ก้อใช้งานหนักขนาดนี้ พอขยับ มันก้องัดฟันที่เกี่ยวไปในตัว เผลอแพล้บๆหายไป 4ซี่ ลมแแทบใส่ ....

โปรเจคตอนนั้นเลยตั้งไว้ว่า จะต้องปฏิวัติช่องปากแม่ ให้เหมือนใหม่ เพราะตอนนนั้นกลิ่นปากก้อรุนแรงซะจน ไม่กล้าหอมแม่เลย เราก้อเลยเริ่มจากการเปลี่ยนคลินิคก่อน ไปคลินิคอื่นแทน ไปถึงปุ๊บ บอกโจทยหมอ ต้องทำไรบ้าง ทำเต้มที่เลยค่ะ ขอโมลด์ยกปากได้เหมือนใหม่เลยค่ะ คุณหมอคลินิคแถวบ้าน ...คุณหมอกอรี บอกอย่างชัดเจนเต้ม 2หู เลยว่า ไปหาหมอตาม รพ.มหาลัย ดีกว่าครับ เครื่องมือที่คลินิคทำได้แค่เบื้องต้น ...first aid เหรอเนี่ยะะ เราฟังปุ๊บ แล้วควรไปมหาลัยไหน ...หมอไม่ได้เจาะจง บอก ได้หมด ...มันเลยเริ่มมาสู่การเสาะหา เพื่อให้ได้ของที่ดีสุด ราคาไม่แพง และต้องสะดวกพาแม่ไป เพราะพ่อเราเปนพวกต่อต้านหมอ รวมถึงเวลาพ่อนี่ พ่อคงคิดว่าตัวเองวินาทีละแสน ชอบบอกว่าเสียเวลาโน่นนี่ ..ไม่พาแม่ไปแน่ๆ นี่เปนอีกอย่างที่เราต้องคำนึงถึง ต้องเอาใจพ่อด้วย 

คิดออกอันแรกเลย พาไป ม.กลางเมือง แถวสยาม เลยล่ะกัน เพราะเคยไปรักษา ก้อเรียกว่าดีนะ แต่เพิ่งมาตระหนักตอนหลังว่า ไม่เหนจะดี พอได้ไปลองที่อื่นถึงเพิ่งรุ้ว่าที่นี่ไม่ดี และพอเจอเรื่องที่เกิดกะแม่ ก้อเลยรุ้ว่า ต้องเรียกว่า โคม่า เลยทีเดียว ขั้นตอนของการเข้าสู่วงการการรักษากะหมอฟันมหาลัย ต้องมีวันแรกที่ต้องเสียเวลา กะการทำประวััติ การ screen โรค ในครั้งแรกเสมอ คือวันแรกไปเริ่มต้น ต้องเข้าใจว่ามีเสียเปล่าว จากนั้น ครั้งต่อๆไป จึงเข้าสู่การนัดหมาย มีคิวแน่นอน ไปปุ๊บได้ตรวจตามคิว ไม่เสียเวลา เราไปปุ๊บวันแรก ก้อบอกแบบที่บอกหมอฟันที่คลินิค คือขอโมลดทั้งปาก และมีต้องทำฟันปลอม แต่ขอแบบที่ไม่ต้องเกี่ยวกะฟันซี่อื่น เค้าก้อบอกให้เราทำอุดคอฟันได้เลย เลยอุดคอฟันครบทั้งปากด้วยวันนั้น อีกอาทิดมา มาคุนกันเรื่องทำฟันปลอม ทันตกรรมประดิษฐ ...ขอเบรคเปน ภาค 2ล่ะกัน