หลายท่านเชื่อว่าการให้เด็กกินน้ำตาลมาก จะทำให้เด็กซน ไฮเปอร์ แต่นั้นเป็นการกินจำนวนมาก จนสะสมเป็นแหล่งพลังงานแก่เด็กซน การกินน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม จะให้ผลตรงข้าม คือ ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง เป็นยากล่อมประสาท ทำให้ไม่ฟุ้งซ่าน ในลักษณะเดียวกันกับการกิน แป้งจากข้าวเหนียว ที่เรามักจะรู้สึกหนักท้อง และง่วงนอน กันค่ะ
มีการศึกษา ผลของระดับน้ำตาล ในเลือด กับอารมณ์ คือ............................
น้ำตาลที่เราได้รับเข้าไป จะทำให้ ตับอ่อน ปล่อยอินซูลิน เข้าสู่กระแสเลือด อินซูลินส่งผลให้ ทริปโตเฟน เพิ่มตาม ผลของทริปโตเฟน จะไปทำการกระตุ้นสมองให้หลั่งสาร เซอโรโตนิน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กล่อมประสาท และลดความเครียด แต่ปัจจัยที่สำคัญของกระบวนการคือ ปริมาณน้ำตาลที่ได้รับค่ะ
เซอโรโตนิน เป็นสารที่เรียกว่าสารสื่อประสาท หรือนิโรทรานสมิตแทนซ์ คือสารที่สมองใช้ในการสื่อสารออกคำสั่ง ส่งความรู้สึกในเซลสมอง และเซลอื่นๆ พบว่าในคนที่ฆ่าตัวตายมักจะมีสารเซอโรโตนิน น้อยกว่าคนธรรมดา มีการรักษาคนที่เป็นโรคซึมเศร้าโดยการให้ น้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม ซึ่งก็ได้ผล แต่คนไข้เหล่านี้ก็มักจะอ้วน
ปริมาณที่จะออกฤทธิ์เป็นยานอนหลับคือ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง ก่อนนอน การออกฤทธิ์จะออกฤทธิ์ หลังกิน 5 นาที อาจผสมในน้ำผลไม้ก็ได้ แต่อย่ารับประทานร่วม โปรตีน หรือไขมัน เพราะ โปรตีนบางตัวยับยั้ง เซอโรโตนิน บางท่านอ่านแล้วจะไปรับประทานลำไยสักครึ่งกิโลก่อนนอน ขอบอกว่าไม่ได้ผลนะค่ะ น้ำตาลในผลไม้ ใช้ไม่ได้เหมือนน้ำตาลทรายขาวค่ะ เพราะเป็นน้ำตาลคนละชนิดกัน
ข้อควรระวัง*** การรับประทานน้ำตาลต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้ค่ะ เนื่องจากคุณค่าทางโภชนาการคือให้พลังงาน ควรเว้นระยะการใช้ หรือใช้เท่าที่ควร สำหรับบางท่านที่ลองแล้วไม่ได้ผล ก็ให้หยุด นั้นแสดงว่าองค์ประกอบของโครงสารในสมองท่านแตกต่างจากคนทั่วๆไป ซึ่งมักจะได้ผลค่ะ เนื่องจากท่านอาจจะมีสารที่ออกฤทธื์ต้าน เซอโรโตนิน อยู่ในเลือดได้ค่ะ