ยิปซีสีน้ำเงิน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยิปซีสีน้ำเงิน's blog to your web]
Links
 

 
อ า ร ม ณ์ ศิ ล ปิ น ข อ ง นั ก เ ขี ย น

อ า ร ม ณ์ ศิ ล ปิ น ข อ ง นั ก เ ขี ย น




Title: The Writer
Artist: Vincent Magni



เออเนสต์ เฮมิงเวย์ (Ernest Hemingway)
ชอบยืนเขียนหนังสือหน้าเครื่องพิมพ์ดีด
และจะชอบมากถ้าได้ใส่รองเท้าอยู่บ้านคู่หลวม
เขาเริ่มเขียนตั้งแต่ ๗ โมงเช้า
ตั้งกฎเพียงว่าวันหนึ่งต้องเขียนได้ ๕๐๐-๑,๐๐๐ คำ
(๕๐๐ คำประมาณค่อนหน้ากระดาษหนังสือ)
เฮมิงเวย์จะหยุดเขียนตอนกำลังเขียนได้ลื่นไหล
เพราะจะได้เขียนต่อได้ว่องไวในวันรุ่งขึ้น
เฮมิงเวย์เชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก


Ernest Hemingway

แกรห์ม กรีน (Graham Greene) เขียนหนังสือวันละ ๕๐๐ คำ
เมื่อถึงเป้าหมายแล้วจะหยุดทันที แม้จะยังเขียนไม่จบประโยค

ลูอิส แครอลล์ (Lewis Carroll) เขียนหนังสือเกือบทุกเรื่อง
ด้วยการยืนเขียน รวมถึงการผจญภัยของอลิซในแดนมหัศจรรย์

โทมัส วูล์ฟ (Thomas Wolfe) ยืนเขียนหนังสือในครัว โดยใช้หลังคาตู้เย็นต่างโต๊ะ


Lewis Carroll

วลาดิเมียร์ นาโบคอฟ (Vladimir Nabokov)
ชอบยืนเขียนหนังสือลงในบัตรคำขนาด ๓ x ๕ นิ้ว
โดยเขียนบางประโยคหรือบางฉากลงไป แล้วค่อย ๆ เติมให้สมบูรณ์
โดยการเติมนั้นไม่เป็นไปตามลำดับ
นาโบคอฟเป็นคนหลับยากจึงเก็บบัตรคำไว้ใต้หมอน
เผื่อตื่นดึก ๆ จะได้เอามาเขียนต่อ

สตีเฟน คิง (Stephen King) เขียนหนังสืออย่างต่ำวันละ ๑๐ หน้าทุกวัน
ไม่เว้นวันหยุด

แดน บราวน์ (Dan Brown) ตื่นมาเขียนหนังสือตั้งแต่ตีสี่
ตั้งนาฬิกาทรายกำหนดเวลาหนึ่งชั่วโมงไว้บนโต๊ะ
พอครบชั่วโมงจะพักจากการเขียนไปยืดเส้นยืดสายและวิดพื้น
เพื่อให้เลือดและความคิดแล่น

จอห์น สไตน์เบก (John Steinbeck)
ชอบเขียนหนังสือด้วยดินสอยี่ห้ออีเบอฮาร์ด เฟเบอร์ รุ่นแบล็กวิง ๐๖๒
เขาว่าเป็นดินสอดีที่สุดแม้จะแพงกว่าดินสอทั่วไปสามเท่า



ดอน เดอลิลโล (Don DeLillo) คิดค้นวิธีใหม่ในการเขียนคือขึ้นหน้าใหม่ทุกครั้ง
ที่ขึ้นย่อหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นย่อหน้าสั้นเพียงใด
วิธีนี้ช่วยให้เขาเห็นประโยคชัดเจนขึ้น แก้ต้นฉบับง่ายขึ้น
และทำให้มีสมาธิกับสิ่งที่เขียนมากยิ่งขึ้น

เคิร์ต วอนนิกัต (Kurt Vonnegut) เขียนทีละหน้า
จากนั้นจะแก้แล้วแก้อีกจนกว่าพอใจ
ทำอย่างนี้ไปจนกว่าจะเขียนจบเล่ม

มาร์เซล พรูสต์ (Marcel Proust) เขียนหนังสือส่วนใหญ่ตอนกลางคืน
โดยเขียนบนเตียง

โรเบิร์ต ฟรอสต์ (Robert Frost) ชอบเขียนงานบนเก้าอี้
โดยเอาแผ่นไม้วางบนที่วางแขนเก้าอี้ต่างโต๊ะ

ทรูแมน คาโพที (Truman Capote) จะเขียนโดยใช้กระดาษสีเหลืองเท่านั้น



Balzac

บัลซัก (Balzac) ดื่มกาแฟวันละไม่ต่ำกว่าสิบแก้ว
เชื่อว่าการจะเขียนหนังสือที่ยอดเยี่ยมขึ้นได้
จำเป็นที่ตัวเขาต้องคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องของร่างกายเอาไว้
ทุกครั้งที่ไปนอนกับผู้หญิงมา เขาจะบอกตัวเองว่า
"สูญงานมาสเตอร์พีซไปอีกเล่ม"

