สิ่งที่ชอบใน TFM 2 และอยากไปให้ต่อกับทั้งสองรายการ
ลูอิส เมซา โจทย์ ใน TFM 2 ได้เห็นการใส่ใจกับการทำโจทย์ที่คู่ควรกับความสามารถของเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขัน มากกว่าเรื่องขายของตรงๆ มีการคิดมากกว่า 1 ชั้น มีธีมหลักธีมรอง มีตัวแปรต้นตัวแปรรองและตัวแปรควบคุม ทำให้ได้เห็นกึ๋นของเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขัน มีการคิดงานที่มีความสร้างสรรค์ ก็อยากให้รักษาอะไรแบบนี้ไว้ แล้วจากฟีดแบ็คของผู้ชมก็เห็นว่าชอบโจทย์ในซีซั่นนี้ ก็น่าจะบอกได้ว่ารายการมาถูกทางแล้ว
The Face Men 2 ออดิชั่น รู้สึกชอบการปรับมาแบบใหม่ที่ให้เน้น ผขข ทีเดียวครบทั้งภาพถ่ายหน้าสด การเดิน และสัมภาษณ์ เพราะมันง่ายสำหรับการดูจริงๆ แต่ก่อนเป็นแบบถ่ายภาพเสร็จก็ไปปิดหน้าเดินแล้ว ดูแล้วจำใครไม่ค่อยได้ว่ามีองค์ประกอบอะไรกันบ้าง แล้วมันคงจะง่ายกับเมนเทอร์ในการประเมินคนด้วย ในแง่การทำงานมันก็ดีแล้วนะ การมองคนไม่ควรมองแบบแยกส่วน ควรจะมองแบบองค์รวมมากกว่า แล้วการประเมินการเดินแบบไม่ควรปิดหน้าหรอก ปิดแล้วก็ไม่เห็น facial expression น่ะสิ
ความต่างของการปกครอง ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจ ที่เอาบอส 3 แนวที่มีอยู่จริงๆ ตามสายงานบันเทิงและสายงานอื่นๆ ซึ่งก็จะมีไว้รองรับลูกน้อง 3 สไตล์ที่จะเข้ามาทำงานในบริษัทจริงๆ มาอยู่ในรายการทีวีได้จริงๆ จังๆ นอกจากแค่ความต่างก็สร้างเรื่องราวให้ชวนติดตามที่ต่างกัน ก็ยังได้เรียนรู้โลกการทำงานจริงๆ ให้ได้เปิดโลกกิจกรรมกันบ้าง รวมถึงเป็นประโยชน์กับผู้เข้าแข่งขัน ด้วยการปั้นให้เหมาะกับที่เด็กแต่ละคนพึงได้รับ การปกครองคนไม่มีวิธีไหนที่จะดีที่สุด แต่มันขึ้นอยู่กับว่าปกครองใครและจะปั้นให้คนนั้นเป็นอย่างไร หมดยุคสร้างการรับรู้ให้คนดูว่ามีวิธีไหนดีกว่าวิธีไหนได้แล้วแบบนั้นมันเชย
ความหลากหลาย TFM 2 ทำให้เห็นการเลือกคนที่ทันยุคสมัยมากขึ้น คือการให้ความสำคัญกับ "ความหลากหลาย" ความงามที่หลากหลายทางเพศหรือทางเชื้อชาติ อย่ายึดติดกับกรอบที่ไม่อยู่จริง ว่าผู้ชายต้องเป็นแบบไหน อย่ายึดติดกับสีผิวว่าสีไหนดีกว่ากัน อย่ายึดติดว่าชาติพันธุ์ไหนเหนือกว่ากัน แล้วทุกคนมาอยู่ในระบบเดียวกันคือมาวัดกันที่ผลงาน อยากจะบอกว่ามันดีแล้ว... สานต่อเถอะ เพราะยุคนี้มันก็คือโลกแห่งความหลากหลาย
