Just like the moon in the sky. I will never leave your side...
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
'เส้นทางเหล็ก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์'


จากลูกชายผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มาเป็นนายกรัฐมนตรี 'สหายคำตัน' คนดีในหัวใจ พล.อ.สุรยุทธ์
ถ้านับการมาเยือนยังพื้นที่ชายแดน จ.น่าน โดยเฉพาะภูแว ภูพยัคฆ์
ตลอดชีวิตการเป็นทหารของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แล้ว 11 ธันวาคมที่จะถึงนี้
จึงหาใช่การมาครั้งแรกไม่ หากแต่แดดอุ่นยามเช้าของวันนั้น จะเป็นครั้งแรกที่อดีต ผบ.ทบ. คนนี้มาในฐานะ 'ลูกชาย' ธรรมดาคนหนึ่งของพ่อ-พ.ท.พโยม จุลานนท์ ก็ว่าได้
ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ในผืนป่าแห่งนี้มายาวนาน
ในตำแหน่งสูงระดับ 'แกนนำ' ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และเป็นที่รู้จักกันในนาม 'สหายคำตัน' หรือ 'ตู้คำตัน' นั่นเอง และถือว่าเป็นการประกาศความรักที่มีต่อพ่ออย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้งหนึ่ง

แม้ว่านานมาแล้วจิตใจจะถูกกระทบกระเทือนจากคำว่า 'ลูกคอมมิวนิสต์' ไม่น้อยเลยก็ตาม แต่ความรู้สึกเหล่านั้นก็ได้เจือจางรางเลือนไปแล้ว คงไว้เพียงการยอมรับ และเข้าใจในวิถีทางและอุดมการณ์ที่ผู้เป็นพ่อเลือก "ผมไม่โกรธคุณพ่อหรอก เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของท่าน แต่ก็ไม่ถึงกับต่อต้านคุณพ่อ เพราะเข้าใจว่าต่างคนต่างมีความคิดมีเหตุผลของตัวเองว่าเราจะยืนอยู่จุดไหน แต่ความผูกพันระหว่างพ่อลูกก็ไม่มีอะไรมาลบล้างได้" (จาก 'เส้นทางเหล็ก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์' โดย วาสนา นาน่วม สำนักพิมพ์มติชน)

การรำลึกถึงพ่อจึงมีเสมอมา อย่างปีสองปีนี้ก็ได้บวช และจัดงานบุญรำลึกถึงพ่อไปแล้วยังวัดเพชรพลี จ.เพชรบุรี รวมไปถึง 10 ตุลาคมของทุกปีจะทำบุญอัฐิบรรพบุรุษที่วัดบ้านเกิดแห่งนี้ด้วย การนำชื่อพ่อมาจารึกยัง 'อาคารประวัติศาสตร์ประชาชนจังหวัดน่าน' ณ อนุสรณ์สถานภูพยัคฆ์ แห่งนี้ จึงเสมือนพาพ่อกลับถิ่นที่พ่อเคยอยู่อีกครั้งหนึ่ง

