Bloggang.com : แมงปอเฒ่าเจ้าค่ะ :

:: message in a bottle *

เมื่อกี้ดู Everwood ตอนสี่โมง
(เพราะเมื่อคืนกลับมาไม่ทันค่ะ ><)

Dr.Abbott : ... That office across the street, it’s been in my family since 1948. My father and I worked side by side in that 1200 foot piece of prime real estate. There’s a lot of memories there. It’s hard to let go.

Dr.Brown : Well, you don’t let go of your memories, Harold. They live inside of you. You take them with you wherever you go. Whether it’s moving to an office across the street or to another state entirely. Trust me, they hang on.

ชอบตรงนี้มากๆค่ะ อยากให้อ่านกัน

:)

ตอนแรกจะเอาเรื่องนี้มาอัพบล็อกเฉยๆ
แต่มันก็ดูจะเฉยๆไป ไม่มีเรื่องราวอะไร
ก็เลยลองนึกถึงหนังสือที่มันเข้ากันๆหน่อย

Message in a Bottle ของ Nicholas Sparks

เล่มนี้เป็นหนังสือภาษาอังกฤษเล่มเดียวที่จขบ.ยืมของคนอื่นเค้าอ่านค่ะ
เสียดายที่ไม่ได้ซื้อเอง เพราะอ่านแล้วชอบมากๆค่ะ
อยากมีไว้ในครอบครอง ><
(ถึงจะไม่อ่านซ้ำรอบสองก็เถอะ)

และเล่มนี้ก็คงเป็นเล่มเดียวที่จขบ.อ่านรวดเดียวจบ
ไม่ได้ดองไว้จนลืมและนึกได้อีกรอบถึงมาอ่านต่อเหมือนเล่มอื่นๆ

เล่มนี้เป็นเล่มแรกของ Nicholas Sparks ที่จขบ.เคยอ่านด้วยค่ะ
อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
เป็นหนังสือที่โรแมนติกมากๆ
(แต่ก็แอบปนเศร้านิดหน่อยนะคะ)

จขบ. หลงรัก Garrett มากๆค่ะ
ผู้ชายอะไร เป็นคนดี๊คนดี ดีที่สุด โรแมนติกอีกแน่ะ
ส่วนตัวนางเอก Theresa จขบ.เฉยๆค่ะ
กลับไปชอบ Catherine คุณเมียผู้ล่วงลับของพระเอกมากกว่าอีกต่างหาก
Catherine ดูเป็นคนที่อ่อนหวาน และน่ารักมาก

วิธีการเขียนของคุณ Sparks นี่ จขบ.ก็ชอบค่ะ
รู้สึกว่าเป็นวิธีการเขียนที่พอประมาณ
เหมือนเค้ารู้ว่าตรงไหนจะเล่ามาก ตรงไหนจะเล่าน้อย
ทำให้อะไรๆมันก็ดูลงตัวไปหมด

พล็อตเรื่องก็ดูดี โรแมนติก แต่ไม่น้ำเน่าค่ะ
อ่านแล้วยิ้มได้ เศร้าได้ มีความสุขได้ด้วย

แต่มีเรื่องนึงที่จขบ.ไม่ชอบมากๆ
ก็ชื่อนางเอกนั่นแหล่ะค่ะ
ถ้าไม่แก่ๆ ก็แมนๆยังไงไม่รู้ - -*
ทั้ง Theresa, Jamie (A Walk To Remember),
Lexie (True Believer, At First Sight)

จขบ.มีหนังสือของคุณ Sparks อีกเล่มนึง คือ
At First Sight (ภาคต่อของ True Believer)

ซื้อมาเพราะชอบชื่อเพียวๆเลยค่ะ (ปกด้วยแหล่ะ)
มันเป็นภาคต่อก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องอ่านเล่มแรกก็อ่านได้ค่ะ
จขบ.เพิ่งอ่านไปแค่ไม่กี่ chapter เอง
อ่านแล้วรู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด
เรื่องก็น่าเบื่อๆยังไงไม่รู้
อ่านแล้วชอบคิดว่า นี่จะสื่ออะไรนะ?
เป็นเล่มที่ผิดหวังพอควรค่ะ
แต่ก็จะพยายามอ่านให้จบค่ะ หนังสือมันอุตส่าห์สวยนะ

