Let's Go Green...
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

เรื่องของฟัน

ต้นเดือนมกรา ฟันน้ำนมซี่แรกของแจสมินหลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งตัว แจสมินกินวาฟเฟิลเป็นอาหารเช้า แล้วก็ยื่นฟันซี่จิ๋วมาให้แม่ดู กรี๊ดค่ะ กรี๊ด ตกใจ ไม่รู้ว่าฟันเค้าโยกอยู่มากขนาดหลุดออกมาได้ และไม่นึกว่า เด็ก 6 ขวบฟันน้ำนมหลุดกันแล้ว (ตอนหลังลูกๆมาเล่าว่าเพื่อนๆเค้าฟันหลอกันไปหลายคนแล้ว แ่ม่น่ะเชย) แจสมินฟันหลุด อเคชาร้องไห้จ๊ากเลย ไ้อ้เราก็นึกว่าสงสารแจสมิน เปล่าเลยค่ะ อยากฟันหลุดบ้าง อยากทำอะไรเหมือนๆกัน แม่ก็กลุ้มไปเพราะไม่สามารถกำหนดได้ว่าฟันใครจะหลุดก่อนกัน


(หลอไปหนึ่งซี่)


หลังจากฟันแจสมินหลุดไป ก็ได้เวลาพาสองสาวไปหาหมอฟันค่ะ เช็คสุขภาพฟันประจำปี อเคชาไปก่อน ผลปรากฏว่าฟันผุลึกสองซี่ คนร้องไห้คือแม่กับพ่อค่ะ สงสารลูก สงสารมาก ไม่อยากให้เค้าต้องเจ็บตัวเลย คือเรารู้ว่ามันเจ็บ ก็เลยสงสารลูกไปกันใหญ่ ขอโทษขอโพยลูกด้วยว่าแม่น่ะไม่ดีเอง ไม่ดูแลสุขภาพฟันให้ลูกดีมากพอ

อเคชาโดนทำฟันแบบยิ่งใหญ่ค่ะ หมอฟันเด็กให้ทานยาให้หลับก่อนไป ไปถึงร้านหมอ ต้องอุ้มเด็กหนัก 40 ปอนด์ (ประมาณยี่สิบกิโล) หลับสนิทเข้าไปห้องทำฟัน พอหมอเริ่มกระบวนการ โอย อเคชาร้องจ๊ากเลย แต่หมอให้ดมแก๊สหัวเราะ ให้ช่วยผ่อนคลาย แต่ก็ยังร้องจ๊ากๆ คนเป็นแม่ยืนน้ำตาไหลพรากๆอยู่ด้านนอก ในห้องรอ หมอฟันเดินมาบอกว่า ร้องจ๊ากๆแต่ไม่ได้เจ็บหรอก และหลังจากนี้ก็จะจำไม่ค่อยได้ เพราะเค้าแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่คนที่ได้ยินเสียงลูกร้อง และจำได้ทุกขั้นตอนคือ แม่คนนี้ ฮือๆๆๆ เศร้ามาก อเคชากลับบ้านมา สลึมสลือ มีครอบฟันเหล็กสองซี่ เท่ห์ไม่หยอก หมดค่าทำฟันไป 1,200 เหรียญเท่านั้นเอง (ประกันจ่ายคืนมา 50%)

ถึงคิวแจสมินไปหาหมอฟัน ใจแม่กับพ่อตุ๊มๆต่อมๆ กลัวจะผุอีก แต่ไม่มีผุเลยค่ะ ดีใจจริงๆ (หมดตูดแล้วค่ะ ไม่มีตังส์จ่ายค่าทำฟันแล้ว) พอกลับมาบ้านได้อาทิตย์กว่าๆ เอ๊ะอะไรดำๆ เป็นจุดจิ๋วๆติดฟันกรามของแจสมิน พยายามแปรง ขูด สารพัด เจ้าจุดดำจิ๋วๆนี่ก็ไม่ออก เดือดร้อนต้องโทรไปนัดหมอฟันอีกแล้ว ปรากฏว่าหลุมร่องฟันลึกค่ะ ต้องเคลือบหลุมร่องฟันไปอีก 2 ซี่ หมดไปอีก 150 เหรียญ ประกันไม่จ่ายอีกต่างหาก เพราะเป็นฟันน้ำนม เค้าจ่ายแต่เคลือบฟันแท้ น่าเศร้ามาก