ตามปูมประวัตินั้น ตระกูล 'จุลานนท์' ตั้งรกรากอยู่ที่ จ.เพชรบุรี ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ โดย พล.ท.พโยม เป็นลูกของ พ.อ.พระยาวิเศษสิงหนาถ (ยิ่ง จุลานนท์) กับคุณหญิงเก๋ง จุลานนท์ และเป็นลูกเขยของ พ.อ.พระยาศรีสิทธิสงคราม (เมื่อแต่งงานกับ น.ส.อัมโภช ท่าราบ) อดีตกบฏบวรเดช (ตุลาคม 2476) ก่อนใช้ชีวิตในป่าเขาราวไพร ใต้ร่มเงาพรรคคอมมิวนิสต์นั้น พ.ท.พโยม จุลานนท์ เป็นนายทหารใหญ่มีบทบาทสำคัญระดับ 'นายทหารเสนาธิการ' และเป็นทหารที่มีความฝักใฝ่ในการเมืองด้วย เมื่อมีความใกล้ชิดกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงได้ร่วมทำการรัฐประหารเพื่อล้มล้างรัฐบาลของ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2490 แต่ไม่นานนัก ด้วยมีความคิดเด็ดเดี่ยวเป็นของตัวเอง จึงได้ขัดแย้งทั้งกับ จอมพล ป. และ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ที่สุด จึงเข้าร่วมกบฏโรงเรียนเสนาธิการ (กบฏเสนาธิการ) ร่วมกับ พล.ต.สมบูรณ์ ศรานุชิต, พล.ต.เนตร เขมะโยธิน เมื่อ 1 ตุลาคม 2491 แต่ไม่สำเร็จ ถูกปราบเสียก่อน จนต้องลี้ภัยการเมืองมุ่งหน้าสู่ราวไพรไปยังจีน
เหตุนั้นเองที่ส่งผลให้ตลอดชีวิต พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เจอพ่อน้อยมาก-แทบนับครั้งได้ อย่างตอนนั้น (2492) เพิ่งอายุได้แค่ 6 ขวบ และเรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เท่านั้นเอง พ่อก็ต้องเข้าป่าแล้ว แต่ลูกชายก็ยังได้ลาพ่อที่ชายแดนแม่สาย และได้อยู่กับพ่อทั้งวันที่ท่าขี้เหล็ก ก่อนแยกย้ายกันไป โดยพ่อมุ่งหน้าไปยัง เมืองหาง ของพม่า ก่อนข้ามไปศึกษาที่สถาบันลัทธิมาร์กซ์-เลนิน ณ กรุงปักกิ่ง 8 ปี (2500) ให้หลังคืนแผ่นดินไทยอีกครั้ง พร้อมลงสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส ในสังกัดพรรค 'สหภูมิ' และได้เป็น ส.ส.เพชรบุรี ด้วย
แต่ไม่นานนักเมื่อรัฐบาลจอมพล ป. ถูกแทรกแซงอย่างหนักจากมหาอำนาจ จึงถูกยึดอำนาจโดยคณะทหาร นำโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 20 ตุลาคม 2501 ทาง พ.ท.พโยมและพรรคพวกจึงต้องหลบลงใต้ดิน สามปีผ่านยิ่งถูกรัฐบาลทหารรุกหนัก ถึงขั้นประหารชีวิต รวม วงศ์พันธ์ สมาชิกกรมเมือง ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของ พคท. ทำให้มุ่งหน้าสู่ราวไพรเพื่อเตรียมการสู้รบด้วยอาวุธในเขตป่าเขา

ถัดมาอีกสองปี 'สหายคำตัน' ในฐานะคณะกรรมการกลางการพรรค ได้ตัดสินใจเข้าป่าที่ ต.ดงหลวง อ.นาแก จ.นครพนม หลังจากนั้นไม่มีใครได้ข่าวอีกเลย จนกระทั่งปี 2510-2511 ที่กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้นำคนหนึ่งของ 'แนวร่วมรักชาติแห่งประเทศไทย' ในช่วงนั้นเองที่เป็นยุคที่ 'พ่อหนี ลูกล่า' (ตามสำนวนของ วาสนา นาน่วม) เพราะขณะที่ลูกเติบโตทางทหาร ผู้เป็นพ่อก็เติบใหญ่ในพรรคเช่นกัน

บทบาทสำคัญของลูก นับแต่จบ จปร.รุ่นที่ 12 แล้ว เริ่มเข้ารับราชการในยศร้อยตรี ตั้งแต่ปี 2508 เป็นต้นมา ช่วงชีวิตสำคัญคือ เมื่อได้มาเป็น 'ลูกป๋า' หรือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในช่วงปี 2521-2531 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนเกื้อหนุนให้ลูกคนนี้ได้เติบโตหน้าที่ทางการทหารถึงขั้น ผบ.ทบ. ต่อมาในปี 2545 ขณะที่ สหายคำตัน เองได้ขึ้นสู่ตำแหน่งแกนนำของพรรคคนหนึ่ง จนปี 2518 กรมการเมืองของพรรคได้มอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านเสนาธิการของกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย (ทปท.) ซึ่งเป็น 'กองกำลังติดอาวุธ' ของพรรค และใช้ชีวิตอยู่ในเขตงานรอยต่อชายแดนไทย-ลาว และมีส่วนร่วมในการวางแผนโจมตีฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น จ.น่าน อันเป็นการทดสอบกลยุทธ์ทางการทหารครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของ พคท. ทางด้านลูกก็ได้บุกตะลุยในดงคอมมิวนิสต์หลายพื้นที่ด้วยกัน แต่ก็ทำไปอย่างระมัดระวัง ยึดหลัก 'ทำความเข้าใจ' และ 'ไม่ใช้อาวุธ' เพราะถือว่าคนไทยด้วยกันเอง ไม่ควรต้องจับอาวุธต่อสู้กันเอง อีกทั้งใจลึกๆ ก็กลัวว่าปืนจะไปโดนพ่อของตนด้วยนั่นเอง แต่โชคดีที่ไม่เคยเผชิญหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ 'หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่'

