ประกันสังคม จะขยายความครอบคลุมไปถึงครอบครัว

ที่มา : วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 13:14:11 น. มติชนออนไลน์
"ยาวหน่อย แต่อ่านให้จบนะค่ะ ของดีมีประโยชน์ค่ะ ไม่เกิน 2 นาทีก็จบแล้วหน้านี้"

"ประกันสังคม" จะขยายความครอบคลุมไปถึงครอบครัว"

โดย พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา


มีข่าวว่าสำนักงานประกันสังคม (1) จะส่งร่างแก้ไขพ.ร.บ.ประกันสังคมให้กฤษฎีกาเพื่อพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาให้แก้ไขสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนให้ขยายครอบคลุมภรรยา(สามี)และบุตรของผู้ประกันตนจากระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า(บัตรทอง)ไปอยู่ในระบบประกันสังคม



จากข่าวนี้ยังมัข่าวเพิ่มเติมว่า เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช)กล่าวว่าจะต้องของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มเป็น2,500 บาท เนื่องจากการโอนภรรยาและบุตรของผู้ประกันตนออกจากระบบบัตรทอง จะทำให้สัดส่วนคนสูงอายุในระบบบัตรทองเพิ่มมากขึ้นและงบประมาณค่ารักษาพยาบาลต้องถูกโอนย้ายไปยังระบบประกันสังคมด้วย



ที่จริงแล้วประชาชนที่เป็นลูกจ้างและเป็นผู้ประกันตนที่มีอยู่ประมาณ 9 ล้านคนนี้ต้องนับว่าเป็นกลุ่มประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิในการดูแลรักษาสุขภาพเหมือนประชาชนกลุ่มบัตรทองหรือกลุ่มข้าราชการและครอบครัวที่ได้รับสวัสดิการค่ารักษาจากทางราชการ



ทั้งนี้ประชาชนกลุ่มบัตรทองได้รับความคุ้มครองในการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และ ตรวจร่างกายก่อนเกิดโรค รวมทั้งได้รับการรักษาแ ละฟื้นฟูสุขภาพทุกชนิดโดยไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเลยโดยรัฐบาลเป็นผู้จ่ายแทนทั้งหมดผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยมีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช) เป็นผู้บริหารจัดการกองทุน



ส่วนประชาชนกลุ่มข้าราชการและครอบครัวนั้นเป็นกลุ่มคนที่ยอมรับราชการโดยได้รับเงินเดือนน้อยกว่าผู้ที่มีคุณวุฒิเดียวกันในภาคเอกชนและได้รับสวัสดิการในการรักษาพยาบาลทุกชนิดเหมือนกับประชาชนกลุ่มบัตรทอง



แต่ประชาชนกลุ่มที่เป็นลูกจ้างเอกชนและส่วนมากก็คงเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย (เพราะกลุ่มที่มีรายได้สูงบริษัทก็อาจจะมีการประกันสุขภาพเอกชนไว้คุ้มครองให้อีก) กลับเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องจ่ายเงินเดือนค่าจ้างของตนเองทุกเดือนประมาณ3-5 เปอร์เซ็นต์ จึงจะมีสิทธิได้รับการดูแลรักษาสุขภาพจากกองทุนประกันสังคมและสิทธิค่ารักษาพยาบาลก็น้อยกว่าสิทธิของประชาชนบัตรทองและกลุ่มครอบครัวข้าราชการคือไม่ครอบคลุมการป้องกันโรคและการตรวจสุขภาพก่อนเกิดโรค อีกทั้งเมื่อเกิดความ “เสียหาย” จากการรักษาแล้วกลุ่มผู้ประกันตนก็ไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเหมือนกลุ่มประชาชนบัตรทองที่สามารถร้องขอเงินนี้ได้สูงสุดถึง200,000 บาท( โดยไม่มีข้อห้ามไปฟ้องศาลขอรับค่าเสียหายได้อีก) ตามมาตรา 41ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. 2545