แต่ฝั่งหญิงก็อยากเห็นทีมผู้หญิงสายขบถกันบ้าง เพราะนางแบบก็เหมือนกับตัวแทนของคนแบบนึง ไลฟ์สไตล์แบบนึง ในเมื่อโลกมันมาถึงจุด post-modern แล้ว นางแบบก็ควร post-modern กันบ้าง จริงๆ มันก็มีมาบ้างแล้ว แต่อยากเห็นมากกว่าเดิม รวมมาให้ครบทั้ง ผู้หญิงที่ไม่นิยามเพศ ทอมบอย ข้ามเพศ สาวเท่ หรืออื่นๆ ผู้หญิงสายดาร์ก รอยสักเต็มตัว สายโจ๊ก เด็กแนว ผู้หญิงหน้าแปลก และที่อยากเห็นที่สุดคือ นางแบบพลัสไซส์ ต่างชาติมีแล้ว TF Thailand ก็น่าจะปั้นบ้าง
การเลือกผู้เข้าแข่งขัน รู้สึกว่าเมนเทอร์และทีมครีเอทีฟทำงานเกี่ยวกับการเลือกผู้เข้าแข่งขันได้ดี คนดูหลายคนอาจจะไม่ชอบใจและคิดว่าควรมีคนที่หล่อกว่านี้หรือใดๆ กว่านี้เข้ามา แต่มองว่าที่เข้ามาภาพรวมออกมาดีจริงๆ รายการได้พาคนที่หลากหลายมาอยู่รวมกัน แต่ละคนมีเรื่องราวที่น่าสนใจแตกต่างกันไป แต่ในภาพรวมทุกคนตั้งใจมาแข่งจริงๆ ตั้งใจเรียน เป็นนักเรียนที่ดี และเป็นลูกน้องที่ดีของเมนเทอร์ พอถึงเวลาทำงานก็ตั้งใจ ไม่มีมาติดเล่นกัน มีพลังงานให้กับงาน
แล้วนี่คือสิ่งที่มันสำคัญกับรายการทีวีคือคนที่อยู่หน้าจอต้องมีพลังงาน แม้ว่าอาจจะมีคนที่เก่งมากเก่งน้อยต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชั้นเรียนและการแข่งขัน แต่ในภาพรวมก็ตั้งใจกันดี หรือแม้แต่คนที่ตกรอบไปแล้วแล้วได้โอกาสทำมาสเตอร์คลาสต่อ ตอนแรกก็คิดว่าจะฉุดให้บรรยากาศการแข่งขันมันดร็อป แต่ก็เปล่าเลย ทุกคนก็ตั้งใจทำงานกันจริงๆ ... ก็ต้องบอกว่าเลือกคนมากันดีแล้ว และเอาอย่างนี้ต่อนั่นแหละ
ส่วนสำหรับฝั่งหญิง ความแซบความร้ายมันก็คงจำเป็นต่อการต่อดราม่า แล้วดราม่าก็ของหวานให้คนดูขาประจำ ก็ขอแค่ว่าจะหาคนที่พร้อมกัดกันให้ตายยังไง แต่ขอคนตั้งใจมาแข่งมาทำงานนำมาก่อนด้วยเถอะ เพราะถ้าเนือยๆ กันมาอีกก็ต้องให้เมนเทอร์สรรหาเรื่องมาตีกันเพื่อเล่นจิตวิทยากับเด็กอีก แล้วเล่นกันมาทุกทางจนหามุกที่ไม่ซ้ำยากขึ้นไปทุกที
การเมนเทอร์ สิ่งที่ชอบมากๆ ใน TFM 2 คือวิถีของการเมนเทอร์ ไม่รู้ว่าเพราะกันตนาได้คนไปแล้วแล้วเจอข้อผิดพลาดหรือไม่อย่างไร แต่ที่เห็นจากซีซั่นนี้คือ การเมนเทอร์เด็กแบบให้เด็กดูแลตัวเองได้ ตั้งใจที่จะปล่อยเด็กมากขึ้น สอนให้คิดได้ด้วยตัวเองไม่ใช่รอแต่ต้องมีคนป้อนคำสั่งอย่างเดียว สอนให้คิดนอกกรอบ สอนให้มีความคิดสร้างสรรค์