กุสตาฟ โฟลแบรต์ (Gustave Flaubert)
เก็บรองเท้าแตะของคนรักเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะ



เอมิลี ดิกกินสัน (Emily Dickinson) เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวยิ่ง
และไม่ออกจากบ้านไปไหน

จอห์น ชีเวอร์ (John Cheever) สมัยพักที่นิวยอร์กตอนหนุ่ม ๆ
ทุกเช้าจะใส่ชุดทำงานลงลิฟต์มากับผู้ชายร่วมตึกที่ออกไปทำงาน
ลงลิฟต์แล้วเขาจะเดินลงบันไดต่อไปชั้นใต้ดินของอาคาร
ไปเขียนหนังสือในห้องเก็บของไร้หน้าต่าง
ห้องนั้นร้อนมากจนเขาต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดเหลือแต่กางเกงชั้นใน
เขียนจนเที่ยงก็ใส่เสื้อผ้าขึ้นลิฟต์มากินข้าวบ้าน
พอกินข้าวเสร็จก็กลับลงไปถอดเสื้อผ้าเขียนต่อ


Emily Dickinson

ฟรีดริก วอน ชิลเลอร์ (Friedrich von Schiller)
เคยเก็บลูกแอปเปิลเน่าไว้ในลิ้นชักโต๊ะ
คอยเปิดสูดดมขณะแต่งบทกวี

แอนโทนี ทรอลลอป (Anthony Trollope)
เขียนหนังสือตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงแปดโมงครึ่ง โดยวางนาฬิกาไว้ตรงหน้า
เขาบังคับตัวเองให้เขียนให้ได้ ๒๕๐ คำต่อสิบห้านาที
ถ้าเขียนหนังสือจบเล่มก่อนแปดโมงครึ่ง
จะเริ่มเขียนนิยายเล่มใหม่ต่อทันที
(หลังแปดโมงครึ่งเขาไปทำงานประจำ ณ ที่ทำการไปรษณีย์)
ด้วยวิธีนี้ เขาเขียนนิยายได้ ๔๙ เล่มภายใน ๓๕ ปี



วิลเลียม ฟอล์กเนอร์ (William Faulkner)
กล่าวว่าเครื่องมือจำเป็นในการเขียนหนังสือของเขา
ได้แก่ กระดาษ บุหรี่ อาหาร และวิสกี้ เขาดื่มเหล้าตลอดเวลาที่เขียนหนังสือ

โคเลตต์ (Colette) ชอบอ่านและเขียนหนังสือบนเตียง
ก่อนเริ่มเขียนเธอชอบหาเห็บให้แมวก่อน

Saint-Pol-Roux แขวนป้าย "กวีกำลังทำงาน" ไว้หน้าประตูห้องนอน

คาร์ล ไฮยาซัน (Carl Hiaasen) เขียนงานหน้าคอมพิวเตอร์โดยใส่ที่อุดหู

แฟรงก์ แบร์โรวส์ (Frank Barrows)
สมัยเขียนข่าวกีฬาให้หนังสือพิมพ์ เมื่อนั่งเขียนข่าวจะใส่ที่อุดหู
และหยิบเข็มขัดสีดำเส้นใหญ่มารัดตัวเองไว้กับเก้าอี้

.........................



Title: Rowan Oak Was the Home of Southern
Writer William Faulkner
Artist: Stephen Alvarez

ฉันอยากตั้งชื่อใหม่ว่า
"ที่ สุ ด ท้ า ย ซึ่ ง ไ ร้ ตั ว อั ก ษ ร ข อ ง ฉั น"






ข้อมูลนักเขียนนำมาจาก คอลัมน์: คนกับหนังสือ นิตยสารสารคดี
และเว็บ //www.faylicity.com











Create Date : 04 ตุลาคม 2550
Last Update : 5 ตุลาคม 2550 8:15:23 น. 45 comments
Counter : 2603 Pageviews.

 
ฉันเริ่มเขียนหนังสือจากอักษรตัวแรกและจบลงที่อักษรตัวสุดท้าย


โดย: ตาพรานบุญ วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:1:55:55 น.  

 
แปลกจังเลยค่ะ นักเขียนแต่ละคนมีกฎ และวิธีการเขียนแปลกๆ แต่ที่ว่า เขียนหนังสือวันละ ๕๐๐ คำ
เมื่อถึงเป้าหมายแล้วจะหยุดทันที แม้จะยังเขียนไม่จบประโยค อันนี้แปลกสุดเลยค่ะเพราะคงอึดอัดน่าดูถ้ายังเขียนไม่จบ อีกอย่างความคิดไม่ต่อเนื่องด้วย แต่อย่างว่านะคะ ศิลปิน หรืออัจฉริยะมักมีความคิดต่างจากคนทั่วไปเสมอ

ฮิๆ ถอดเสื้อผ้าเขียนนี่ก็แปลก หรือเพราะอยากรู้สึกสบายและอิสระก็ไม่รู้

คุณยิปซีสบายดีนะคะ มือหายเจ็บหรือยังคะ


โดย: KOok_k วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:2:01:52 น.  

