นี่คือมินิซีรี่ส์ฉายทางทีวีที่สร้างมาจากเรื่องสั้นสยองขวัญ 8 เรื่องของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญ สตีเฟ่น คิง (Stephen King) โดยซีรีส์ชุดนี้ออกอากาศเมื่อปี 2006 ที่ช่อง TNT









เรื่องแรก Battleground กำกับโดย ไบรอัน เฮนสัน (Brian Henson) นำแสดงโดย วิลเลียม เฮิร์ท (William Hurt) ว่าด้วยเรื่องราวของนักฆ่ามืออาชีพที่หลังจากรับจ๊อบไปฆ่าเจ้าของบริษัทของเล่นชื่อดัง วันหนึ่งความสยองก็มาเยือนเขาถึงที่เมื่อมีคนส่งตุ๊กตาทหารมาล้างแค้น?!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

เป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุด แค่พล็อตหนังก็กินขาดแล้ว ไม่รู้ว่าผู้เขียนอย่างคิงคิดได้อย่างไรที่หยิบเอาเจ้าตุ๊กตาทหารสีเขียวที่เป็นของเล่นให้มาสู้กับนักฆ่ามืออาชีพที่เป็นคน แบบว่าเป็นพล็อตที่เจ๋งสุดๆ แล้วความสนุกก็มาในระดับจัดเต็มเพราะหนังทั้งตื่นเต้น ลุ้นระทึก และสมจริงมากๆในฉากต่อสู้ทั้งหลาย แถมเท่ไปอีกกับการเล่าเรื่องโดยไม่ให้ตัวละครพูดเลย(แม้บางสถานการณ์มันดูขัดจากความเป็นจริงก็ตาม) อีกทั้งตอนจบก็ยังมีอะไรให้ได้ทึ่งสมแล้วกับ ‘PLUS BONUS SURPRISES!!’ ที่แถมมากับกล่องของเล่นกล่องนั้นที่มันช่างสมน้ำสมเนื้อแบบเหมาะจะเป็นคู่ปรับกันและกันจริงๆ






เรื่องที่ 2 Crouch End กำกับโดย มาร์ค ฮาเบอร์ (Mark Haber) นำแสดงโดย แคลร์ ฟอร์ลานี (Claire Forlani) และ อีออน ไบลีย์ (Eion Bailey) ว่าด้วยเรื่องราวของคู่สามีภรรยาชาวอเมริกันที่มาฮันนีมูนไกลกันถึงอังกฤษ ก่อนที่พวกเขาจะพบกับความหลอนเมื่อถูกเชิญมาดินเนอร์ที่เมือง “คราวช์ เอนด์” เมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็นรอยต่อระหว่างมิติ!!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

ไม่รู้ว่าตอนเป็นเรื่องสั้นจะสนุกไหม? แต่ที่รู้คือนี่เป็นหนังสั้นที่น่าเบื่อมาก ซีจีก็ห่วยขั้นเทพ เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ออกจะเล่าเรื่องแบบงงๆด้วยซ้ำ ที่เห็นจะโดดเด่นหน่อยก็คงเป็นด้านภาพและบรรยากาศที่ทำเมืองร้างออกมาได้หลอนและวังเวงดี นอกนั้นผิดหวังสุดๆ






เรื่องที่ 3 Umney's Last Case กำกับโดย ร็อบ โบว์แมน (Rob Bowman) นำแสดงโดย วิลเลียม เอช. เมซี (William H. Macy) ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับคดีสุดท้าย ของนักสืบนามว่า “ไคลด์ อัมนีย์” เมื่อจู่ๆวันหนึ่งก็ถูกนักเขียนผู้สร้างมาสลับตัวตน!!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

อีกหนึ่งความน่าเบื่อที่ดูไปจะหลับไป ทั้งๆที่ความจริงพล็อตเรื่องก็เจ๋งใช้ได้ แต่ไม่รู้ทำไมพอออกมาเป็นหนังสั้นแล้วมันน่าเบื่อชวนหลับแบบนี้ก็ไม่รู้ สรุปได้ว่าทั้งเรื่องมีดีอยู่แค่การแสดงของเมซีอย่างเดียวที่พอมีสีสันน่าสนใจอยู่บ้าง






เรื่องที่ 4 The End of the Whole Mess กำกับโดย มิคาเอล ซาโลมอน (Mikael Salomon) นำแสดงโดย รอน ลิฟวิ่งสตัน (Ron Livingston) และ เฮนรี่ โธมัส (Henry Thomas) ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับหายนะของมนุษย์โลกกับความผูกพันของพี่น้องคู่หนึ่ง!!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

