Ultraformer III ช่วยเรื่องอะไรบ้าง และแตกต่างจาก Oligio อย่างไร? 
รู้จัก Ultraformer III เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วย HIFU ช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้คมชัดโดยไม่ต้องผ่าตัด พร้อมเปรียบเทียบกับ Oligio แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง? ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านความงามเรียกได้ว่ามีความพัฒนาและก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้นคือ Ultraformer III ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอย่างล้ำลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงเป็นนวัตกรรมยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Ultraformer III ให้มากยิ่งขึ้น พร้อมเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีคู่แข่งอย่าง Oligio เพื่อช่วยในการตัดสินใจ และไขข้อสงสัยว่าทํา Ultraformer กี่ช็อตจึงจะเหมาะสม ตลอดจนปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนความงามได้อย่างมั่นใจและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด!
Ultraformer III ดียังไง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? 
หลายคนอาจยังลังเลอยู่ว่าควรทำ Ultraformer III ดีไหม เนื่องจากทุกวันนี้มีหัตถการยกกระชับหน้าอยู่มากมาย Ultraformer III (อัลตร้าฟอเมอร์ ทรี) คือ เครื่องยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ชนิดโฟกัสความเข้มข้นสูง สามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูสภาพผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยข้อดีของเครื่อง Ultraformer III มีดังนี้ - ยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้า แก้ม และใต้คาง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวแน่น ฟู ดูอ่อนเยาว์
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และมุมปาก
- ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนขึ้น
- Ultraformer III เห็นผลชัดเจนหลังทำ โดยไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีรอยแผล
Ultraformer กับ Oligio ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่า? Ultraformer III และ Oligio ต่างก็เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม แต่มีหลักการทำงานและจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Ultraformer III นั้นจัใช้คลื่นอัลตราซาวด์แบบ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งสามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ที่อยู่ลึกใต้ผิว ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น เช่น ลดเหนียง หรือยกกระชับกรอบหน้า ส่วน Oligio เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radio Frequency หรือ RF) ที่ส่งพลังงานในระดับความลึกผิวชั้นกลางถึงลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวตึงกระชับ ริ้วรอยลดลง ผิวดูอิ่มฟู โดยไม่รู้สึกเจ็บมากและไม่มีรอยช้ำ ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือริ้วรอยเริ่มต้น โดยสรุปแล้ว Ultraformer III จะเหมาะกับการยกกระชับในระดับโครงสร้างผิว ส่วน Oligio เหมาะกับการดูแลผิวให้แน่นกระชับและเรียบเนียนในชั้นผิวตื้นมากกว่า ทั้งนี้ การเลือกใช้เทคโนโลยีใดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำที่เหมาะสมก่อนทำหัตถการ
Ultraformer III ควรทำกี่ช็อต ถึงจะเห็นผลชัดเจน? คงจะเข้าใจกันแล้วว่า Ultraformer III ช่วยอะไรบ้าง หัวข้อนี้จะพามาไขข้อสงสัยกันว่าควรทํากี่ช็อตถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดี จำนวนช็อตของ Ultraformer III นั้นจะขึ้นอยู่กับปัญหา บริเวณที่ทำ รวมไปถึงสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการ ก่อนทำหัตถการจึงควรให้แพทย์ประเมินเพื่อกำหนดจำนวนช็อตที่เหมาะสม แต่โดยทั่วไปแล้วหากต้องการยกกระชับทั่วหน้าและลำคอ แนะนำทำ Ultraformer III ประมาณ 500-800 ช็อต ส่วนการทำเฉพาะจุด เช่น กรอบหน้า หรือใต้คาง ควรใช้เพียง 300-500 ช็อตก็พอ และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือนหลังทำ
Ultraformer III อยู่ได้นานไหม ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง? 
นอกจากคำถามที่ว่าทำ Ultraformer III ใช้เวลากี่วันเห็นผลแล้ว อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้อยู่ได้นานแค่ไหน โดยหลังทำ Ultraformer III ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลและการดูแลตนเองหลังทำ ดังนี้ - อายุและสภาพผิว ผู้ที่อายุน้อยหรือมีผิวที่ยังมีความยืดหยุ่นดี มักเห็นผลชัดและนานกว่าผู้ที่ผิวหย่อนคล้อยมาก
- การดูแลผิวหลังทำ หลังทำ Ultraformer III ข้อห้ามที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการขัดผิวแรง ๆ และควรบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาผลลัพธ์ได้นานยิ่งขึ้น
- การรับประทานอาหารและดื่มน้ำเพียงพอ การกินอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมากพอช่วยให้ผิวแข็งแรง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดด เพราะรังสีจากแสงแดดจะทำลายคอลลาเจนในผิว หากไม่ป้องกัน อาจลดประสิทธิภาพของผลลัพธ์ลงได้
- การทำหัตถการซ้ำ การทำ Ultraformer III ซ้ำทุก 6-12 เดือนตามที่แพทย์แนะนำ จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นได้
Ultraformer III มีข้อดีอย่างไรบ้าง?สรุปแล้ว Ultraformer III เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลชัดเจน ปลอดภัย และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้คมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งสามารถเลือกจำนวนช็อตให้เหมาะสมกับปัญหาผิวแต่ละบุคคล และหากดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ผลลัพธ์ก็สามารถอยู่ได้นานหลายเดือน จึงถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการดูแลผิวในระยะยาว
| Create Date : 30 พฤษภาคม 2568 |
| Last Update : 30 พฤษภาคม 2568 14:12:33 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 250 Pageviews. |
 |
|