 
นักเขียนที่คุณยิบซีสีน้ำเงินเอ่ยถึงมานี้ แต่ละคนเป็นนักเขียนที่โด่งดังมากๆนะครับ ผมรู้จักหลายท่าน แต่ที่แน่ๆก็บัลซัค และโฟลแบร์ต ครับ เพราะเป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศส และผมก็ได้เรียนมาสมัย ป ตรี บัลซัคนั้นเป็นนักเขียนแนว naturalism ที่แสดงให้เห็นถึงสภาพจริงๆของสังคมในยุคนั้น ผมว่างานเขียนของบัลซัคนั้นเปรียบเสมือนบันทึกทางประวัติศาสตร์ได้เลย



สำหรับโฟลแบร์ตนั้นเป็นนักเขียนแนว realism ผมเคยไปเที่ยวเมือง Rouen ซึ่งไกด์พาไปชมบ้านที่โฟลแบร์ตเคยเขียนหนังสือด้วยครับ ผลงานที่เด่นมากๆก็คือ มาดาม โบวารี เด็กเรียนฝรั่งเศสต้องผ่านเล่มนี้มาทุกคนครับ




โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:3:32:47 น.  

 
เป็นเกร็ดความรู้ที่เยี่ยมมาก นักเขียนเหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของโลก
เราประทับใจและชอบงานของหลายท่าน (แต่ไม่รู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ จะรู้จักหรือเปล่า)
ชื่นใจจังที่ได้อ่านเรื่องเบื้อง(ลึก)หลังของท่าน

เราชอบหาเห็บให้หมา...จะเป็นนักเขียนได้ไหมนี่


โดย: ชิงดวง วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:6:39:49 น.  

 
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานที่หลากหลาย
ของนักเขียนชื่อดังระดับโลก
และนักเขียนบางท่านก็มีวิธีการเขียนหนังสือที่น่ารัก
และน่าสนใจจริงๆ ..


เฮมิงเวย์จะหยุดเขียนตอนกำลังเขียนได้ลื่นไหล
เพราะจะได้เขียนต่อได้ว่องไวในวันรุ่งขึ้น

(ถ้าเป็นป้าติ๋วละลืมเกลี้ยง ต่อไม่ติดแน่นอน!)


แกรห์ม กรีน เขียนหนังสือวันละ ๕๐๐ คำ เมื่อถึงเป้าหมาย
แล้วจะหยุดทันที แม้จะยังเขียนไม่จบประโยค

( .. คนนี้นับถือจริงๆ !!)


จอห์น ชีเวอร์ ถอดเสื้อผ้าเขียนหนังสือในห้องเก็บของ
ชั้นใต้ดิน

()


โคเลตต์ (Colette) ชอบอ่านและเขียนหนังสือบนเตียง
ก่อนเริ่มเขียนเธอชอบหาเห็บให้แมวก่อน

(คนนี้น่ารักสุดๆ เป็น catpeople ตัวจริง .. )



โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:8:31:53 น.  

 
ชอบจังเลยครับ
โดยเฉพาะเฮมิงเวย์เชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก


โดย: null (ตะวันออกไม่แพ้ ) วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:8:50:42 น.  

 
แต่แบบว่าชอบการนำเสนอของ ยิปซีฯสาว คนนี้ที่สุดค่ะ
คิดถึงจังค่ะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:9:18:10 น.  

 
ตอนนี้เขียนงานไม่ค่อยจะออกเลยครับ
เลียนแบบคนดังคนไหนดีน้า


โดย: กะได วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:10:03:14 น.  

 
เฮมิงเวย์เชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก
^
^
^

ผมก็เชื่อแบบนี้ครับ

เป็นคำชมที่อ่านแล้วปลื้มที่สุดในรอบ 3 เดือน
อิอิอิ ---- ผมยังวัยรุ่นอยู่ครับ
แม้จะเป็นวัยรุ่นตอนปลายแล้วก็ตาม คริคริ


..........................

ชอบเกร็ดความรู้นี้จังครับ
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันนะครับ

...........................

กะว่าก๋าเขียนยังไงน้า....
แต่ที่แน่ๆ ไม่ตีลังกาเขียนแน่ๆครับ 5555





โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:10:04:48 น.  

 
ฮ.ม.ว.เชื่อว่างานเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนมีความรัก..หึ หึ
พ.ศ.ล.ค.พ.เชื่อว่า งานเขียนที่ดีที่สุดเกิดขึ้นหลังจากผู้เขียน อื้อ....รัก.


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:10:53:05 น.  