ชอบตรงที่วิธีการนำเสนอกับตอนจบที่พอมีอะไรให้พูดถึงอยู่บ้าง ส่วนนอกนั้นก็ออกแนวเฉยๆไม่มีอะไรดีพอให้จดจำ






เรื่องที่ 5 The Road Virus Heads North กำกับโดย เซอร์จิโอ มิมิก้า-เกซแซน (Sergio Mimica-Gezzan) นำแสดงโดย ทอม เบเรนเจอร์ (Tom Berenger) ว่าด้วยเรื่องราวของ “ริชาร์ด คินเนลล์” นักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อดังที่ต้องมาพบเจอกับอาถรรพ์ของรูปภาพปีศาจ!!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

เหมือนกับเป็นการจิกกัดตัวเองของคิงที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อดัง โดยให้ปีศาจจากรูปภาพเป็นตัวแทนของโรคร้าย ซึ่งด้านความหลอนนั้นตัวหนังไม่ค่อยจะเซอร์วิสคนดูสักเท่าไรเลยแค่พอดูได้เพลินๆ ส่วนกับตอนจบนั้นก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ให้เซอร์ไพรส์นัก






เรื่องที่ 6 The Fifth Quarter กำกับโดย ร็อบ โบว์แมน (Rob Bowman) นำแสดงโดย เจเรมี ซิสโต (Jeremy Sisto) และ ซาแมนธา มาธิส (Samantha Mathis) ว่าด้วยเรื่องราวชวนระทึกของส่วนแบ่งที่ 5 !!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

ออกแนวทริลเลอร์อาชญากรรมมากกว่าเน้นความสยอง โดยรวมแล้วก็ระทึกใช้ได้ ถูกใจสุดคงเป็นตอนจบที่ยังจบแบบพอมีความหวัง..






เรื่องที่ 7 Autopsy Room Four กำกับโดย มิคาเอล ซาโลมอน (Mikael Salomon) นำแสดงโดย ริชาร์ด โธมัส (Richard Thomas), เกรต้า สคาชชี (Greta Scacchi), โรเบิร์ต แมมโมน (Robert Mammone) และ ลินซ์ แฮสเลอร์ (Linc Hasler) ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มใหญ่ผู้โชคร้ายที่ยังไม่ตายแต่ต้องนอนระทึกแบบขยับไม่ได้อยู่ในห้องดับจิต!!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

มาแบบแนวตลกร้ายที่ออกจะระทึกหน่อยๆ มีมุกฮาแทรกมาให้ได้ขำเป็นระยะๆ (ส่วนตัวชอบเป็นพิเศษกับมุกให้ดมกลิ่นธนบัตรเพื่อพิสูจน์ว่าตายจริงไหม? กับมุกเสียงคิดของพระเอกที่แต่ละประโยคช่างเสียดสีและจิกกัดได้อย่างมีสไตล์) แต่ที่ชอบที่สุดคงเป็นพล็อตเรื่องที่เล่นกับคนไข้ผู้โชคร้ายที่ยังไม่ตายแต่ต้องมาคอยลุ้นตัวเองว่าจะโดนผ่าตอนไหน? ได้อย่างน่าติดตาม แถมยังแอบจิกกัดบรรดาหมอๆได้อย่างเจ็บแสบ ทั้งหมอแก่ที่เอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ตัดสินวินิจฉัยการตายโดยไม่สนใจจะพิสูจน์ความจริง ทั้งหมอหนุ่มกับหมอสาวที่มัวแต่จ้องจะจีบกันมากกว่าทำหน้าที่(แต่ก็ดีไม่อย่างนั้นน่าสงสารพระเอกแย่) และชอบมากกับตอนจบสุดท้ายที่เลือกให้คนไม่เอาไหนอย่างผู้ช่วยห่วยๆกลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาว!!






และเรื่องสุดท้าย You Know They Got a Hell of a Band กำกับโดย ไมค์ โร้บ (Mike Robe) นำแสดงโดย คิม เดลานีย์ (Kim Delaney) และ สตีเวน วีเบอร์ (Steven Weber) ว่าด้วยเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่ขับรถจนหลงเข้าไปในเมืองสุดหลอนที่มีชื่อว่า.. ร็อค แอนด์ โรล เฮเวน (Rock and Roll Heaven) !!









***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

น่าจะถูกอกถูกใจคอเพลงร็อคแอนด์โรลเป็นพิเศษ เพราะในเรื่องนี้ท่านจะได้พบกับนักร้อง/นักดนตรีร็อคในตำนานชื่อดังทั้งหลายที่ตายไปแล้ว?! มาเดินโลดแล่นให้ได้หวาดหวั่นสมกับประโยคอมตะที่ว่า.. ร็อคไม่มีวันตาย (Rock never dies)!!






เรื่องที่แนะนำ : Battleground และ Autopsy Room Four