สวัสดีค่ะ
เมื่อวันที่ 8-10 พ.ย. 2551 ไปเชียงราย - เชียงใหม่มาค่ะ วันเสาร์อากาศแค่เย็น ๆ ค่ะ ส่วนวันอาทิตย์ลมหนาวเริ่มมาค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลการเดินทาง ข้อมูลโรงแรมและร้านอาหารที่แนะนำจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยค่ะ
ออกเดินทาง 8-10 พ.ย. 2551 เวลา 02.19 น. จากอุทัยธานี - นครสวรรค์ - กำแพงเพชร - ตาก - ลำปาง - พะเยา - เชียงราย ถึงดอยตุงประมาณ 09.45 น. (ถนนช่วงเลี่ยงเมืองนครสวรรค์จะมีน้ำท่วมถนนด้วยนะคะ อย่างไรขับระมัดระวังกันด้วยค่ะ ขาขึ้นเหนือน้ำไม่มากนัก ประมาณ 1 เลน แต่ตอนกลับลงมาเกือบทั้ง 2 เลนเลยค่ะ)
ถนนช่วงกำแพงเพชรไปตากไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าขากลับที่ถนนค่อนข้างเสียมากค่ะ
(ป่านขับรูดไปเลย ไม่ดีต่อช่วงล่างนะคะ แต่ว่าจะทำเวลาอ่ะค่ะ ข้ออ้าง !!!)
จากลำปางไปพะเยาเป็นถนนขึ้นเขาสลับโค้งขับสบาย ๆ ค่ะเพราะว่ารถวิ่งน้อย 4 เลนด้วย ทำความเร็วได้ แต่........ปั๊มน้อยมั่กมากค่ะ ขับถึงอ.งาวเกิดทนไม่ไหวพอเจอปั๊มด้านขวา เราเลยยูเทิร์นกลับเลยค่ะ (ไม่เสียใจเลยค่ะเพราะว่าเลยต่อมาไม่ค่อยมีปั๊มเหมือนเดิม) แล้วก็ได้จอดกินข้าวกันด้วย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง 555+ มีปั๊มก็ปั๊มร้าง.....
จากนั้นพะเยาเข้าเชียงรายเป็นถนน 4 เลนตรง ๆ ผ่านชุมชนเป็นระยะค่ะ เข้าเชียงรายผ่านวัดร่องขุ่นเดี๋ยวแวะมาตอนขากลับ ไปดอยตุงก่อนค่ะ ทางขึ้นดอยตุงจะเป็นโค้งตัวเอสขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ ถึงดอยตุง ขับไม่ยากนักค่ะ ไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ ที่ลำบากก็คือหูอื้อ (ปกติมี 2 พอขึ้นเขาทีรัยมากันตรึม หุหุ)
แบบว่า ลำปางและเชียงรายไฟแดงเยอะจริง ๆ ๆ เชียวล่ะ
เราก็ไปซื้อบัตรค่าเข้ากันก่อนเลยค่ะ
สวนแม่ฟ้าหลวง+พระตำหนัก+หอพระราชประวัติ ราคาบัตรรวม 150 บาทค่ะ
แต่ตอนที่ไปหอพระราชประวัติปิด ไม่ได้ให้เข้าชม แต่ก็จ่าย 150 อ่ะคะ งง !!!