 
ยิบซีเชื่อมั๊ยว่า..เด็กอเมริกัน เรียนวิธีการเขียนตั้งแต่เด็ก
เรียนว่า..พล๊อทคืออะไร เมนไอเดียคืออะไร
เซ้ทติ้งคืออะไร เด็กปอสี่นั้นต้องอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
แล้วยกออกมาเขียนบอกครูว่า..ที่อ่านไป คาแร๊คเตอร์
ของตัวละครคืออะไร

มันช่างยากในความรู้สึกของแม่น้องนิกจริงๆนะที่ต้อง
เรียนไปพร้อมๆกับลูกด้วย ทำไปทำมา ราวกับตัวเอง
จะต้องศึกษากลวิธีการเขียนซะเองงั้นล่ะ เหนื่อย..
แต่ก็..ถือว่าได้ไปพร้อมๆกับลูกล่ะนะ เพราะต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจ แม่ก็จะต้องอ่านให้เข้าใจซะก่อน

สิ่งที่เราได้รู้ทำให้ไม่แปลกใจหรอก พี่ฝรั่งมันเขียนหนังสือขายกันตั้งแต่เด็ก


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.82 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:11:01:18 น.  

 


เฮมิงเวย์เชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก......เชื่อเช่นกัน

มาร์เซล พรูสต์ (Marcel Proust) เขียนหนังสือส่วนใหญ่ตอนกลางคืน โดยเขียนบนเตียง........ทำแบบนี้เหมือนกัน

..เป็นเกร็ดความรู้ ที่น่าสนใจจังค่ะ พี่ยิปซีฯ ขอบคุณที่ไปเยี่ยมนะคะ..





โดย: น้องนก (Nok_Noah ) วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:11:06:01 น.  

 
ขอบคุณที่เอาเกร็ดแบบนี้มาฝาก
ชอบอ่าน เรื่องการทำงานของนักเขียน


ว่างๆเอาเกร็ดนักเขียนไทยมาฝากบ้างสิ


อย่าง....


ไม่ได้เช็คข้อมูลล่าสุดเลยไม่กล้ายกตัวอย่าง

กลัวผิด เอาเท่าที่จำได้ก็แล้วกัน แต่อาจจะจำผิดก็ได้

ถ้าใครทราบว่าผิดก็ช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ

เพราะเขียนจากความจำมานานแล้ว ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนได้


ทมยันตีต้องเขียนด้วยหมึกสีม่วงหรือเปล่า ?

"อีแร้ง"ต้องเขียนต้นฉบับด้วยดินสอเสมอ


สุชาติ สวัสดิ์ศรีก็ใช้ดินสอทำงานตรวจต้นฉบับในหน้าที่บรรณาธิการ

กวีบางคนต้องอกหักก่อนแล้วจะเขียนงานออมาได้ดี (ข้อนี้ไม่ยืนยัน)


นักเขียนนิยายผู้หญิงบางคนมีคอมฯวางไว้หลายจุดในบ้าน

เพราะเขียนนิยาย เขียนนิยายเรื่องไหนค้าวไว้ก็ไปที่เครื่องนั้น

ฯลฯ







โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.25.185 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:12:06:25 น.  

 
โอ้โหเรื่องนี้ดีจังครับได้รู้อะไรเยอะเลย

ว่าแต่ ตอนเขียน The old man and the sea Ernest Hemingway เขามีความรักเปล่า


โดย: Untrue วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:13:16:29 น.  

 
Totally agree with P'Kit kha.

เฮมิงเวย์เชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก

Thank you so much for the article kha.



โดย: CSULB@FineArt วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:13:25:28 น.  

 
ผมไม่มีความสามารถไปทำงานที่สำนักงานปรมาณูหลอกครับจบแค่โรงเรียนวัดจะมีปัญญาไปเรียนด้านนี้ได้อย่างไรครับ
ผมเป็นเด็กที่มีครอบครัวไม่ร่ำรวย พ่อเป็นอาจารย์ใหญ่ เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้ ขอโทษที่เล่าเรื่องอดีตมากไปหน่อย ถ้ามีโอกาสจะใส่รูปไปใหญ่ถ่ายมาประมาณ 100 กว่ารูปเองถ่ายไม่ค่อยเก่ง
ขอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วค่อยเจอกันใหม่


โดย: tingpositive (tingpositive ) วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:13:49:29 น.  

 
แฟงก็ชอบเขียนนะ
แต่ก้ไม่ได้เขียนยาวๆๆหลอก
เพียงแต่เขียนเพื่อการบันทึกงะ


โดย: d_regen วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:14:04:57 น.  

 




พักสักนิด วันศุกร์แล้วอย่าเคลียดกับงานมากครับ


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:14:33:54 น.  

 
ขอโทษทีต้องล้างข้อมูลการไปเยือนของยิปซีที่บ้านนั้น
เปิดเข้าไปตกกะจ๊ากกกกก แม่คุณเล่นประกาศกลางบ้าน
ซะดังโร่ แค่อยากสงบๆๆบางครั้งกับอีกไม่กี่คนที่คิดถึง
แค่นั้นแหละจ้า...ตัวเองก้อเป็นหนึ่งในนั้นแหละจ๊ะ


โดย: เรือรักแล่นลิ่วเริงร่า วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:16:09:31 น.  