จะเห็นได้ว่าเด็กในซีซั่นนี้ทำมาสเตอร์คลาสกันได้เก่งมาก ตีโจทย์ยากๆ ได้แตกด้วยตัวเอง หรือการทำแคมเปญก็ได้เห็นภาพลูกทีมมาช่วยเมนเทอร์ การเปลี่ยนจากคำถามว่า "ต้องทำอะไร" มาถามว่า "ทำแบบนี้ได้ไหม" แล้วมันคือวิถีทางที่จะก้าวไปเป็นมืออาชีพเพราะในชีวิตจริงไม่มีเมนเทอร์ตามไปดูแน่นอนและชีวิตจริงการทำงานเป็นทีมมันสำคัญ นายแบบนางแบบที่คิดเองได้และช่วยผ่อนแรงทีมงานยิ่งเป็นที่ต้องการ
ก่อนหน้านั้นที่คิดว่าท่าจะผิดทางแล้ว เมื่อเกิดการห่วงชนะจนช่วยเด็กมากเกินไป เช่น เมนเทอร์พยายามจะช่วยบอกบทเด็ก หรืออะไรอื่นๆ ที่เมนเทอร์ไปแบกรับหน้าที่ที่เด็กควรจะทำได้เอง และหลังๆ เริ่มกลายเป็นการสร้างการรับรู้แบบแปลกๆ ให้คนดู กลายเป็นว่าสิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันทำหน้าที่ของตัวเองบกพร่องกลายเป็นเมนเทอร์เป็นคนผิด ทั้งที่มันไม่ใช่เลย ตกลงรายการนี้จะยกระดับอาชีพนายแบบนางแบบโฆษณาหรือจะทำให้มาตรฐานต่ำลงกันแน่ สุดท้ายแล้วมันคือรายการ The Face หา The Face ไม่ได้หา The Best Stage Director ซึ่งกับการเมนเทอร์ใน TFM 2 ที่สอนให้เด็กเติบโตเพื่อไปเป็นมืออาชีพก็คิดว่านี่แหละมาถูกทางแล้ว
สิ่งที่ขอเพิ่มหน่อย - ตลอดมาก็มักมีการกระจุกแอร์ไทม์ไว้ที่คนที่คนสนใจ รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้คนดูเอนเอียงไปตามที่คนทำอยากให้รู้สึก ทำให้คนนึงเด่น และทำให้อีกหลายคนจืดจาง แต่ขอหน่อยเรื่องการกระจายแอร์ไทม์
- มาทำไมแค่ 10 ตอน ขอ 13 เป็นอย่างต่ำไปเลย ไหนๆ ก็เข้ามาตั้ง 18 คนแล้ว ตัดยังไงก็ตัดไม่เกลี้ยง ขาดรสชาติลุ้นสุดว่าทีมไหนจะมีคนหมดมั้ยเลย
- อยู่ PPTV ก็ดีแล้วถ้าอยู่แล้ว production ดี คุณภาพเนื้อหาดี โฆษณาคั่นน้อย ไม่ต้องดูสปอตช่องวนไปมา ก็รู้สึกดูเพลิน เต็มอิ่ม จุใจดี แต่อย่าเลื่อนเวลาบ่อยก็พอ
The Face Men 3 ตั้งแต่ TFM 1 ก็คิดว่ารายการมาถูกทางในระดับนึง สามารถทำรายการแมนๆ เตะบอลได้จริงๆ เพราะรายการประกวดผู้ชายที่ผ่านมาไม่ค่อยจะมีที่เวิร์คเท่าไหร่ ดูเป็นโจทย์ที่ยาก แต่รายการก็มาถูกทาง พอมา TFM 2 ก็ยิ่งถูกทางมากขึ้น ตีโจทย์ได้แตก เอาเรื่องแอคชั่นเข้ามาสร้างอรรถรสให้การแข่งขันและทำให้ได้ลุ้น แต่อาจจะไม่ต้องมีแคมเปญสตั๊นแมนเยอะขนาดนี้ก็ได้
เมนเทอร์ เนื่องจาก TFM 2 ทำได้ลงตัวในเรื่องของเมนเทอร์ ที่วางคาแรกเตอร์มาได้ลงตัว ตีโจทย์ความเป็นเสือ-ชะนี-เก้ง ได้ลงตัว TFM 3 คิดว่าถ้าลงตัวอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ถ้าหากจะเปลี่ยน ก็อยากให้มองมากกว่าการแค่จับคาแรกเตอร์มาชนกัน แต่อยากให้รักษาอะไรดีๆ แบบนี้ไว้คือ 3 บอสกับแนวทางและลูกๆ ที่ต่างกัน