สรุปว่าเดือนมกราคมกับกุมภาพันธ์ ทั้งสองเดือนหมดไปกับเรื่องทำฟันค่ะ ที่อเมริกานี่นัดกันนานมากกว่าจะได้ทำ แถมแพงสุดๆๆ แพงมหาโหด แค่ค่าไปพบหมอแต่ละครั้งก็เกือบร้อยทุกครั้งเลยค่ะ ขนาดประกันที่มีดีมากๆเลยนะคะ ยังต้องจ่ายเองเยอะมาก นี่ถ้าไม่มีประกันเลยคงล่มจม (กว่านี้)

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

- อย่าปล่อยให้ลูกๆแปรงฟันกันเองค่ะ เด็กแปรงไม่ทั่ว อย่างน้อยต้องแปรงให้ก่อนนอน และควรแปรงอย่างน้อยสองครั้งต่อวัน (ที่บ้านตอนนี้แปรงหลังอาหารทุกมื้อเลยค่า แปรงกันจนเหงือกจะร่นแล้ว)

- อย่าลืมหัดใช้เดนทอลฟรอสท์ ฟรอสท์ฟันตอนกลางคืนก่อนนอนทุกคืน โดยเฉพาะฟันกรามสองซี่หลัง ผุมากที่สุด ฟันน้ำนมเนื้อฟันอ่อนมาก ผุง่ายค่ะ




 

Create Date : 28 มีนาคม 2551
15 comments
Last Update : 28 มีนาคม 2551 2:15:53 น.
Counter : 1276 Pageviews.

 

อู้งานมาเจิมบล๊อกแม่อ้อก่อนค่ะ

เีดี๋ยวแว๊บขึ้นไปอ่านจ้า

 

โดย: LittleApple 28 มีนาคม 2551 3:07:26 น.  

 

ค่าทำฟันที่นี่แพงจริง ๆ นะแม่อ้อ

สามสี่ปีก่อน เปิ้ลไปทำฟันขนานใหญ่
ครอบ porcelain crowns 3 ซี่ กับอีก 1 bridge

ประกันจ่ายครึ่งเดียวเหมือนกัน ดิชั้นต้องควักจ่ายเอง 900 เหรียญ
ปาดเหงื่อกันเลยล่ะจ้ะงานนั้น

 

โดย: LittleApple 28 มีนาคม 2551 3:11:26 น.  

 

ตอนอ่านในอีเมลที่อ้อเล่าไม่คิดว่าจะน่ากลัวขนาดนี้
พออ่านในบล๊อคขนลุกเลย

แถวบ้านเรานะจะมีบรรดาหมอแก่ๆมาเปิดคลีนิคเยอะ
มีหมอฟันท่านนึง แบบว่ามารีไทร์ที่บ้านนอกนี่หน่ะ แต่ไม่อยากอยู่เฉยๆ เลยเปิดคลีนิคเล็กๆ รับคนไข้จำนวนจำกัดด้วยน่ะ คิดไม่แพง(ก็รวยไม่รู้จะรวยยังงัยแล้วอ่ะ) แล้วแกดูแลคนไข้ดีด้วย ประสบการณ์หลายสิบปีคนไข้ไว้ใจอยู่แล้ว
เพื่อนเราเป็นคนไข้อยู่ เราก็บอกนี่ถ้ามีว่างเมื่อไหร่บอกด้วยน่ะ อยากไปทำฟันกับลุงหมอคนนี้
เพื่อนก็ว่าคงจะยากเพราะไม่เคยเห็นมีใครตายเพราะโรคฟันสักที ถึงมีก็น้อยมาก

 

โดย: petunia lover 28 มีนาคม 2551 3:19:58 น.  

 

กำลังจะโดน เรื่องค่าดัดฟันของเด็กๆ เช่นกันจ้า แพงอยู่เหมือนกันเนี่ย เด็กๆทั้งสองคน ได้หน้าผอม(เหมือนหนู) ของแม่ แต่ ฟันซี่ยักษ์ของพ่อมา หมอฟันบอกต้องดัดทั้งสองคน แงๆๆ

แจสมิน โยกซี่ที่สองรึยัง? ต้องคอยดูอเคชานะ เดี๋ยวจะพยายามเอาช้อนงัดฟันให้โยก เหมือนพี่พิณ ตอนอิจฉาพี่ก้าร์ ฟันหลอ

 

โดย: *พิณ* 28 มีนาคม 2551 3:23:38 น.  

