walking stories II
เรื่องพื้นๆ
สำนักพิมพ์ Fullstop
ราคา 200 บาท
จำนวน 158 หน้า




“จากภาพถ่ายกลายเป็นการ์ตูน” นี่คือคำเกริ่นนำบนปกหนังสือ ที่บอกตัวตนของหนังสือเล่มนี้ได้เป็นอย่างดี หนังสือเล่มนี้เลือกที่ใช้ภาพถ่าย “ก้าวย่างแห่งการเดิน” (Walking Pictures) เป็นหัวข้อ โดยให้นักวาด 7 คน เขียนถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นการ์ตูน 7 เรื่อง ถึงแม้บางเรื่อง บางตอนจะสื่อความหมายออกมาไม่ได้ตรงตามภาพถ่ายก็ตาม แต่ก็อย่างที่รู้จินตนาการของแต่ละคน เคยเหมือนกันซะที่ไหน..







Start








เรื่องที่ 1 SUI โดย องอาจ ชัยชาญชีพ





“                                            “




แค่อ่านชื่อเรื่องก็ทำเอางงแล้ว กับตอนนี้ที่เป็นการ์ตูนเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆ มีแต่ภาพให้คนอ่านจินตนาการคำพูดเอาเอง ในตอนนี้ดูเหมือนรูปถ่ายจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นการ์ตูนได้ตรงและใกล้เคียงที่สุด ภาพสวย น่าติดตาม แม้เรื่องราวจะธรรมดา แต่ข้อคิดที่ได้ก็มีดีคือ บางครั้งการคอยอีกสักนิด ถ้าไม่รีบไม่ร้อนจนเกินไปหรือไม่แหกกฎ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจจะดีกว่าเก่าก็ได้ใครจะไปรู้?









เรื่องที่ 2 BOBBY SWINGERS walking in hell โดย ทรงศีล ทิวสมบุญ





“เป็นผู้ที่มีความชั่วอันบริสุทธิ์และพรสวรรค์ด้านมืดอันเป็นธรรมชาติ”





นี่คือคำนิยามของตัวละครตัวประจำของนักเขียนท่านนี้ กับ “บ็อบบี้ สวิงเกอร์ส” ที่ครั้งนี้จะพาคนอ่านไปสัมผัสกับสถานที่ที่เรียกว่า “นรก” ซึ่งมาพร้อมด้วยอุปกรณ์ลงทัณฑ์ที่เขาคิดค้นขึ้น ที่ผมชอบมากก็คืออุปกรณ์ชิ้นนี้ “ขั้นบันไดสลายความพยายาม” ที่คิดออกมาได้โดนใจผมจริงๆ









เรื่องที่ 3 FAT HERO โดย สุทธิชาติ ศราภัยวานิช






“ฝากบอกแกด้วยว่า วาดรูปเก่งมากๆเลย”






เป็นเรื่องน่ารักๆ ในความสัมพันธ์ของพ่อกับลูก ที่มีการวาดรูปมาเกี่ยวข้อง เหมือนกับนักเขียนอยากจะบอกว่า.. บางสิ่งบางอย่างยิ่งมีความเป็นเด็กสูง ยิ่งดี ^^









เรื่องที่ 4 COLOUR โดย THE DUANG





“ภูมิใจอย่าง...เสียดาย”






เป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุดในเล่ม ทั้งคำ ทั้งภาพ ทั้งเนื้อหา ทุกอย่างลงตัว แถมมีอะไรให้กลับมาคิดต่อแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน สำหรับผมข้อคิดที่ได้คือ บางสิ่งที่ดู “ไร้ค่า” บางทีมันอาจจะ “สำคัญ” กว่าที่เราจะสามารถรับรู้ก็เป็นได้









เรื่องที่ 5 ก้าวข้าม WALKING โดย ทรงวิทย์ สี่กิติกุล






“ที่ฉันต้องทำ
ก็แค่ก้าวผ่านมันไป...”






ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนล้วนแต่มีชะตากรรมเป็นของตัวเองนับตั้งแต่เกิด โดยมี “พระเจ้า” เป็นผู้ลิขิต เรามักคิดว่าเราต้องเดินตามชะตากรรมนั้น ไม่ว่ามันจะสุขหรือทุกข์ ทั้งๆที่จริงแล้วบางครั้ง เราสามารถเลือกที่จะฝืนชะตากรรมได้ อย่าได้แต่เพียงแค่ก้าวข้ามผ่านมันไป ลองเปลี่ยนเส้นทางดูมันอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้









เรื่องที่ 6 ความงามข้างหน้า โดย ต้องการ






“แค่รับรู้ความจริงว่า แกกับเขาจบกันแล้วก็พอ
จะอยากรู้เหตุผลไปทำไม ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือลวง”






เป็นเรื่องราวเดียวที่เกี่ยวข้องกับความรัก ที่ต้องการจะสื่อว่าบางครั้งคนที่เสียใจก็ต้องการอยากรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้เสียใจ ไม่ว่ามันจะจริงหรือลวง จะเจ็บหรือดีก็ตาม และชีวิตข้างหน้าของคนอกหัก มันต้องสวยงามอย่างแน่นอน ก็เหมือนกับในเรื่องที่เขาเขียนไว้ว่า...”หลังจากพระอาทิตย์ตกไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าพระอาทิตย์ก็จะขึ้นสวยงามเหมือนเดิม”








เรื่องที่ 7 THE SHADOW โดย SUMMER






“เลือก ! แดนต้องเลือก เลือกระหว่างเงากลางคืนหรือเงากลางวัน
ผู้ปกป้องหรือเพื่อนรัก”






ภาพสวย คำคม เนื้อหาดี เล่าเรื่องแบบนิทาน แถมยังมีอะไรให้ไปคิดต่อว่า.. หากไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี จนคิดผิด ทำผิดไป สุดท้ายแล้วอาจจะไม่เหลืออะไรเลยก็เป็นได้








STOP








และขอปิดท้ายด้วยประโยคดีๆกับ...



“I keep on walking towards my goal.
When I’m tired, I take a rest.
When I’m lazy, I just sit down watching people passing by.
Sometimes I walk backwards because there is something I left behind.”

“ฉันเดินไปข้างหน้าสู่จุดมุ่งหมายปลายทาง เมื่อเหนื่อย ฉันก็พัก
ขี้เกียจเข้า ฉันก็แค่นั่งลงมองดูผู้คนเดินผ่านไปมา
บางเวลา ฉันก็เดินย้อนกลับไปข้างหลังบ้าง
เพราะบางทีฉันอาจทำของสำคัญหล่นไว้บนระหว่างเส้นทางที่ผ่านมา”

เรื่องที่แนะนำ : COLOUR โดย THE DUANG, ความงามข้างหน้า โดย ต้องการ และ
THE SHADOW โดย SUMMER