ผู้สูงอายุและเด็กลดครึ่งราคานะคะ
สวนแม่ฟ้าหลวงค่ะ
เดินลงไปในสวนแม่ฟ้าหลวงกันก่อนดีกว่าค่ะ
รู้แร๊ะ ทำไมผู้สูงอายุครึ่งราคา เพราะว่าเป็นทางลงไปแบบนี้นิเอง
เพราะว่าส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจะนั่งรอด้านบนค่ะ
คล้ายสตอร์เบอรี่ แต่ลูกเล็ก ๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ
แวะร้านดอยตุงกาแฟคนละแก้ว
สัญญลักษณ์ของที่นี่ (เบลอใช้ได้ เหอเหอ)
บริเวณทางขึ้นก่อนถึงพระตำหนักค่ะ
อีกสักมุม
ผีเสื้อ กะ ดอกไม้
ลงมาจากดอยตุง ไม่ได้ขึ้นไปไหว้พระธาตุค่ะ เพราะว่าบ่ายมากแล้วกลัวไปแม่สายไม่ทัน
พอถึงแม่สายรถติดยาวเชียวเพราะมีถนนคนเดินปิดช่องการจราจรไป 2 ช่องให้รถวิ่งสวนทางกัน คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก วน ๆ ๆ หาที่จอดรถก็ไม่ได้เลย อดลงเดิน
ย้อนกลับมาเจอร้านขายพวกสตอร์เบอรรี่+สับปะรดภูแลตลอดแนว สาวน้อยน่ารัก นั่งขายกันตลอดเส้นทาง พอลงจอดซื้อสับปะรด ยังเสียดายไม่น่ารีบซื้อเลย หงืม ๆ แพงกว่าที่ขับเลยมาอีกสักหน่อยเป็นป้านั่งขายหลายบาทเชียวล่ะค่ะ ป้าเค้าแถมมาอีกเกือบ ๆ 2 โลแน่ะ
จากนั้นก็ผ่านมาไหว้พ่อขุนเม็งรายที่ 5 แยกพ่อขุน เลี้ยวขวา
ภาพมืดไปสักหน่อยนะคะ ไม่มีที่จอดรถด้วยเลยได้จอดไหว้แป๊บเดียว
จากนั้นเราก็ไปไหว้พระที่ วัดพระสิงห์ (เชียงราย) เพราะว่าที่เชียงใหม่ก็มีอีกที่ค่ะ
สวยดีนะคะ ตอนไปเย็นแล้วไม่ค่อยมีคนเลย
ออกจากวัดพระสิงห์ ก็มาที่วัดพระแก้วค่ะ
มีพระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ค่ะ
สวยเชียวค่ะ
มืดไปสักหน่อยนะคะ
บริเวณก่อนขึ้นไปบันไดไปไหว้จะมีบ่อเต่าค่ะ
ตอนที่ยืนดูมีเต่าตัวนึงกำลังจะขึ้นมาบนไม้ค่ะ ลุ้นแทบแย่
กลัวว่าจะหงายหลังลงไปในน้ำอีก
เดินไปรอบ ๆ วัดจะมีพระสังกัจจายน์ (เขียนถูกไหมหนอ)
และมีพิพิธภัณฑ์ที่สร้างจากไม้ สวยงามมากค่ะ
จากนั้นก็ออกมาหาโรงแรมค่ะ โทรไปที่โรงแรมธัญยา ปรากฏว่าเต็ม ก็เลยได้ที่ โรงแรมดีทาวน์อิน แทนค่ะ เข้าซอยมาหน่อย ไม่ไกลจาก 5 แยกพ่อขุนมากนัก
ห้องพักค่ะ ธรรมดานะคะ
เอากระเป๋าเข้าไปเก็บเสร็จ เราก็ขับรถออกไปข้าง ๆ ปั๊มคาร์เท็กซ์เลยไปนิดซ้ายมือจะเป็น
ร้านสลุงคำ (ตามคำแนะนำจากเว็บและบอร์ดต่าง ๆ)
ถามน้องพนง.ว่า สลุงคำ แปลว่าอะไร สลุง คือ ขัน คำ มาจาก ทองคำ
สลุงคำ = ขันทองคำ
น้ำพริกหนุ่ม
ต้มยำสลุงคำ ใส่สับปะรดให้รสชาติออกเปรี้ยวหวาน อร่อย
แกงหน่อไม้น่องกบ (น่องใหญ่มากกกกก)
ยำเห็ดหอมสด ลำแต้ ๆ
และพระเอกของเรา ไส้อั่ว
สรุป ทุกจานรสชาติถูกปาก หรือว่าหิวหนอ อิอิ
อิ่มก็กลับไปนอนเก็บแรง เตรียมเดินทางต่อ
ZzZzZz ตื่นเช้ามา โอโห คนพักที่นี่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย
นี่อีก.. ตอนเข้ามายังไม่ค่อยมีเลย โรงแรมที่เชียงรายค่อนข้างถูกนะคะ
เดี๋ยวมาเที่ยววัดร่องขุ่น
และลงเที่ยวเชียงใหม่ ในบล็อกหน้านะคะ
คิดถึงนะคะ อากาศเปลี่ยนรักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ปล. ขอบคุณของแต่งบล็อกบ้านพี่กุ้งค่ะ ปล.2 ขอบคุณเพลงจากบ้านคุณ 9A ค่ะ
|
@.......อรุณ สวัสดิ์ครับ
โปรดยิ้มรับ ไมตรีจิต
ฝากคำ ย้ำน้ำมิตร
เพราะคิดถึง จึงได้มา
@.......ฝากคำ ย้ำอักษร
เป็นบทกลอน พร่ำวอนว่า
ขอจง สุขกายา
พร้อมด้วย อายุ วัณโณ…สุขัง พลังฯ
ไม่แวะลำปางเหรอครับ สายป่าน