สิงหาคม 2568

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
22
23
26
27
28
29
30
31
 
 
24 ชม.เเรกของการเผชิญโลกภายในนอกของเด็กอายุ 19 ได้ ( 2 วัน )

       423ตอนนี้ใช้ชีวิตในตุรกีก็จะครบ 1 ปีแล้ว พอนึกย้อนกลับไปวันแรกก็รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นมากจากวันแรก ทั้งภาษา การใช้ชีวิตหรืออะไรก็ก็ตามที่ทำให้เราโตขึ้น เคยได้ยิน ว่า ประสบการณ์ทำให้เราโตขึ้นน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะทุกวันที่ตั้งใจใช้ชีวิตให้ดี จะนำพาประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ วันแรกที่มาถึงตุรกี บอกไว้ก่อนนะคะว่า เรามาตุรกีโดยไม่มีพื้นฐานภาษา เรียกง่ายๆว่ามาเริ่มใหม่ที่นี่เลย

         หลังจากที่ขึ้นบันไดวัดใจนั้นเเล้ว ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ฉันตื่นเต้นกับสนามบินในประเทศไทย เราขึ้นเครื่องบินไปกับเพื่อนคนไทย 2 คนที่เจอกันที่สถานทูต และเป็นเพื่อนกันตั้งแต่นั้นมา พวกเราสองคนก็เดินไปตามป้ายบอกทางจนถึงสายการบินของเราในที่สุด ไฟล์บินวันนั้นเป็นเที่ยวบิน 10 ชม. ไทย บินตรง ตุรกี เรียกได้ว่า นานมาก โหลดซีรีส์ไปหลายเรื่องมาก เตรียมเยลลี่ของกินติดกระเป๋าไปพร้อม หมอนรองคอเอ่ย ( เรียกได้ว่า พร้อม!!!! ) วันนั้นเป็นวันที่ตื่นเต้นที่สุด เพราะเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกและไปคนเดียว ก็นั่งเครื่องไปได้สัก 2 - 3 ชม. ก็มีข้าวมื้อแรกเสิร์ฟ จำได้ว่าเป็น ออมเล็ต แต่เค้กโคตรอร่อย พอเป็นข้าวอีกมื้อ ก็เป็นพาสต้าที่สีเขียว ( นั่นคือฝันร้ายสุดๆ แบบโคตรไม่อร่อย เป็นเวิลคัมตุรกีจริงๆอันนี้ ) แต่ก็ผ่านไป 10 ชม. ด้วยการนอน ดูซีรีส์ที่โหลดไว้ หรือกินขนมที่ซื้อมาก็ไม่ได้ทำสักอย่าง เพราะเมาเครื่องบิน ปวดหัวมากต้องนอนอย่างเดียว ก็ผ่านไปได้อย่างสมบุสมบัน เครื่องบินลงจอดที่อิสตันบูลเป็นเวลา 15.00 น. ( เวลาประมาณ ) อีเด็ก19คนนี้ เจอปัญหาอีกเเล้ว ก็คือเราต่อแถวผ่านตม. ดันไปต่อหลังคนไทยที่ติดแบล็กลิสต์ ทำให้ฉันที่ต่อแถวข้างหลังโดนหางเลขไปด้วย รวบไปทั้งสองคน แบบงงๆ

       โดนรวบไปไม่พอ โดนยึดพาสปอร์ตไปด้วย เอาทีนี่ ภาษาตุรมารัวๆ ( ฟังไม่รู้เรื่อง ) ดีนะมีพี่คนหนึ่งที่ได้ภาษามาช่วยเลยรอดมาได้ ( สรุปเเล้วเราไม่ได้ผิดอะไรเลยเเต่ซวยไปเอง ) ถึงอิสตันบูลแล้วก็จะต่อเครื่องบินไปที่เมืองที่เรียน (อันนี้ไม่มีปัญหา ผ่านเเบบสบาย ) ปัญหามันอยู่ที่ตอนถึงเมือง โดนเปิดกระเป๋าค้า!!!

( เบิร์ดเดย์บั๊ดวิทมีสุดๆๆ34 ) เค้าหาว่าเราพาปลามาขาย งงมากตั้งแต่ไทยจนถึงอิสตันไม่โดนอะไร โดนเปิดกระเป๋าตอนถึงที่หมาย เเล้วกระเป๋าใหญ่สะด้วย เปิดออกมาคืออาหารเสริมกับเครื่องสำอางที่เราพันบับเบิลมา ( เวลาสเเกนมันเลยคล้ายปลาเเห้งมั้ง ) พออกจากสนามบินที่เมืองได้มีรถบัสจากทางทุนตุรกีมารับ ( อันนี้ไม่ต้องห่วงจะมารอบไฟล์ไหนคือเขาเตรียมพร้อมสำหรับเราอยู่แล้ว

