวนลมหวนทิศ
ตระหนกจิตห่วงเจ้าเฝ้ามองหา
หลบแหล่งที่ปลอดภัยหรือไม่นา
ใจหวังว่าเจ้าแข็งแกร่งแรงต้านพอ

ห้วงนทีปลอดภัยอย่าไกลจาก
ขอเจ้าฝากกายใจไว้เถิดหนอ
อย่าทิ้งไปว่ายหนีมีเพื่อนรอ
เขียนคำขอแทนเสียงกู่..โปรดรู้ใจ
......................................................
ด้วยความปรารถนาดี
โดย: นานา IP: 14.207.149.160 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:52:18 น.
  
ลมสงัดคลื่นสงบมิพบเจ้า
หลบบังเงาซุกซ่อนชะง่อนหิน
หรือมุดน้ำดำว่ายสายธารริน
จึงมิยิน เสียงเรียกที่เพรียกวอน

เหลียวแลหาแลหายฤาไกลถิ่น
ชะเง้อสิ้นสุดโค้งฟ้าพาทอดถอน
เจ้าเคยโบกครีบหางพัดซัดเปียกปอน
เมื่อคราก่อน..บัดนี้ใย..ไม่เห็นเลย

..........................................................
รออยู่นะ..ดุหยง
โดย: นานา IP: 14.207.125.29 วันที่: 13 มีนาคม 2556 เวลา:10:17:22 น.
  
...เข้ามาดื่มด่ำ บทกลอนอันไพเราะ..
โดย: Amster-แดง IP: 101.51.50.15 วันที่: 10 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:19:03 น.
  
ขอบคุณครับ เพื่อน ๆ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ คุณ Amster-แดง

โดย: ดุหยง วันที่: 30 พฤษภาคม 2556 เวลา:4:16:17 น.
  
คลืนทะเลเห่ยังเหมือนครั้งก่อน
ชลาซอนชะง่อนหินยินซ้ำซ้ำ
สีครามเขียวเกลียวกอดยังพรอดดัง
กระซิบสั่งผืนทรายมิคลายจาง

ลมคงพริ้วริ้วเลื่อมกระเพื่อมระยับ
ระวีวับแววไวไสวสว่าง
ดุหยงเอยเคยว่ายกรายอำพราง
แอบบังร่างหลบเร้นไม่เห็นเงา

ห้วงอันดาว้าเหว่ทะเลว้าง
เสียงลมครางคร่ำครวญรัญจวนเหงา
ระลอกคลื่นครีบหางร้างนานเนา
ฤาใจเจ้าจางรอยคล้อยจากลา





โดย: nana_tjj วันที่: 26 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:53:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดุหยง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



เจตนาการแต่งร้อยกรองในบล็อคนี้ เพียงเพื่อความเพลิดเพลินด้านอารมณ์ส่วนตัวเท่านั้น หากมีบทหนึ่งบทใดใช้คำ หรือฉันทลักษณ์ที่ผิดพลาด หรือไม่เหมาะสม ผู้แต่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ทั้งนี้ไม่ใช่มีเจตนาจะไม่รักษาความถูกต้อง ของภาษาไทยและคุณค่าของวรรณกรรมไทย แต่เพราะความรู้ยังห่างไกลเสียมากกว่า

ธันวาคม 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
30
31