หมู อาซาว่า ทีมเก๋าเกม เก๋าเกมในที่นี่มันต้องมาโดยธรรมชาติที่เก๋าทั้งในวงการและเก๋าทั้งในรายการ ก็คือพวกอยู่มานานแบบลูกเกด บี พี่หมู ใน TFM 2 พี่หมูก็มาสายนี้ได้ชัดมากจริงๆ ความเก๋าเกมของแกมันสุดจริงๆ การปกครองก็เก๋าเพราะมีความเป็นพ่อ มีความเป็นบอสที่รุ่นใหญ่ รวมถึงคาแรกเตอร์ที่จะชอบมีโอวาทมากมาย ถ้าลูกเกดสละแล้ว พี่หมูไม่ต่อก็หาคนมาทำแทนยากจริงๆ เพราะถ้าให้ซอนย่ามาอยู่สายนี้ก็ไม่ใช่แก ถ้าจะหาคนมาใหม่ก็จะขาดความเป็นตัวเก๋าในรายการ
พิม ซอนย่า คูลลิ่ง ทีมบ้าพลัง เมนเทอร์ผู้หญิงก็อาจจะหาแทนง่ายสุด แล้วมีคนพร้อมเสียบแน่ แต่อาจจะต้องมาดูเคมี เพราะตอนนี้ที่มันมี "ไตรนามิค" เพราะความชะนีจ๋าของซอนย่าก็เรื่องนึง แต่เรื่องสำคัญคือวิธีการทำงานและแนวทางดึงศักยภาพเด็ก ที่วิธีการนี้ไม่ควรหายเพราะมันมีเด็กที่ต้องการอะไรแบบนี้ ยิ่งเด็กผู้ชายด้วย ถ้าอยากจะให้เป็นรายการ TFM เป็นรายการแมนๆ สี่เหล่าทัพ โซเน็นจัมป์ ต้องมีอะไรแบบนี้
โทนี่ รากแก่น ทีมหัวขบถ สิ่งที่มันทำให้ TFM 2 มันน่าสนใจกว่า TFM 1 ก็คือทีมสัตว์ประหลาดของเมนเทอร์โทนี่ แล้วมันเป็นความกล้าหาญที่ทำให้รายการไปได้มากกว่าเดิม ในวงการนี้ก็มีคนที่เก่งเยอะ แต่คนที่จะกล้าและทำในสิ่งที่เชื่อแบบนี้ก็คงต้องหายาก แล้วดูโทนี่จะเสนอตัวว่าจะทำต่อ ก็น่าจับตาดูกับโทนี่ในเวอร์ชั่นที่อัปเกรดขึ้น รวมถึงเมื่อพวกสัตว์ประหลาดเห็นตัวอย่างในซีซั่นที่แล้ว คงมีตัวประหลาดมาเยอะขึ้น รวมถึงทีมป้าตือคงปล่อยพวกนี้เข้ามามากขึ้นเพื่อให้โทนี่เลือก คิดว่าสัตว์ประหลาดรุ่น 2 คงไม่ play safe ยิ่งกว่าเดิม ... สิ่งที่อยากเห็นจากโทนี่คือ อยากให้แน่วแน่กับทางที่เลือก เพราะช่วงที่โทนี่หวั่นไหวและหันมาเพลย์เซฟมันไม่ใช่เลย
The Face 5 สิ่งที่อยากเห็น TF ตีโจทย์ได้แตกมานานแล้ว แต่ที่มีสะดุดก็ ss3 เพราะเริ่มตั้งแต่โจทย์มาสเตอร์คลาสและแคมเปญที่คิดมาไม่แตกพอ... แล้วก็จะไปเหนื่อยเมนเทอร์ต้องสร้างซีนอย่างที่เห็น ความเข้มข้นมันเลยไปอยู่ที่เมนเทอร์เยอะเกินไป แต่สำหรับ TFM 2 ทีมสร้างสรรค์ได้อัปเกรดแล้ว โจทย์ยาก สร้างสรรค์ และขายของได้อย่างไม่ฝืน ก็อยากให้ TF5 ได้อะไรอย่างนี้เหมือนกัน การฟาดฟันด้วยดราม่าอยากจะมีก็มีไป แต่ขอการฟาดฟันกันด้วยผลงานเป็นหลักก่อน เพราะถ้า TF ฝั่งหญิงมันจะเป็นการนำเสนอ image ของผู้หญิง ก็อย่ามีแต่ภาพการตีกันไร้สาระเลย เพราะผู้หญิงไม่ได้ตื้นเขินขนาดนั้น