 
อ่านแล้วเพลินดีคะ เพราะว่าแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์
เฉพาะอย่าง อ่านแล้วก็แบบว่ามีแปลกไปกว่าปกติบ้าง
เหมือนกันนะค่ะ


//เห็นด้วยเรื่องของหนังไทยนะคะที่ว่าบางทีบางเรื่องก็
มักง่ายไปหน่อย ทำมาเสียดายเงินไปดู แต่ว่าถ้ามอง
อีกแง่ ก็ถ้าไม่คิดมากไปดูแบบผ่อนคลายก็โอเคนะค่ะ
แต่ว่าช่วงนี้เราไม่ค่อยได้ไปดูหนังที่โรงน่ะคะ เช่ามาดู
สะดวกกว่าแล้วก็ถูกกว่าด้วยค่ะ(สำคัญเลย)


โดย: JewNid วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:20:59:34 น.  

 
ไม่ได้หายไปไหน กลับมาแย้ววววว ยังมีชีวิตอยู่นะคะ กลับบ้านไปเดือนนึง มีความสุขมากๆ อยากใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องมีคอมอีกจัง

อืม แต่ละคนก็มีวิธีระดมความคิดแปลกๆดีจัง ทำได้ไงที่แม้ว่าต่อให้เขียนได้ลื่นไหลก็จะหยุดถ้าถึงคำที่กำหนด แล้วยิบซีสีน้ำเงินสร้างอารมณ์ยังไงเอ่ย

ไม่หายไปไหนแล้วนะคะ ขอบคุณที่เป็นห่วงบวกคิดถึงค่ะ แอบนึกถึงบ่อยๆเหมือนกันนะเนี่ย


โดย: อย่าบอกนะว่าเจ้าคือขุนศึก วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:22:07:15 น.  

 
สำหรับนักเขียนใกล้ตัว... ตัวเองมักจะออกกฎเหล็กบังคับให้เขียนได้อย่างน้อยวันละสองหน้า โดยตอนเช้าจะมีครูไหวใจร้ายมาตรวจ อิอิ

เท่าที่อ่านดูนักเขียนระดับครูต่างก็มีวิธีของตัวเองแตกต่างกันไป... ไม่ซ้ำกันเลย



โดย: waidhaya วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:22:37:09 น.  

 
แต่ละคนมีวิธีการคิดและการเขียนที่แปลก


โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:1:26:09 น.  

 
คุณยิบซี

มาเยี่ยมค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่ไปตามคุณกะไดมาวิเคราะห์ต้นไม้ให้ที่บล็อก ทำให้ได้ความรู้เรื่องต้นไม้เอาไปบอกเพื่อนร่วมงานได้เลยค่ะ ไม่งั้นคงโง่อีกนาน อิอิ

คราวที่แล้วแอบมาอ่านเรื่องมีเซียม ยิบอินซอย จนจบ แต่ไม่ทิ้งข้อความทักทายไว้ รีบค่ะ แต่ก็ไปตามพี่อีกคนที่เค้า กำลังเรียนวาดรูปในวัยผู้ใหญ่แล้ว พี่เค้าอ่านแล้วชอบใจใหญ่เลย แล้วขอบคุณที่คุณยิบซี เอาเรื่องดีๆ มาให้อ่านเสมอๆ เลย

เรื่องนี้ก็เช่นกัน ไม่เคยนึกมาก่อนว่านักเขียนใหญ่แต่ละท่านจะมีวิธีการเขียนแปลกประหลาดกันแบบนี้นะคะ มิน่างานเขียนถึงได้จับใจคนอ่าน แต่ดูแล้วเป็นนักเขียนรุ่นเก่าทั้งนั้นเลย ไม่รู้ว่านักเขียนรุ่นใหม่เค้าเขียนกันยังไงนะ

ขอเติมอีกคนได้ไม๊คะ นักเขียนชื่อดังชาวไอริช James Joyce ผู้เขียนหนังสือ Dubliners และ Ulysses ว่ากันว่า ต้องกรึ๊บเหล้าซะก่อนแล้วจะเขียนลื่นไหลเชียว สถานที่เขียนก็ตามผับต่างๆ ในดับบลินมีผับดังๆที่ อ้างว่าเจมส์เคยชอบมานั่งเขียนหนังสือไว้โปรโมตร้านด้วยล่ะค่ะ

สุขสันต์วันสุดสัปดาห์นะคะคุณยิบซีฯ


โดย: Dublina วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:1:27:43 น.  

 
แปลก ๆ ท๊างน๊าน โดยเฉพาะคนที่เก็บตัวในห้องไม่มีหน้าต่างอ่ะค่ะ
อิอิ ช่วงนี้คุณย่ากำลังชื่นชมกับผลงานดอกหญ้าของตัวเองอยู่ค่ะ น่าอายเนอะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น


โดย: คุณย่า วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:6:46:31 น.  

