With all your imperfections, you can do anything.
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
กองกอย เฮ้ย Gone Girl

 "บ้าเอ้ย มันจะล้างอะไรกันนักหนาวะ"
ผมเผลอสบถออกไประหว่างที่ขับรถ หลังจากที่เห็นป้ายประกาศแจ้งกิจกรรมล้างป่าช้า ป่าช้าในหมู่บ้านของผมก็กำลังจะล้าง นี่ยังมีอีกสองสามที่ จัดในเวลาไล่เลี่ยกัน จะขยันอะไรกันขนาดนี้

ดูเหมือนว่าตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ก็ทำผมหงุดหงิดไปเสียหมด อาจเป็นเพราะว่า ผมกำลังเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น ปัญหาคือ ภรรยาผมหายไป 7 วันแล้ว เธอหายไปวันศุกร์ หายไปแบบไม่ทิ้งข้อความอะไรไว้ ไม่ติดต่อ มือถือก็โทรไม่ติด ไม่มีสัญญาณ อาจจะมีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับเธอ แจ้งความไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า ผมกลายผู้ต้องสงสัยไปเสียอย่างนั้น บ้าไปแล้ว คนอย่างผมเนี่ยนะ จะฆ่าภรรยาตัวเอง

จริงๆ แล้วรู้จักภรรยาตัวเองน้อยมาก เธอเป็นเด็กกำพร้า แล้วก็ได้รับอุปการะจากผู้ชายคนหนึ่ง ชายคนนี้รับอุปการะเด็กกำพร้าหลายคน เธอก็เลยมีพี่น้องมากมายหลายคนเช่นกัน แต่ตอนที่เราคบกัน เธอขัดแย้งกับผู้อุปการะ เขาไม่เห็นด้วยกับการคบกันของเรา เธอเลยหนีมาอยู่กับผม จนบัดนี้ ผมยังไม่เคยเห็นหน้าผู้มีพระคุณของภรรยาผมเลย แม้ว่าปัจจุบันฐานะทางการเงิน ตำแหน่งหน้าที่ของผมจะดีกว่าก่อนมาก ถึงเวลาที่ควรจะไปขอขมาท่านได้แล้ว แต่เธอก็ยังตอบผมอย่างเนือยๆ ว่า รอก่อนเถอะ ผู้ชายคนนั้นหัวแข็งจะตายไป ไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอก

เธอเป็นคนเรียบร้อย เป็นแม่บ้านตัวจริง แต่การเป็นแม่บ้านอาจจะทำให้เธอเบื่อ เธอก็เลยไปอบรมหลักสูตรอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอไปอบรมเรื่องการบริการ การโรงแรม เธอได้รู้ถึงความแตกต่างของ Hospitality กับ Service หลังจากนั้นความเป็นแม่บ้าน การเอาอกเอาใจก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทุกอย่างในบ้านถูกจัดใหม่หมด ปราณีต พิถีพิถัน อย่างกับอยู่โรงแรม ไม่ว่าจะเป็นอาหารจัดจานสวยงาม แจกันดอกไม้สด น้ำหอมอโรม่าระเหยฟุ้งไปทั่วห้อง ผ้าเช็ดตัวพับเป็นรูปหงส์ ความพยายาม ความตั้งใจขนาดนี้ ถ้าไม่มาแต่งงานกับผม ผู้หญิงเก่งอย่างเธอ คงกลายไปเป็นผู้บริหารใหญ่ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม การแต่งงานมาเป็นเวลา 10 ปี มันก็ทำให้ความรักของเรา ณ ตอนนี้ ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นมากนัก อาจเป็นเพราะความเคยชิน การที่ได้เจออะไรเดิมๆ ทุกวัน อาจเป็นเพราะตัวผมเองด้วย ที่ละเลยเธอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอฝากผมซื้อหูฟังเพราะเธอทำมันเสีย เธอเป็นคนชอบฟังเพลงมาก ฟังทุกวัน อาจเป็นความสุขเดียวที่เธอมี ตอนที่อยู่คนเดียว แต่ผมก็อิดออดปล่อยเวลาผ่านไปเป็นเดือน กว่าจะซื้อให้ เธอไม่บ่นอะไรสักคำ แต่ตอนที่เธอเสียบหูฟังครั้งแรก เธอมีอาการแบบคนมีความสุขสุดๆ โยกตัวไปตามทำนองเพลง ดวงตาเปล่งประกาย พร้อมกับพูดอะไรแปลกๆ

"ฉันเข้าใจชีวิต ฉันเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเราตอนนี้ และฉันจะแก้มัน"

ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด หรือว่าเธอกำลังจะเล่นเกมอะไรกับผม ผมไม่รู้จริงๆ

เล่นเกมหรือ เป็นอะไรที่นิยายไปหน่อยมั้ง ผมไม่ค่อยสนใจประเด็นนี้มากนัก เพราะสาเหตุการหายตัวไปของเธอยังมีอีกหลายข้อ ไหนจะเรื่องแฟนเก่าของผมโทรมาวันก่อน ระบายเรื่องความห่วยแตกของสามี ไหนจะเรื่องเด็กฝีกงานที่คอยโทรมาบอกฝันดีทุกคืน ป่วนชีวิตผมไม่หยุดหย่อน แต่ผมไม่ได้มีอะไรนะ ผมไม่เล่นด้วย ผมยังรักภรรยาของผม

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ช่วงค่ำก่อนที่เธอจะหายไปหนึ่งวัน มีเด็กหนุ่มหน้าตาดีมาหาเธอที่บ้าน ผมแอบเห็นตอนที่ขับรถใกล้ถึงหน้าบ้านพอดี เธอและเขาคุยกันอยู่นานพอสมควร ผมแอบดูเธออยู่ คืนนั้นเธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย รุ่งเช้าก่อนผมออกจากบ้าน ดูเหมือนว่า เธอจะพูดอะไรสักอย่างกับผม แต่ผมก็รีบตัดบท รีบออกไปทำงานเสียก่อน หลังจากนั้น เธอก็หายไป


ครบ 7 วันแล้ว เธอยังไม่กลับมา คืนนี้ ผมนั่งร่ำสุราอย่างหนักตรงระเบียงหน้าบ้าน แสงจันทร์นวลถูกบดบังด้วยมวลหมู่เมฆดำ ฝนทำท่าว่าจะตก ความเศร้ามันอัดเต็มอยู่ในอก หากผมทำอะไรผิดไป ก็อยากจะให้เธออภัย ของเพียงเธอกลับมา ผมสัญญาว่าจะดูแลเอาใจใส่เธอให้มากกว่านี้ ไม่ละเลยเธออีกแล้ว

แต่ด้วยเหตุบังเอิญอะไรไม่ทราบ อยู่ๆ ไอ้หนุ่มหน้าตาดีที่บังอาจคุยกับภรรยาผมวันก่อน มันเดินผ่านมาหน้าบ้านพอดี แม้จะสวมแว่นตาอำพราง แต่ผมก็ยังจำมันได้ ผมเดินโงนเงนไปดักหน้ามัน กะว่าจะถามถึงเรื่องราวในวันนั้น ถ้าเป็นไปอย่างที่ผมคิด ไอ้หนุ่มหน้าหล่อคนนี้ ได้โดนผมอัดน่วมแน่ๆ

ไม่ทันได้ทำอะไร เมฆดำที่ตั้งเค้าอยู่ก่อนแล้ว ก็เริ่มแผลงฤทธิ์ พายุใหญ่พัดมา พาเอาฝุ่นทรายฟุ้งไปทั่ว ผมเอาแขนแนบหน้าบังฝุ่น เมื่อพายุสงบลง เงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็เห็นกระดาษลงอักขระสี่ห้าแผ่นลอยอยู่บนท้องฟ้า เมื่อปรับสายตาเข้าที่ สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า คือเงา 5 ร่างในชุดจีนโบราณ คล้ายๆ พวกราชสำนักแมนจู ยืดแขนขนานไปกับพื้น ขยับกงเล็บคลายกล้ามเนื้อ เผยอริมฝีปากเผยให้เห็นคมเขี้ยวเงาวับ ส่วนไอ้หนุ่มหน้าหล่อ มันยืนจังก้าทำอะไรไม่ถูก 

"นี่มันตัวบ้าอะไรกันวะ"
ผมตะโกนไปสุดเสียง ทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นได้สติคืนมา เขาจับกลองใบเล็กที่แขวนอยู่ข้างเอว แล้วกระหน่ำตีเป็นเสียงสัญญาณ แม้ว่าจะเป็นกลองใบเล็ก แต่เสียงหนักแน่น ดังไปทั่วบริเวณ เจ้าเด็กหนุ่มทำหน้าเหลอหลา พอดีมีตุ่มรองน้ำฝนอยู่หน้าบ้าน มันกระโดดหลบเข้าไปอยู่ในตุ่มเฉยเลย ทิ้งผมไว้เผชิญกับชะตากรรมอยู่เพียงผู้เดียว