 

อืมมมม ค่ะ จะได้จำเอาไว้ถึงคราวมีลูกบ้าง อิิอิ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: thaispicy 28 มีนาคม 2551 4:21:06 น.  

 

 

โดย: CrackyDong 28 มีนาคม 2551 5:02:22 น.  

 

คราวหน้ากลับเมืองไทยก็มาทำฟันที่เมืองไทยสิคะ

 

โดย: กุง(แม่ไจ่ไจ๋) IP: 58.137.81.212 28 มีนาคม 2551 8:18:01 น.  

 

จ่ายเงินสำหรับค่าทำฟันนี่ได้ยินแล้วแทบเป็นลมจ้ะ
ลุงกับป้าเราก็อยู่ทางโน้นเหมือนกัน เค้ากลับมา
เมืองไทย 3 รอบแล้ว เค้าบอกว่ามาทำฟันเมืองไทย
พร้อมกับมาเที่ยว หมดไปแบบว่าคุ้มค่ามากกว่า
จ่ายเงินค่าทำฟันที่โน่นอย่างเดียวซ๊าอีกแน่ะ
ถึงได้ว่าเน๊าะว่า เค้ามี dentist trip ที่ไทย เพราะมัน
เป็นอย่างนี้นี่เอง เที่ยวด้วย กลับไปฟันสวยด้วย
ทำไมจะไม่เลือกเน๊าะ ...


.....

แอบยิ้มที่สองสาวเค้าอยากเหมือนกันมากเลย
ขนาดว่าคนหนึ่งฟันหลุด อีกคนยังอยากหลุดตามกัน
เอ่อ แน่ะ แต่ว่าแปลกนะ ทำไมน้องชายเราไม่ค่อย
เป็นเลยก็ไม่รู้ ... แปลกดี แฝดอะไรก็ไม่รุ

 

โดย: JewNid 28 มีนาคม 2551 8:26:34 น.  

 

ขำแม่อ้อ เสร็จจากรักษาฟันผุ ระวังต้องมารักษาเหงือกร่นอีกนะ

 

โดย: pim(พิม) 28 มีนาคม 2551 8:50:53 น.  

 

 

โดย: The Zephyr 28 มีนาคม 2551 9:43:19 น.  

 

สงสารจังเลย ตอนเด็กๆอ๊อฟเกลียดการไปหาหมอฟันมาก โตมาเริ่มทำใจได้แล้วค่ะ

 

โดย: offita 28 มีนาคม 2551 9:54:19 น.  

 

กรี๊ดๆๆ มายินดีกับฟันน้ำนมซี่แรกที่หลุดของแจสมินค่ะ
โซอี้ฟันน้ำนมหลุดเร็วมาก สงสัยต้องจัดระเบียบฟันใหม่ตอนโต ฮือ..

บ้านรี่พาสาวๆไปหาหมอฟันบ่อยๆ เพราะสาวๆไม่ค่อยร่วมมือเวลาแปรงฟัน
ถ้ามีผุจะได้รีบจัดการตั้งแต่ยังผุน้อยๆ ถ้าผุมากแล้วลึกไปไกลเรื่องจะยาว (บิลก็จะยาวด้วย อิอิ)

 

โดย: ShiEri 30 มีนาคม 2551 10:27:35 น.  

 

ได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่าค่าทำฝันทางโน้นแพงมาก ยังดีนะคะมีประกันจ่ายให้ด้วย แล้วตอนนี้เด็กๆๆ สบายดีนะคะ

 

โดย: นู๋ตู่ (lovetoorayong ) 30 มีนาคม 2551 19:55:39 น.  

 



สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ แม่ลูกแฝด


ฝากปะแป้งสงกรานต์ให้สองสาวด้วยนะคะ...

 

โดย: นางฟ้าของชาลี 13 เมษายน 2551 12:28:10 น.  

 

โอ้โห ไม่แวะมานาน โตเป็นสาวกันหมดแล้วค่ะ
แพงจริงๆน๊ะคะ ค่าหมอฟันประเทศนี้
ว่าแล้ว เรากลับไปทำฟันของเราที่เมืองไทยกันดีกว่านะคะ ฮา

 

โดย: เขียนค่ะ IP: 74.78.141.219 18 เมษายน 2551 9:18:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แม่ลูกแฝด
Location :
Eastern United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แม่ลูกแฝด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.