 


แหล่มนิ !! ยิปซีจ๋า ว่างนิดนึงเลยมาเยี่ยม
คิดถึงจังนิ !!
รหัสลับ ฝากไว้ ให้ decode

มุมมืดนิ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:9:56:13 น.  

 
สวัสดีครับคุณยิปซี
ศิลปินหรือคนที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นของโลก แทบทุกคนจะมีเอกลักษณ์ของตัวเองเหมือนโลโก้เลยนะครับ เลียนแบบไม่ได้เลยจริงๆ
จอห์น ชีเวอร์ (John Cheever) ทั้งๆที่ทั้งร้อนและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก แต่เขากับมีแรงบันดาลใจ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:10:21:14 น.  

 
ความหลากหลายและความแปลกประหลาดทำให้ขึ้นสิ่งใหม่ที่สร้างสรรค์ทุกครั้งครับ
สวัสดีตอนสายครับคุณ ยิปซีสีน้ำเงิน ผมแวะเข้ามาชวนคุณ ยิปซีสีน้ำเงิน ทำของเล่นที่ blog ครับ หวังว่าคุณ ยิปซีสีน้ำเงิน น่าจะชอบนะครับ


โดย: veerar วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:11:56:31 น.  

 
จัดรูปเวียนนาชุดสองให้แล้วไม่เห็นเข้าไปดูเลยชักน้อยใจแล้วซิ อย่าลืมเข้าไปดูนะ


โดย: tingpositive (tingpositive ) วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:14:48:54 น.  

 
ฉันเขียน (หรือพิมพ์) พร้อมฟังเพลงไปด้วยเกือบทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นสมาธิไม่เกิด

ขำตรงนักข่าวกีฬาที่บอกว่าต้องเอาเข็มขัดมัดตัวเอง

เข้าใจเลย


โดย: cottonbook วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:15:32:40 น.  

 
เฮมิงเวย์จะหยุดเขียนตอนกำลังเขียนได้ลื่นไหล
เพราะจะได้เขียนต่อได้ว่องไวในวันรุ่งขึ้น
เฮมิงเวย์เชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก
..................

คงเหมือนเฮมิงเวย์ค่ะคุณยิปซี รู้ว่าตอนนี้อารมณ์เขียนบทกวีหายตามใครบางคนไปหมดแล้ว

ปล.ชอบเพลงนี้มากค่ะ


โดย: แซนด์ซี วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:18:18:08 น.  

 
ขอบคุณที่แวะเข้ามาร่วมทำของเล่นครับ ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะครับ(น๊อตเป็นเหตุและผลในการทำ parachute ครับ)


โดย: veerar วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:0:35:47 น.  

 
หวัดดีจ๊ะคุณยิปซี .. น้องสาวของช๊าน.........

วันนี้เอาเรื่องน่าสนใจมาให้อ่านกันอีกแล้วนะ (น่าสนใจจริง ๆ นะ ไม่ได้ชมเล่น ๆ เลยจ๊ะ)

อ่านวิธีเขียนหนังสือของนักเขียนแต่ละคน แล้วก็ต้องขำหึ ๆ ตามไปด้วย
อย่างโทมัส วูล์ฟ ที่ชอบเขียนหนังสือหลังตู้เย็นเนี่ย .. ถ้าตู้เย็นเค้าไม่ได้เป็นตู้เย็นที่เตี้ยมาก ๆ
เค้าก็คงจะเป็นคนที่สูงชะลูดซะเหลือหลายแน่ล่ะ .. เพราะว่าขนาดตู้เย็นเล็ก ๆ ที่เราเคยเห็น ๆ
มันก็สูงเกินไปสำหรับที่จะเขียนหนังสือบนหลังคามันแล้วนะ ... หรือว่าเค้าใช้ตู้เย็นขนาดมินิกันเนอะ

เห็นมีทรูแมน คาโพทีอยู่ด้วย .. โตสเพิ่งจะดูหนังชีวิตของเค้าเมื่อไม่นานมานี้เองแหละค่ะ
แต่ไม่ได้สังเกตุด้วยสิ ว่าเค้าใช้กระดาษสีเหลืองในหนังหรือเปล่านะ..