ถึงอย่างนั้น นามสกุล 'จุลานนท์' ก็เป็นที่เพ่งเล็งของทางการเสมอ ถึงกับถูกเจ้าหน้าที่การข่าวติดตามแบบลับๆ อีกทั้งความหวาดระแวงยังส่งผลต่อหน้าที่ราชการด้วย แม้จะท้อ แต่ท้ายสุด พล.อ.สุรยุทธ์ก็ทำหน้าที่เต็มความสามารถ แสดงความเป็นผู้นำอย่างกล้าหาญในสมรภูมิรบ จึงได้รับหนังสือชมเชยและคำชมเชยจาก พล.อ.เทียนชัย ศิริสัมพันธ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษในสมัยนั้น และเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้น 1 จากจอมพลประภาส จารุเสถียร ซึ่งถือว่าเป็นการปลดแอกความหวาดระแวงออกไปได้ในที่สุด

จากการได้พบหน้ากันน้อยนั่นเอง ยิ่งทำให้ความคิดถึงพ่อของ พล.อ.สุรยุทธ์ ทวีคูณ นอกจากติดตามทางการข่าวแล้ว ยังได้มีการติดตามสืบถามจากสหายเก่าๆ ของพ่อที่เคยปฏิบัติงานร่วมกันด้วย อย่างเช่น อุดม ศรีสุวรรณ อยู่เนืองๆ ยิ่งช่วงหลังที่ พคท. ต้องกลับมาตั้งหลักยังฐานที่มั่นในเขตน่านเหนือ น่านใต้ ทว่า 'ตู้คำตัน' ยังคงอยู่ที่หลวงน้ำทา กระทั่งจีนส่งไปปักกิ่งเพื่อรักษาสุขภาพ ในปี 2521 และทรุดหนักในปี 2523 ในปีนั้นเองที่พ่อลูกได้พบหน้ากันอีกครั้ง หลังจากไม่เจอกันร่วม 2 ทศวรรษ ซึ่งกว่าจะได้ไปก็สุดแสนยุ่งยากหลายชั้นมาก เพราะสถานการณ์คอมมิวนิสต์ยังคุกรุ่น

จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจาก 'ป๋า' ให้ไปกับคณะ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งเดินทางไปจีนพอดี พอจะไปถึงก็ถูกปฏิเสธ เพราะไปในนามของรัฐบาล และพ่อเองก็ยังอยู่ภายใต้การดูแลของพรรคด้วย แต่ท้ายสุดก็ได้นักการทูตอย่าง หัวหน้าคณะรัฐบาลไทย พล.อ.ชาติชาย เจรจากับนายเติ้ง เสี่ยวผิง นายกรัฐมนตรีของจีน ได้เป็นผลสำเร็จ พ.ท.พโยม ที่ปรากฏเบื้องหน้าของ พล.อ.สุรยุทธ์นั้น หาใช่พ่อที่เคยมีรูปร่างสง่างามไม่ หากแต่เป็น 'ชายชรา' ที่มีหลายโรครุมเร้า ทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน เก๊าต์ และอัมพฤกษ์ เนื่องจากตกช้าง ทำให้เส้นประสาทในไขสันหลังทำงานไม่ปกติ เวลาเดินจึงเดินตรงๆ ฉับๆ เช่นทหารดังเดิมไม่ได้ แต่ต้องเดินถัดด้านข้างๆ แทน

