สงครามชิงพิภพ
Out of the Dark
ผู้เขียน เดวิด เว็บเบอร์
ผู้แปล กุลธิดา บุณยะกุล-ดันนากิ้น
สำนักพิมพ์ นกฮูก
ราคา 335 บาท
จำนวน 456 หน้า





มนุษย์ต่างดาวครอบครองโลก นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความเดือดร้อนของพวกเขา เมื่อเอาชนะโลกได้แล้ว “ชองเกริ” ก็ร่อนลงเป็นจำนวนมาก และเมืองต่างๆ ของมนุษย์ก็ถูกทำลายอย่างย่อยยับในชั่วเวลาเพียงไม่กี่นาที กว่าครึ่งของมนุษยชาติต้องล้มตาย


จ่าสิบเอก สตีเวน บุเชฟสกี้ ผู้กำลังจะเดินทางกลับบ้านหลังเข้าประจำการรอบหลังสุดใน อัฟกานิสถาน กลับพบว่าตัวเองเดินดุ่มอยู่ในชนบทของคาบสมุทรบอลข่าน และหลบเลี่ยงกองลาดตระเวนของมนุษย์ต่างดาวแทน

เขาพยายามรวบรวมผู้รอด ชีวิตที่กระจัดกระจายกันอยู่โดยไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกฆ่าเสียเมื่อไร และในแถบรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ครูสอนยิงปืนและอดีตนาวิกโยธินชื่อ เดฟ ดโวรัก ก็พบว่าตัวเองกลายเป็นศูนย์กลางเครือข่ายผู้ต่อต้านซึ่งขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง ทำให้ครอบครัวของเขาเองตกอยู่ในอันตราย แต่เขาจะทำอะไรได้
ดูภายนอกแล้วโอกาสของบุเชฟสกี้และดโวรักแทบไม่มี เช่นเดียวกับการอยู่รอดของมนุษย์ทั้งหมด แต่อาจเป็นได้ที่ชองเกริและสหพันธ์กะประมาณความสามารถผู้อยู่อาศัยบนดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลกนั้นต่ำไป..



นี่คือเรื่องย่อบนปกหลังของนิยายไซ-ไฟขายดีเล่มนี้ที่เล่าเรื่องราวสงครามชิงพิภพบนดาวเคราะห์เคยู-197-20 หรือดาวเคราะห์โลกระหว่างมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว!!





เป็นหนังสือที่ได้ยืมมาอ่านจากโครงการน่ารักๆ “หนังสือคู่เดท” ของพี่ kunaom ครับ ซึ่งตอนเห็นครั้งแรกค่อนข้างตกใจเล็กน้อยเพราะห่างเหินจากหนังสือหนาๆ แบบนี้มานานมาก ก็เลยแอบคิดในใจว่าจะไหวไม่ตรู และก็เป็นไปตามคาดกลายเป็นหนังสือที่ต้องใช้ความพยายามในการอ่านมากๆ กว่าจะอ่านจบ(เกือบๆ 3 อาทิตย์) เนื่องด้วยอาจเป็นแนวที่ไม่ค่อยได้อ่านสักเท่าไร(ไซ-ไฟ) อีกทั้งยังไม่ค่อยสนุกโดนใจ แถมยังเต็มไปด้วยศัพท์แสงเฉพาะเกี่ยวกับอาวุธสงครามมากเกินไป(ที่มันช่างไม่เข้าทางคนไม่ชอบดูหนังสงครามแบบผมซะเลย) ก็เลยทำให้ต้องใช้ความพยายามขั้นสูงในการอ่านให้จบมากกว่าปกตินิดนึง..



แม้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวบุกโลกก็ตามที แต่กลับไม่ได้สนุกน่าติดตามอย่างที่ควรเป็น เนื่องด้วยความที่มีตัวละครเยอะแยะมากมายเกินไปทั้งฝ่ายมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาว ทำให้การเล่าเรื่องราวที่มีดูจะขาดช่วงขาดตอนไปหน่อย ไม่ค่อยไหลลื่นในอารมณ์สักเท่าไร(แต่มีตัวเด่นอยู่ 2 คนคือ สตีเวน บุเชฟสกี้ กับ เดฟ ดโวรัก) อีกทั้งสำนวนการแปลก็ยังขัดๆ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ ในบางครั้ง และกับฉากใหญ่ๆ น่าตื่นเต้นทั้งหลายนั้นก็ดูจะมีน้อยเกินไปนิด โชคยังดีหน่อยที่บทหักมุมสุดท้ายเป็นอะไรที่เซอร์ไพส์สุดๆ และช่วยฉุดให้หนังสือเล่มนี้มีอะไรให้พูดถึงมากขึ้นมาอีกเยอะ!! (ไม่บอกหรอกนะ..อยากรู้ต้องไปหามาอ่านดูกันเอาเอง)




ป.ล.1 ขอบคุณสำหรับโครงการดีๆของพี่ kunaom ด้วยครับ
ป.ล.2 ขอบคุณเจ้าของหนังสือคู่เดทที่ส่งนิยายเล่มนี้มาให้ได้อ่านครับ
ป.ล.3 เล่มนี้ตอบโจทย์หนังสือขายดีติดอันดับเบ็ตส์เซลเลอร์ของอเมริกาครับ
Reading Bingo Challenge 2014