ลูกเกด พลอย หญิง วิธีการเลือกคนตามแนวทางของเมนเทอร์ และการสร้างคาแรกเตอร์ทีมจริงๆ แล้วมันมีตั้งแต่ TF1 ทีมลูกเกดเป็นทีมโมเดลจ๋าขายาว ทีมพลอยเป็นทีมหน้าสวยฟรุ้งฟริ้ง ทีมหญิงเป็นทีมสายไทยกับของแปลก อาจจะมีบางคนที่เข้าพวกบ้างแต่ภาพรวมก็เป็นแบบนี้ แต่พอหลังจากนั้นมาก็ไม่ได้มีอะไรในแบบนั้นแล้วกลายเป็นการเลือกแบบหว่านๆ เพื่อให้มีคนหลายแบบไว้สนองแคมเปญขายครัวต่างๆ ไม่ใช่แค่อะไรพวกนี้จะครอบงำเมนเทอร์ แต่ก็ได้ครอบงำคนดูไปด้วย คนดูหลายคนได้อยู่ในวังวนไปแล้วว่าการเลือกคนมีแบบเดียว หรืออยู่ในวังวนว่าการปั้นคนมีแบบเดียว แล้วคนทำต่างคือผิด... ซึ่งมันไม่จริง ... ไม่ใช่คนดูทุกคนที่ชอบวังวน คนดูบางส่วนก็ต้องการทางเลือกใหม่ และชอบความกล้าหาญ
เมนเทอร์ เมนเทอร์ฝั่งหญิงในซีซั่นใหม่นี้คงมีการเปลี่ยนแปลงยกใหญ่เลยทีเดียว ก่อนที่โผจะออกมา ก็อยากจะมีวิเคราะห์ล่วงหน้าว่า เมนเทอร์คนไหนมาแล้วจะเป็นเคมีแบบไหนให้รายการ จะมาเติมเต็มแนวทางไหนให้รายการ รวมถึงสิ่งที่อยากจะเห็นจากเมนเทอร์ขาเก่าและขาใหม่
พิม ซอนย่า คูลลิ่ง เมนเทอร์ซอนย่า ถ้าจะทำ The Face หญิงต่อ ถ้าจะน่าสนใจก็แนวอย่างที่เป็นใน TFM2 นี่แหละ คือ การเป็นเมนเทอร์บ้าพลัง พัฒนาลูกทีมแบบ "ถ้าว่ายน้ำไม่เป็น จะถีบลงทะเลที่มีปลาฉลามให้ว่ายน้ำเป็นเอง อยากรอดต้องว่ายน้ำให้เป็น ว่ายไม่ได้ก็ตาย" (ลูอิสได้กล่าวไว้) ครีเอทีฟจัดเล่นใหญ่เล่นนอกกรอบ แพ้ก็แพ้แล้วก็เล่นใหญ่ใหม่ ในฝั่งผู้หญิงไม่เคยมีอะไรสุดโต่งแบบนี้ และมันน่าจะมีอะไรแบบนี้บ้าง แล้วไอ้ความระทึกและอึกทึกมันก็สร้างอรรถรสให้รายการทีวีไปเอง เหมือนเหตุผลที่เกมโชว์ต้องออกแบบเกมยากเพราะมันสนุกกว่า
ถ้าจะทำต่อแล้วนั้นสิ่งอยากเห็นคือ บ้าพลังให้สุด กับความนอกกรอบนี่แหละที่ทำให้การทำงานของแกก็ดูน่าติดตาม สำหรับคาแรกเตอร์ก็แค่ต้องไม่เอาคนดีดเท่าแกมาอีกไม่งั้นก็จะรุงรังไป แต่คงไม่ต้องห่วงเพราะใครมารายการนี้ก็จะมาคีปลุคนางพญาทั้งนั้น
รวมถึงการรองรับความสวยอย่างหลากหลายทางเชื้อชาติ อยากเห็นทีมอินเตอร์ฝ่ายหญิง รัวอิงค์กัน พลังงานสูง ซนๆ ดีดๆ คันๆ เมาๆ แสบๆ แต่แมนๆ แม่คอยเถียงแทนเพราะลูกฉันเป็นคนดี แม่ตีกับใครลูกจะเข้าข้างเพราะแม่ฉันเป็นคนดี ชนะไม่ชนะค่อยว่ากันเพราะเน้นพ่นไฟและทำตามแม่ สไตล์คนในทีม เช่น เตรย์ซี เซย์ดีนี, ติช่า, ซอนย่าตอนสาว สถานที่รวมพลตอบสนองความ Work hard, play hard ด้วย ข้าวสาร ทองหล่อ สนามโปโล เขาชนไก่
ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น เมนเทอร์ริต้า ก็อาจจะยากกับเรื่องของสังกัดตั่งต่าง แต่ถ้าจะหาใครมาแทนเคมีของลูกเกดคิดว่าริต้าใกล้สุดแล้ว เป็นคนที่ดูรายการมาทุกเทปแล้วรู้ว่าคนดูอยากดูอะไรก็เสิร์ฟให้คนดูหมด มีทางแบบพี่หมูคือจะมีโอวาทดีๆ มาตลอด ด้านการทำงานเป็นสายควบคุมเบ็ดเสร็จและทำเพื่อให้ชนะเป็นหลักเช่นกัน แต่เพียงริต้าจะสุดโต่งกว่าทุกคนในสายนี้ คือการป้อนและประคองทุกอย่าง มีการย่อยให้แบบติวเตอร์ดาวอง มีศัพท์ช่วยจำ สอนด้วยเทคนิค คิดให้หมดและกำกับอย่างเบ็ดเสร็จ
คริส ศิริน หอวัง เมนเทอร์คริส เรื่องการทำงานเหมือนคริสเองก็มีการปรับไปตามสถานการณ์ หรืออาจมาจากการประเมินความเสี่ยงตั่งต่างๆ ภาพรวมแล้วคริสมักจะเลือกสิ่งที่มั่นใจว่าทำได้ จะไม่เสี่ยงไปหาเรื่องเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ความถนัดของคริสน่าจะเป็นเรื่องการจัดการ
สำหรับคริสจะเป็นสายไหนในรายการต่อไปนั้น... มองว่าคริสเองไม่ใช่สายแมสตรงๆ คริสคือสาวหมวยอินเตอร์ที่เกิดมาจากความเก๋และสไตล์เฉพาะตัว เป็นนางแบบที่อยู่ในนิตยสารวัยรุ่นเด็กแนวในยุครุ่งเรือง ตัวคริสเองก็มีความเป็นแนวทางเลือก ตั้งแต่การดีไซน์การเดินแบบให้เกรซที่ฆ่าพวกอนุรักษ์นิยมไปเลย หรือท่าเดินแบบแบบลูบไล้บนเวทีออลสตาร์ หรือโชว์ทีมคริสลูกเกดที่คริสเองคงมีส่วนเยอะเพราะมันมีความก็อตทาเลนท์อยู่ในนั้น
ถ้าคริสจะมาอีกก็อยากเห็นคริสเอาอะไรแบบนั้นออกมา พวกงานทางเลือก การเลือกคนที่เก๋และมีสไตล์ คนที่เป็นทายาทของคริสและพลอยหอวัง ผู้หญิงที่เป็นเด็กแนว หรือด้วยความที่คริสเป็นตุ๊ดตัวแม่ ก็อยากเห็นการปั้นทีมที่มีความหลากหลายทางเพศ มีความเป็นตัวของตัวเอง สไตล์คนในทีมเช่น จีน่า และลูกสาวทั้งหลาย เป็นต้น สถานที่รวมพล สีสม พัทยา แต่อีกแนวก็อยากดูคริสปั้นแก๊งเด็กแนวฝ่ายหญิงเช่นกัน
พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ เมนเทอร์พลอย ยากที่สุดก็ตรงที่พลอยเองก็เคยทนกระแสบ้าคลั่งของคนดูไม่ไหว แล้วคนดูรายการนี้ก็มีหลายตลาดซึ่งเลี่ยงอะไรพวกนั้นยาก สำหรับเมนเทอร์พลอยนั้นเป็นผู้เริ่มต้นสาย beauty face สาย mass ของรายการนี้ ด้วยความที่เมนเทอร์พลอย "ชอบเด็กสวย" แล้วเป็นคนที่ทำสาย beauty face ได้ประสบความสำเร็จ ปั้นนักแสดงตัวจริงอย่างคาริสา