      รถบัสขับผ่านแสงไฟในอากาศ 8 องศา คือหนาวมาก ไม่เคยเจออากาศหนาวขนาดนี้มาก่อน มาจอดที่หน้าหอแห่งหนึ่ง( คือเราโชคดีที่ได้อยู่กับคนไทยด้วยกัน 4 คนในหอเดียวกัน ) พอลงจากรถบัสเข้าหอคือทุกคนในหอลงมาดูเด็กไทย 4 คนที่งงกับภาษา เพราะอาจารย์พูดตุรกีล้วน ดีที่เพื่อนเราพูดอาหรับได้ ทุกคนช่วยกันแปลให้นักเรียนในหอพักนานาชาติ ทุกคนช่วยลงทะเบียนหอพักให้เรา และเมื่อลงทะเบียนเสร็จ พวกเขาก็พาเราขึ้นไปบนห้องพัก เราได้อยู่ห้องรูมเมท 3 คน คนไทย กับ คนอินโด ( ถือว่าดี เพราะวัฒนธรรมคล้ายกัน ) วันเเรกเราก็ไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะง่วงบวกกับเหนื่อย...

       เช้าวันรุ่งขึ้น139 เราเด็กทุนทั้งหมดมีนัดลงทะเบียนเรียนกับทางโรงเรียนสอนภาษา เขาบอกว่ามารอที่หน้าหอเดี๋ยวมีรถมารับ ( ดีหน่อย ให้ไปเองคือคงงงน่าดู ) ก็เตรียมเอกสารให้พร้อม( เอกสารที่อัปโหลดลงเว็บทุนนั้นแหละ ) บอกเลยวันนี้เป็นวันที่เป็นใบ้ที่สุดเพราะภาษาที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ แต่เราคือไม่เข้าใจเลย ( ค่อนข้างที่จะผ่านวันนี้ไปยาก ) เเต่อาจารย์ช่วยจัดการทุกอย่าง เรามีหน้าที่เเค่เอาเอกสารที่มีทั้งหมดในมือยื่นให้เขาเเล้วเขาจะเลือกไปเองว่าจะใช้อะไรบ้าง เราหายไปลงทะเบียนเรียนที่คณะนานพอสมควร ตอนเย็นเรามีนัดซื้อซิมการ์ดกับรุ่นพี่ในเมือง ( ทุกคนก็ค่อนข้างตกใจที่น้องคนนี้หายไปไหน ติดต่อไม่ได้ ) พอเรามาเจอกันก็ทักทาย ก่อนที่จะพาไปซื้อซิม ( โครตไกล เเบบทุกคนเราเพิ่งลงเครื่องไม่ถึง 24 ชม. เเต่ให้ไปเดิน เกือบ 20000 ก้าว เพราะหาร้านไม่เจอ ) วันนั้นเลยเป็นวันที่เหนื่อย แต่ถึงจะเหนื่อยก็มีความตื่นตาตื่นใจอยู่บ้าง ทั้งราคารถโดยสาร 13 บาทตลอดสาย ( ที่ไทยคือแพงมากๆๆๆ ) บ้านเมืองที่ไม่มีรถติด บ้านเมืองที่สงบสุข เเละที่สำคัญอากาศในตอนนั้นคือเลขตัวเดียว หลังจากเราได้ซิมการ์ดหรือทำธุระเสร็จก็กลับหอเลย

ปล.เย็นวันนั้นได้รู้จักพี่คนไทยที่อยู่เมืองเดียวกันเยอะเลย พร้อมทั้งอาหารที่ถูกปากคนไทยด้วย 99

เรื่องราวในชีวิตตุรกีจะเป็นไงต่อ การเรียนภาษาเขาสอนยังไง เพื่อนเป็นไงบ้าง คนตุรกีเค้าต้อนรับคนไทยไหม เดี๋ยวเรามาเล่าต่อในกระทู้ถัดไปนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้ด้วยนะคะ25




Create Date : 24 สิงหาคม 2568
Last Update : 24 สิงหาคม 2568 7:26:29 น.
Counter : 219 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#21



สมาชิกหมายเลข 7056003
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เราเป็นนักเดินทางตัวน้อยที่มีความฝันเต็มไปหมด โดยคิดว่าการเดินทางเพื่อค้นพบตัวตนที่เเท้จริงของตนเอง
{ background-color: #1e90ff; /* สีพื้นหลัง */ color: white; /* สีตัวอักษร */ padding: 20px; text-align: center; border-radius: 8px; font-family: Arial, sans-serif; } header h1 { margin: 0 0 10px 0; font-size: 28px; }

DreamFar 🚀

header nav a { color: white; margin: 0 12px; text-decoration: none; font-weight: bold; } header nav a:hover { text-decoration: underline; }