อ่านความคิดของ บัลซัก แล้วขำ .. อยากรู้จริง ๆ เลย ว่าตลอดชีวิตการเขียนหนังสือของเค้า
เค้าสูญเสียงานมาสเตอร์พีซไปกี่งานกันแล้วล่ะเนี่ย..... สงสัยจะนับไม่ถ้วน
และอ่านตรงที่ว่าเค้าดื่มกาแฟวันละไม่ต่ำกว่าสิบแก้ว แล้วนึกถึงสามีตัวเองน่ะจ๊ะ
ขานี้ก็สุดยอดเหมือนกัน (พูดถึงดื่มกาแฟนะคะ อย่าคิดลึ๊ก...... )
คือเมื่อก่อนนี้ ถ้าอยู่บ้าน เค้าจะดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่วันละประมาณ 30 ถ้วย (ถ้วยเอสเปรสโซ่)
บ้าไม๊คะ .. แต่เดี๋ยวนี้ลดลงมาเยอะมากแล้ว เหลือวันละประมาณสิบกว่าถ้วย .. เอง

ก็พอจะได้ยิน (แล้วได้มาอ่านตรงนี้ด้วย) ว่าพวกคนเขียนหนังสือเนี่ย หลาย ๆ คนเป็นคนที่ค่อนแปลก
โดยเฉพาะวิธีเขียนหนังสือของเค้า .. แต่คงที่แปลกมาก ๆ แล้วขำด้วย (เพราะนึกภาพตามไปด้วย)
ก็คงต้องยกให้กับนาย จอห์น ชีเวอร์ เค้านะเนี่ย .. อ่านแล้วแบบ .. แปลก ขำ แล้วก็ไม่เข้าใจเค้าจริง ๆ

ปล. ชอบอ่านเรื่องราวที่คุณยิปซีเอามาให้อ่านกันตรงนี้จังเลยล่ะ .. จริง ๆ นะคะ


โดย: Chini วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:2:27:45 น.  

 
โหย ยิปซีจ๋า ดีจังเลยเนี่ยได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลย

จูนเคยสงสัยว่าทำไมคาเฟ่ดังที่เบอร์ลินคือ Cafe Balzac มันมีที่มาจากชื่อนักเขียนดังที่ชอบดื่มกาแฟนี่เอง แหะ ๆ

ส่วนนักเขียนเยอรมัน Friedrich von Schiller น่าจะเป็น ฟรีดริช ฟอน ชิลเล่อร์มากกว่าจ้ะ


โดย: MoneyPenny วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:5:16:48 น.  

 
คุณยิปซีมือเจ็บหรือคะ หายวันหายคืนนะคะ
แล้วสงสัยด้วยว่าคุณยิปซีมีวิธีเขียนบล็อกยังไง
ไม่ใช่บล็อก Tag แต่สงสัยว่าคุณยิปซีจะเฉลยให้ฟังได้ไหมคะ...


โดย: SevenDaffodils IP: 69.140.210.74 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:11:46:42 น.  

 


โดย: โสดในซอย วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:14:31:07 น.  

 

อืม...นักเขียนระดับโลก มีวิธีสร้างแรงบันดาลใจแปลกๆ ไม่เหมือนกันนะคะ ...
มาเก็บชื่นชมบล็อคสวยๆ ภาพสวยๆ และเกร็ดความรู้ดีๆค่ะ


โดย: ลูกแมวขี้อ้อน วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:16:00:36 น.  

 
ตอนเด็กๆปิดเทอมไปอยู่บ้านย่า ที่นั่นมีหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งชื่อ "เฒ่าผจญทะเล" ไม่มีอะไรทำก็หยิบมาอ่านบ่อยๆ พอโตขึ้นจึงรู้ว่าเป็นเรื่องเขียนที่ดัง.........


โดย: ลุงแมว วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:21:03:16 น.  

 
ชอบกวีคนนี้จังเลย...
Saint-Pol-Roux แขวนป้าย
"กวีกำลังทำงาน" ไว้หน้าประตูห้องนอน

เก๋ดีเนาะ...โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง
"กวีกำลังทำงาน"

แล้วยิปซีสีน้ำเงิน ชอบกวีคนไหนเล่าเอ่ย...ha ha


โดย: pu_chiangdao วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:8:17:39 น.  

 
อีกนิดนึง...ปกติเป็นแฟนเฮมิงเวย์ แต่วันนี้ขอค้านที่ตะแกเชื่อว่าการเขียนที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนกำลังมีความรัก

สวนทางกับเราเลย...เรากลับเขียนไม่ออกหนะ
ชอบอะไรๆที่ซึมเศร้าเหงาแฮงค์ ประมาณนั้น และเจ็บนิดๆ


โดย: pu_chiangdao วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:8:22:59 น.  

 
นะ....ไหนๆก็รู้จักกันแล้ว
ก็ช่วยกันหน่อยก็แล้วกัน
มิฉะนั้น...อิชั้นจะทุกข์ระทมเป็นอย่างยิ่งเพราะพ่อกำนันเขาอาจจะเสือกไสอิชั้นออกจากหมู่บ้านได้....

ขอร้อง....ตอบนะ
อยากรู้....โดยเฉพาะข้อ 16-18 น่ะ....โฮะ...โฮะ....โฮะ


สวัสดีจ้ะปลายแปรง

หลังจากที่พอได้รับtagคำถามนี้ จากปะการัง ตอนแรกว่าจะไม่ส่งให้ใครแล้ว แต่นึกๆขึ้นมาส่งไปก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ก็ขอส่งมอบต่อให้ปลายแปรง ทั้งหมด 31 คำถาม ตอบตามสบาย
สนุกๆน่า


1. ชื่อเล่นชื่อไรเอ่ย?