สำหรับการทำงานต่างกับริต้าแบบสุดขั้ว ดูอยู่ระหว่างซอนย่ากับโทนี่ คนที่อยู่กับพลอยแล้วจะเวิร์คคือต้องมีพรสวรรค์และมีของมา แล้วพลอยจะมาสานต่อในขั้นแอดวานซ์ให้ จะไม่ใช่มางงๆ แล้วรอให้พลอยบอกว่าต้องทำอะไร ซึ่งพอลยดูจะไม่ชอบใจอย่างเห็นได้รำไร เพราะพลอยจะมีพื้นที่ว่างเพื่อให้เด็กเอาของมาขาย เพื่อให้เด็กได้ใช้สไตล์เฉพาะตัวของตัวเอง แล้วจะได้งานที่เป็นธรรมชาติและพิเศษ ที่พลอยถึงดูเข้าขากับโทนี่ก็น่าจะเพราะมีความคล้ายๆ กันอยู่ ... แต่พลอยคงไม่มาทางสายสัตว์ประหลาดหรอก
การวางแผนงานเมนเทอร์พลอยเป็นแนว play safe จะไม่กล้าเสี่ยงและไม่ค่อยยอมแลกอะไร มีความอ่อนไหวกับเด็กสูงซึ่งบางทีอาจทำให้ไม่กล้าพอ การเลือกเด็กของพลอยก็มีความ safe play คือต้องสวยนำ ในตัวงานอาจจะไม่อยู่ในกรอบทั้งหมด ก็ยังมีการแอบทำนอกรอบบ้าง เช่นการออกแบบซีนที่มีความแตกต่างเพื่อสร้างความพิเศษ หากพลอยคุมทีมนางเอกอีกก็คงเป็นภาพที่ต่างจากทีมนางเอกของริต้าคือ เป็นนางเอกที่ต้องดื้นรนและต้องมีไหวพริบส่วนตัวเยอะ มีความไฟต์เตอร์ สไตล์คนในทีม เช่น คาริสา กวาง เทีย เป็นต้น สถานทีรวมพล ตอบสนองชีวิตที่ต้องใช้ไหวพริบเยอะ ปฏิกิริยาต้องไว ที่ห้องเล่นเกมและโรงยิม
มาช่า วัฒนพานิช เมนเทอร์มาช่า เมนเทอร์มาช่า เป็นอีกคนที่เป็นทีมนางเอกเก่า มาช่าจะมีแนวการทำงานแบบยืดหยุ่นมากๆ เน้นภาพรวมและมูดแอนด์โทน นอกนั้นเด็กต้องมีของมาขายเอง และต้องมีไฟในตัวมาเองด้วย เมนเทอร์มาช่าเป็นคนที่มีการทำงานแบบ play safe ไม่เลือกทางเสี่ยง คือตั้งแต่มีรายการมาเมนเทอร์มาช่านี่คืออยู่ในกรอบสุดและ play safe สุด อะไรที่จะทำให้พลาดได้ง่ายก็ไม่เอาเลย
แต่สิ่งที่ play safe น้อยที่สุดคือการเลือกคน ที่เลือกตามสัญชาตญาณตัวเอง มองตาแล้วผูกจิต หรือจริงๆ อาจดูโหงวเฮ้งเป็น หรือจริงๆ อ่านประวัติแล้วฟอร์มดีก็เลยเลือก ถ้าไม่ได้ความกล้าของมาช่าแล้ว...ก็ไม่มีผู้หญิงที่ไม่เฟอร์เฟ็กต์ที่กลายเป็นเดอะเฟสเพอร์เฟ็กต์อย่างเกรซ สถานที่รวมพลทีมมาช่า งานดนตรีในสวน
หญิง รฐา โพธิ์งาม เมนเทอร์หญิง แนวทางการทำงานอาจจะไม่ชัด อาจจะเป็นคนที่กลางๆ ไม่มีลายเซ็นในการทำงานเท่าไหร่ แต่ที่โดดเด่นของเมนเทอร์หญิงคือการเลือกคนแบบหาทายาทตัวเอง ด้วยความที่เมนเทอร์หญิงไม่ใช่คนที่สวยครบพิมพ์นิยมมาตั้งแต่ต้น แต่เป็นคนที่พัฒนาตัวเองจนเป็นคนที่สวยและทรงเสน่ห์ในทางของตัวเอง เป็นสาวลึกลับและ exotic ที่หนังฝรั่งต้องการมากๆ หรือจะเรียกว่าเมนเทอร์หญิงก็เป็นคนขายสไตล์ในระดับนึง...