แต่ทั้งคู่ก็ใช้เวลาให้คุ้มค่าทุกวินาที ถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันประสาพ่อลูก ก่อนจากกัน พ่อได้ถ่ายรูปกับลูกด้วย เพื่อให้ลูกเก็บไว้เป็นที่ระลึก แม้จะต้องพยายามขยับตัวสุดแรงก็ตาม และขอให้ลูกทำตัวดีๆ ก่อนจากกัน "คุณพ่อบอกว่า เราคงจะได้พบกันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว" และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่กี่เดือนให้หลัง พ.ท.พโยม ก็เสียชีวิต โดยที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดงานศพให้ แต่ทางครอบครัวไม่ได้ไปร่วมงานด้วย มีเพียงอัฐิของบิดาที่คืนกลับมาสู่ผืนแผ่นดินไทย เก็บไว้ยังวัดเพชรพลี จ.เพชรบุรี โดยมีการทำบุญทุกปี โดยเฉพาะในปี 2545 ซึ่งถือวันสำคัญในชีวิตทางการทหารนั้นเอง ผู้บัญชาการทหารบก ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาหมาดๆ ก็ได้กลับไปจุดธูปบอกพ่อและปู่ ถึงความสำเร็จในหน้าที่การงานครั้งนี้ด้วย 0 0 0 แม้ต่างอุดมการณ์

สิ่งที่เหมือนกันนอกจากความรักอันแนบแน่นระหว่างพ่อ-ลูกแล้ว น่าจะเป็นชีวิตสมถะ นั่นเอง เรื่องนี้ 'สหายภราดร' อดีตเด็กอาชีวะ ที่เคยเป็นหมอในป่า และเคยไปรักษา 'ลุงคำตัน' ที่สำนัก 5/1 (ในลาว) รู้ซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่งเคยทานข้าวผัดผักบุ้งเหลือทิ้งไว้ แต่แทนที่จะทิ้ง 'ลุงคำตัน' กลับเลือกผักไปต้มเป็นแกงโฮะต่อเพื่อเป็นอาหารมื้อต่อไปได้อีก พร้อมสอนสั่งอย่างใจดี มีอารมณ์ขัน ว่า 'พวกเราต้องประหยัด' อีกทั้งมีความสนใจ 'เยาวชน' มาก ฝ่ายลูกก็มีความเรียบง่าย สมถะ และติดดิน เช่นกัน

ที่สำคัญเป็น 'ลุงแอ้ดที่ใจดี' ของเด็กๆ ชมรมเยาวชนรักษ์ป่า เสมอ ทุกยามที่ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นประธานจัดขึ้น "ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ผมเชื่อว่าพ่อผมเป็นคนดี และเป็นคนดีในหัวใจของผมเสมอ" พล.อ.สุรยุทธ์ มักกล่าวให้รุ่นน้องๆ ที่เคยอยู่ร่วมฐานที่มั่นของพ่อได้ฟังกันเช่นนี้ ซึ่งหลายคนก็ประทับใจในความเปิดเผยและความจริงใจของลูกชาย 'ลุงคำตัน' หรือ พ.ท.พโยม เป็นอย่างยิ่ง ผืนป่าและแดดงามยามเช้าแห่ง ภูพยัคฆ์ จักเป็นพยาน!! หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ 'เส้นทางเหล็ก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จากลูกคอมมิวนิสต์ สู่ ผบ.ทบ.' โดย วาสนา นาน่วม สำนักพิมพ์มติชน





Create Date : 04 ตุลาคม 2549
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 23:16:08 น. 11 comments
Counter : 6400 Pageviews.

 
อุ๊โหยว up blog บ่อยมากอ่ะ
มะวานมาเม้นต์แล้วแต่ไม่ขึ้นเนื่องจากไม่ได้ล๊อคอิน

เออเน๊อะ ฝากความหวังไว้กับนายกคนใหม่ด้วยแล้วกัน

ไม่ต้องให้ GDP มันสูงมากนักก็ได้
มาพัฒนาด้านสังคมกันดีกว่าอ่ะ

เงินเยอะไม่ได้ทำให้มีความสุขมากขึ้น
ดูแลคนจนให้เค้าพออยู่พอกิน
แล้วก็ให้เค้ามีความสุข

ให้สังคมน่าอยู่ ไปไหนมาไหนก็ปลอดภัย


โดย: . (when-u-believe ) วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:8:28:50 น.  