2. ลืมตามาดูโลกเมื่อไหร่กัน?

3. มีพี่น้องมั้ย?

4. สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคืออะไร?

5. แล้วสิ่งที่เกลียดล่ะ?

6. มีสัตว์เลี้ยงมั้ย เป็นตัวอะไร ชื่ออะไรบ้าง ?

7. คุณชอบเครื่องดื่มอะไร ?

8. แล้วชอบกินอาหารอะไรบ้าง ?

9. ชอบสีอะไร ?

10. งานอดิเรกของคุณคืออะไร ?

11. คุณมีปมด้อยมั้ยแล้วปมด้อยของคุณคืออะไร ?

12. ชอบแต่งตัวแนวไหน โชว์เสื้อผ้าของคุณหน่อยสิ ?

13. คุณใส่นาฬิกาอะไรอยู่ ขอดูได้มั้ย ?

14. เพลงไหนที่สามารถสื่อความเป็นคุณออกมาได้ ?

15. กิจวัตรประจำวันของคุณเป็นยังไง ไหนบอกมาซิ ?

16. มีแฟนรึยัง ถ้ายังคุณอยากมีมั้ย ?
17. แล้วถ้าเลือกได้ อยากมีแฟนหน้าตาเหมือนใคร ?

18. แล้วถ้าให้พาบุคคลในข้อ. 17 ไปเดท 1 วันจะพาไปไหน แล้วไปทำไรบ้าง ?

19. คุณว่าคุณหน้าเหมือนใคร ?

20. ไหนขอดูรูปคุณตอนยิ้มหน่อยซิ?

21. ถ้าตกหลุมรักใครคนนึงอยู่ คุณจะบอกรักเค้าว่ายังไง ?

22. ห้องที่คุณชอบไปบ่อยๆในพันทิปคือห้องไหน ?

23. คนที่มาเยี่ยม Blog คุณบ่อยๆมีใครบ้าง ขอสัก 10 ชื่อแล้วกัน ?

24. แล้วเค้าแต่ละคนเป็นคนแบบไหนตามความรู้สึกของคุณ ?

25. มีอะไรอยากบอกพวกเค้ามั้ย ?

26. แล้วกับคนที่ส่ง Tag มานี่ล่ะ คุณคิดยังไงกะเค้า ?

27. แล้วจะบอกอะไรถึงคนที่ส่ง Tag มาให้คุณมั้ย ?

28. ตอนนี้คุณนึกถึงรายนามของคนที่คุณจะส่ง Tag ไปให้ 4 คนนั้นออกรึยัง
แล้วใน 4 คนนั้นมีใครบ้างล่ะ ?

29. คุณคิดว่า 4 คนนี้คิดยังไงกะคุณบ้าง หลังจากที่คุณส่ง Tag ไปให้ ?

30. ขอเหตุผลหน่อยสิว่าทำไมต้องส่งไปหา 4 คนนี้ด้วย ?

31. ข้อสุดท้าย มีอะไรจะฝากถึงคนที่คุณกำลังจะส่ง Tag ไปหาเค้าบ้าง ?


โดย: ปลายแปรง วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:22:25:13 น.  

 
เพิ่งรู้ว่านักเขียนหลายคนยืนเขียนนะนี่
ไม่รู้ว่าถ้าลองยืนเขียนบ้างผลงานจะออกมาดีรึเปล่า

อีกอย่างที่รู้สึกได้คือนักเขียนพวกนี้เกิดมาเพื่อเขียน เขียน เขียน และเขียนจริงๆ ครับ

ปอลอ
ขำบัลซักเวลาสูญงานมาสเตอร์พีซ


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:13:00:20 น.  

 
Ton nii young yung' yung' yoo naa kaa

Kob Kun mak mai kha

Sum hlub mit-ta-pap lae kwam hwung dee

Wang maer hrai ja mar yiam eek tee naa kaa

Ruk mak mai kha

jub jub



emoemoemoemoemoemoemoemo


โดย: CSULB@FineArt วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:11:53:49 น.  

 
อารมณ์ศิลปินของนักเขียน
แต่ละคนล้วนแล้วมีเอกลักษ์เฉพาะตัว
ยากนักที่จะลอกเลียนแบบได้
แต่ก็น่าลองเหมือนกันน่ะ

ขอบคุณสิ่งดีๆที่นำมามอบให้ครับ ยิบซีสีน้ำเงิน


โดย: ดอกเสี้ยวขาว IP: 203.151.242.49 วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:10:16:21 น.  

 
วิธีหยุดเขียนตอนกำลังเขียนได้ลื่นไหลนี้ใช้ได้จริงแล้วก็ได้ผลจริงๆด้วย
แล้วคุณยิปซีใช้วิธีเขียนยังไงครับ


โดย: wayakon วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:23:58:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.