เมนเทอร์คนใหม่ สายที่สามารถหาเมนเทอร์คนใหม่มาเสียบได้ คือ สายนางเอก ในด้านหนึ่งเมนเทอร์ส่วนใหญ่ก็ทำสายนี้กัน ก็น่าจะหาคนใหม่ๆ มาทำได้ง่ายกว่าสายอื่นแน่ๆ เป็นสาย traditional ที่มันอาจจะดูเดิมๆ ฉะนั้นการเอาเมนเทอร์ใหม่มาใช้ก็ทำให้ได้อะไรใหม่ๆ เหมือนกัน
ซินดี้ บิชอฟ ซินดี้ บิชอฟ ซินดี้ก็น่าจะสไตล์การทำงานแบบพี่หมู ลูกเกด คือกำกับเบ็ดเสร็จ ดุและกดดัน แต่อาจจะไม่จ้ำจี้จ้ำไชแบบลูกเกดหรือศรีริต้า เพราะดูแกเป็นคนไม่โอบอุ้มใครมากขนาดนั้น อาจจะแบบบี คือไม่ทำก็ไม่ง้อ ไม่พร้อมก็ไปเป็นสเตจแมน แต่ใบหน้าที่ดุขนาดนั้นน่าจะไม่ต้องออกแรงเคี่ยวเยอะก็ได้ผลลัพธ์แล้ว เลยรวมๆ แล้วน่าจะออกมาเป็นพี่หมู การวางแผนงานน่าจะออกแนวรอบคอบ ประเมิน SWOT ก่อนทำอะไร ก็น่าจะสนุกดีถ้ามาเป็นเมนเทอร์คิดเยอะ ต้องคำนวณต้นทุนกำไรขาดทุนทุกแคมเปญ น่าจะเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ซิกแซก
ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ปู ไปรยา ความน่าสนใจของปู ไปรยาน่าจะเป็นแอดติจูดของปู ด้วยความที่ปูเป็นเด็กวัยรุ่นฝรั่งที่เข้าวงการตั้งแต่เด็ก มีช่วงแสบๆ แต่ก็เป็นเด็กที่มีความคิดก้าวหน้ามาก ใช้ชีวิตคุ้มแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ที่สตรองในปัจจุบัน อะไรหลายๆ อย่างของปูมองว่าน่าจะทำให้ปูเป็นเมนเทอร์ที่มีวุฒิภาวะคนนึง และมีแนวคิดอะไรๆ มาให้เด็กๆ และคนดู เรื่องคาแรกเตอร์คงจะออกมาแนวนิ่งๆ คารมคมคาย หาทางไปตลอด
แพนเค้ก ก็อาจจะยากเพราะเป็นเรื่องของการข้ามช่อง แต่เสนอชื่อกันบ่อยพอๆ กับกระทู้ประเภทเงาจากบอร์ดปาล์ม ก็จะวิเคราะห์หน่อย ความน่าสนใจของแพนเค้กคือเป็นคนเก่ง แบบหยิบจับอะไรก็เก่งไปหมด เป็น "The Face" ประจำยุคของตัวเอง และประสบความสำเร็จจริงๆ แนวทางการทำงานของแพนเค้กยังมองไม่ออกว่าจะเป็นแนวไหน ถ้าจากเซ็นส์มองว่าทั้งคาแรกเตอร์และการทำงานคงมาแนวริต้า เป็นทีมนางเอกเต็มสูบ กำกับเบ็ดเสร็จ คิดให้หมด มีความเป็นติวเตอร์
ส่วนเรื่องการทำงานกับโจทย์ จากการคาดเดา ด้วยแพนเค้กเป็นคนที่อยู่ติดที่ จะอยู่กับสังกัดเพื่อให้มีความมั่นคง ไม่เคยเป็นเรือเล็กออกจากฝั่ง ก็น่าจะเป็นสายไม่เสี่ยงและอยู่ในกรอบ คิดว่าแพนเค้กก็ต้องเจอกับพวกนางร้ายแน่นอน กับพวกที่ทำงานแบบเสี่ยงเช้าเสี่ยงเย็น หรือพวกที่ไม่มีแบบแผนและเลี้ยงลูกแบบให้อิสระ...แต่ต้องบอกว่าแพนเค้กนี่เดายากจริงๆ เพราะปกติแล้วก็รู้สึกว่าแพนเค้กก็ซับซ้อนอยู่
สัตว์ประหลาดฝ่ายหญิง แต่สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดคือ เมนเทอร์โทนี่ในฝั่งผู้หญิง เป็นเมนเทอร์รุ่นใหม่ยุค 2010s เป็นคนที่มาสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ เป็นคนที่ไม่ยึดกรอบของรายการมาก เป็นเหมือนโทนี่คือ เป็นคนที่เล่นเกมแบบไม่อ่านคู่มือและไม่ดูแคสเกมมาก่อน ซึ่งจะทำให้เป็นตัวละครที่คาดเดาไม่ถูก เป็นธรรมชาติไหลไปตามเกม เหมือนน้ำใหม่ในธารน้ำเก่า แต่ก็มีวุฒิภาวะ มีความเป็นผู้นำพอตัว ปกครองลูกน้องในแบบคนยุคใหม่ทำกัน อยากเห็นการสร้างทีมสัตว์ประหลาดผู้หญิง สถานที่รวมพล แกลอรี่ เทศกาลดนตรีอินดี้ ถนนคนเดิน ม็อบต่างๆ แต่ก็มองไม่ออกหรอกว่าใครจะเป็นผู้กล้าที่จะทำสิ่งนี้
Create Date : 09 มกราคม 2562
0 comments
Last Update : 9 มกราคม 2562 19:41:44 น.
Counter : 467 Pageviews.