* วันนี้เขียนอะไรไม่รู้เรื่องเลยค่ะ (อีกแล้ว)
ขออภัยด้วยค่ะ สงสัยยังเบลอๆอยู่
เพราะเมื่อคืนนอนหกโมงเช้า - -*
เอาเป็นว่า จขบ.ไฮลี่เรคคอมเมนเล่มนี้ค่ะ ;)

* ที่ตอนนั้นไม่ได้ซื้อ เพราะอ่านตอนไปซัมเมอร์ที่แคนาดาค่ะ
(เผื่อใครอยากดูรูปก็ ที่นี่ ค่ะ)
แล้วน้องคนนึงเค้าก็ซื้อมาอ่าน ละก็แนะนำให้อ่านต่อ
(คนที่แนะนำ Tell No One น่ะแหล่ะ)
จะซื้อเองก็คงจะแบกกลับมาไม่ได้
เพราะซื้อไปหลายเล่มแล้ว กระเป๋าก็เต็ม
สรุปเลยยืมเค้าอ่าน ละก็มาเสียดายที่ไม่ได้ซื้อเอง ><

* อันนี้เป็นอีกปกนึงของ At First Sight

อันนี้ จขบ. ก็ชอบค่ะ
สวยเหมือนกัน แต่เป็นปกแข็ง
มันแมทช์กะปก True Believer อันที่ลงให้ดูด้วย

Create Date : 10 มีนาคม 2549

Last Update : 10 มีนาคม 2549 21:23:43 น.

5 comments

Counter : 684 Pageviews.

ไม่เคยอ่านเรื่องของ Nicholas Sparks
เลยอ่ะจ้า
รู้สึกว่าเรื่องของเขาหวานเกินไปสำหรับตัวเอง

ฉบับแปลภาษาไทย ของเรื่อง Message in a Bottle ก็มีคนชอบเยอะแยะ

โดย: grappa

วันที่: 10 มีนาคม 2549 เวลา:20:14:29 น.

อ้าว สวนกัน
ตะกี้ไปเห็นคอมเม้นท์ของแมงปอ
อ่านบทความที่บล็อก แล้วอยากเรียน นิติ มธ.
ขึ้นบ้างไหม
อาจารย์คนเขียนบทความเก่งนา อิอิ

โดย: grappa

วันที่: 10 มีนาคม 2549 เวลา:20:18:35 น.

อ้าว..ยังไม่ได้อ่าน Message in the Bottle เลยค่ะ

อ่านแต่ The Notebook กับ The Wedding จขบ.ลองไปหาอ่านสิคะ

เราชอบสองเล่มนี้

ขอบคุณที่แวะไปเที่ยวนะคะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 13 มีนาคม 2549 เวลา:8:51:45 น.

ทำไมดูหนังแล้วจำบทสนทนาได้หมดเลยอ่ะ เก่งจังเลย

หนังสือนิโคลัสไม่อ่านเหมือนกัน แพ้ทางเรื่องพวกนี้อ่ะ

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat

) วันที่: 13 มีนาคม 2549 เวลา:13:23:19 น.

เข้าใจว่า จขบ ดูซี่รีย์นี้เพราะพระเอกชัวร์

Message in a Bottle นี่ไม่ได้อ่านหนังสือ แต่รู้สึกว่าจะดูหนังไป ก็ดีน้ะแต่เน่าไปนิด (คงไม่ต้องบอกน้ะ :p)

ปล. ถ้าอยากเจอลุงจริงๆ วันศุกร์หน้าลองแว๊ะไปแถวๆ Starbuck Discovery ไม่ก็ที่ Paragon น้ะ

โดย: ลุงเอง (melkor

) วันที่: 17 มีนาคม 2549 เวลา:12:08:10 น.