 
สัมพันธ์ พ่อ-ลูก นั้นแน่นเหนียวกว่าอุดมการณ์ แต่ว่า อุดมการณ์ก็เป็นหลักของชีวิต


โดย: angy_11 วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:12:29:50 น.  

 
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่กิน อยากกินไข่เค็มไชยาอย่างแรง ไม่เอามิตรชัยก็ได้


โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:18:14:27 น.  

 

สวัสดีค่ะ...หาเส้นแต่งงานไม่เจอหรือค่ะ แต่ไม่ต้องกังวล ลายมือมีการเปลี่ยนแปลงได้ กำมือบ่อยๆก็แล้วกัน แต่ของเรามีตั้งหลายเส้นนะเดี๋ยวจะแบ่งไปให้ซักเส้นนะ เอาเส้นหมี่,เส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ดี เอาเกาเหลาเลยดีไหม เด็กไม่มีเส้น


โดย: คนผ่านทางมาเจอ (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:10:03:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยม มาเจอเรื่องราวที่ผ่านมาของท่านนายกฯ หน้าที่ต้องมาก่อนอย่างอื่นเสมอ คำนี้ใช้ได้ผลจริงๆนะ

สบายดีนะ คิคิ


โดย: รวมการเฉพาะกิจ วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:17:33:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ บังเอิญเข้ามาพบในเว็บนี้ ได้อ่านข้อความแล้วเข้าใจท่านนายกฯ ค่ะ หากต้องคิดก็อยู่ที่ว่า เหตุใดผู้ใหญ่จึงยอมรับท่าน หากท่านไม่ดีจริงคนอื่นเขาคงเมินเฉยไปแล้ว แต่เป็นข้อคิดให้ผู้กล่าวรู้สึกว่า หากใครไม่ดีก็ไม่ควร "เหมารวมทั้งพวก" หากแต่ต้อง แยกแยกเฉพาะรายบุคคล หรือ "ตัดเฉพาะนิ้วที่ไม่ดีออกไป"
และการคบคนนั้นเป็นส่วนที่สำคัญมากที่จะทำให้ผู้อ่านได้คิดแยกแยะว่าสิ่งใดชั่ว-ดี
และควรคบคนแบบใดแน่


โดย: คนใกล้เมือง IP: 125.24.132.52 วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:13:30:04 น.  

 
สวัสดีค่ะ ดีใจมากเลยที่ได้มีอนุสรณ์สถานเสียที่หนูภูมิใจที่ได้มิตรภาพดีๆเนืองจากหนูเองเป็นคนในพื้นที่ยินดีต้อนรับผู้เข้าชมอนุสรณ์ทุกคนนะค่ะ<


โดย: นางสาวนุชลดา บัวอาน IP: 203.170.136.210 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:58:52 น.  

 
ต่อเมื่อได้ทำหน้าที่พ่อนั้นแหละ


โดย: คนรักพ่อ IP: 118.172.98.114 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:10:19:54 น.  

 
กว่าจะเข้าใจพ่อ ก็ต่อเมื่อได้ทำหน้าที่ของพ่อนั้นแหละ ขออนุญาตนำไปเป็นตัวอย่าง


โดย: อำนาจ ทัพธานี IP: 118.172.98.114 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:10:24:03 น.  

 
อยากให้ทุกคนอ่านดู ข้างในมันมีอะไรที่น่าค้นหามากมาย ต้องอ่านเองจึงจะรู้



โดย: มงคล IP: 125.25.137.116 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:12:28:24 น.  

 
เข้าใจ เห็นใจ ครับ ไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอกครับ พ่อ ลูก ไม่ใด้เจอหน้ากันท่านสุรยุทธ คงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่น่าเห็นใจครับ.


โดย: นาย โกสน ศิลารัตน์ IP: 1.47.92.61 วันที่: 10 มิถุนายน 2559 เวลา:23:54:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

spaceship
Location :
Suratthani United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรา ในหลวง PimpingYourSpace.com. All you can need.
 
Friends' blogs
[Add spaceship's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.