เจ้าผีดิบร้ายกาจ 5 ตัว กระโดดตรงดิ่งมาหาผม มือนั้นพุ่งมาด้วยความเร็วหวังจะบีบคอ แต่โชคดีที่ผมเคยเรียนศิลปะการป้องกันตัวมาบ้าง ทำให้สามารถหลบได้อย่างทันควัน ผมเวียนวนล่อหลอกมันอยู่พักใหญ่ บางจังหวะก็พบเห็นช่องโหว่ผลักมันออกไปได้ แต่แรงคนเดียว หรือจะสู้อสูรคืนชีพพวกนี้ได้ จังหวะเพลี้ยงพล้ำ ทำให้ผมโดนมันจับตัวไว้ได้ ผมรู้สึกได้ถึงปลายเขี้ยวแหลมคมของมันที่จ่อโลมไล้สัมผัสปลายขนคอของผมอย่างน่าเสียวไส้

"กลั้นหายใจ"
เสียงหญิงสาวที่คุ้นหู ดัวแว่วมากับสายลม
ผมสูดอากาศฟอดใหญ่เข้าไปเต็มปอด แล้วกลั้นหายใจตามที่เธอบอก เจ้าผีดิบหยุดชะงักไปชั่วครู่ ทันใดแผ่นยันต์ก็พุ่งมาจากมุมมืดด้วยความเร็วปานแสง แปะเข้ากับหน้าผากของผีดิบทีละตัว ร่างของพวกมันค่อยๆ อันตรธานหายไป

ปรากฎเงาร่างของหญิงสาวนางหนึ่ง เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ ก็เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของหญิงสาวแต่งชุดกระชับ มัดผมดูท่าทางปราดเปรียว ใส่แว่นตากรอบกลม ด้านหลังสะพายกระบี่ไม้เล่มหนี่ง เมื่อได้เห็นใบหน้าของเธอชัดเจน ผมรู้สึกอึ้งปนดีใจ เธอคือภรรยาของผมนั่นเอง

เธอหยิบยันต์ที่ตกอยู่บนพื้นขี้นมาเพ่งพิศตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า
"เจ้าผสมกาวผิด ไม่ต้องพูดมาก คุกเข่าสำนึกผิดหน้ากระถางธูปถึงเช้า"

"รับทราบ ศิษย์พี่"
เด็กหนุ่มฝืนน้ำเสียงตอบรับอย่างเข็มแข็ง แต่สั่นเครือในช่วงท้าย

ผมไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขี้นได้ รู้สึกงงไปหมด ได้แต่ถามไปแบบไร้สติว่า เจ้าผีพวกนั้นหายไปไหน

"เพื่อให้การทำงานง่ายขึ้น เราก็เลยผสมหมึกลงยันต์สูตรใหม่หน่ะ แปะแล้ว ทำให้คนทั่วไปมองไม่เห็น คนที่ใส่แว่นแบบเราเท่านั้นถึงจะมองเห็นได้"
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพูดต่อ

"ฉันลังเลอยู่ว่า ควรจะบอกความจริงกับคุณดีหรือไม่ แต่ถึงตอนนี้ คงไม่มีทางเลือก ช่วงนี้งานชุก อาจาย์ก็เลยเรียกตัวศิษย์เอกอย่างฉันไปช่วยงานนิดหน่อย เราทำหน้าที่ขนส่งภูติผีเหล่านี้ไปอยู่ที่ใหม่ จะทำหน้าอึ้งอะไรนักหนา ทีคุณรู้วิชาหมัดเมา ยังไม่เคยบอกฉันเลย"

ผมยิ้มหน้าแหย 
จริงๆ แล้วไม่ได้ใจปิดบังเลย
แต่เป็นเพราะเธอต่างหาก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลิกเหล้า มีชีวิตใหม่ขึ้นมาได้ ผมคิดทบทวนถึงเรื่องราวในตอนนั้น ความรู้สึกฮึกเหิมของคนหนุ่ม ที่มีรอยยิ้มของหญิงสาวเป็นแรงใจ ได้กลับสร้างความอบอุ่นในหัวใจของผมอีกครั้ง ลมปราณมันปั่นป่วนอยู่ในท้องจนรู้สึกหวิวๆ เขาเรียกว่าอะไรนะ 
"ปราณผีเสื้อ" ใช่ไหม



Create Date : 21 สิงหาคม 2558
Last Update : 21 สิงหาคม 2558 19:55:44 น. 0 comments
Counter : 940 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dragonfly7Colors
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add Dragonfly7Colors's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.