ฉะนั้นจากเหตุผลข้างต้นจึงกล่าวได้ว่าประชาชนกลุ่มประกันสังคมเป็นผู้ที่ถูกรัฐบาลปฏิบัติอย่างไม่เสมอภาคและไม่เท่าเทียมกับประชาชนกลุ่มอื่น



สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ.2545ได้มีความพยายามที่จะรวมกองทุนประกันสังคมเข้าไว้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมาหลายปีแล้วแต่ถูกคัดค้านจากผู้ประกันตนตลอดมา



แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้เสนอให้รวมเอาคู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน เข้ามาใช้กองทุนประกันสังคมในการดูแลรักษาสุขภาพ



ถ้าการรวมเอาคู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตนมาใช้กองทุนประกันสังคมโดยการนำงบเหมาจ่ายรายหัวจากกองทุนหลักประกันสุขภาพมาด้วย ก็น่าคิดว่ารัฐบาลควรต้องเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวเหมือนบัตรทองให้แก่ผู้ประกันตนทุกคนด้วยจึงจะทำให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิในด้านการดูแลรักษาสุขภาพอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกับประชาชนกลุ่มอื่นๆในประเทศไทย



แต่ถ้าการรวมเอาคู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตนมาใช้บริการดูแลรักษาสุขภาพโดยใช้เงินของกองทุนประกันสังคมเท่านั้นโดยไม่มีการนำเงินเหมาจ่ายรายหัวจากงบบัตรทองมาให้ด้วยก็เท่ากับกองทุนประกันสังคมต้องใช้เงินของผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นมาใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้นเพราะมีการเพิ่มจำนวนคนมากขึ้น



จากข่าวหนังสือพิมพ์นี้ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่าการขยายสิทธิคุ้มครองคู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตนจะไม่เป็นภาระแก่สำนักงานประกันสังคมเพราะรัฐบาลจะเป็นผุ้อุดหนุนงบประมาณส่วนที่เพิ่มขึ้นและจะมีการประชาพิจารณ์แก้กฎหมาย 4 ภาค และสปส.จะเสนอแนวทางการแก้กฎหมายผ่านรัฐสภาให้แล้วเสร็จในการประชุมรัฐสภาสมัยนี้อย่างแน่นอน



ผู้ประกันตนส่วนมากยังมีความคิดเห็นเสมอว่า สิทธิในการดูแลสุขภาพในระบบประกันสังคมนั้นดีกว่าสิทธิบัตรทอง แต่ในฐานะที่ผู้เขียนเรื่องนี้เป็นบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้รู้เห็นว่าสิทธิการรักษาพยาบาลในระบบประกันสังคมนั้นด้อย(หรือน้อยกว่า)สิทธิของประชาชนกลุ่มบัตรทองดังกล่าวข้างต้น



แต่ถ้าจะครอบคลุมสิทธิการประกันสังคมอื่นๆที่ไม่ใช่การรักษาพยาบาลหรือการดูแลสุขภาพแล้วซึ่งความครอบคลุมด้านอื่นๆของกองทุนประกันสังคมที่จะเพิ่มให้คู่สมรสและบุตรนั้นได้แก่ค่าชดเชยการขาดรายได้ ทุพพลภาพและเสียชีวิต (ส่วนค่าคลอดบุตรได้อยู่แล้ว)ให้แก่ คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน ก็นับว่าเป็นปรธโยชน์แก่ครอบครัวผู้ประกันตน

ในต่างประเทศที่เป็นต้นแบบของการประกันสังคมที่นำมาปฏิบัติในประเทศไทยนั้นเงินของกองทุนประกันสังคมจะใช้ในกรณีอื่นๆทั้งหมดเหมือนกองทุนประกันสังคมของประเทศไทยรวมทั้งจ่ายบำนาญด้วย แต่จะไม่ต้องรับผิดชอบคุ้มครองการรักษาพยาบาลหรือการดูแลรักษาสุขภาพเลย โดยนายจ้างจะต้องรับผิดชอบการประกันสุขภาพแทนลูกจ้าง เหมือนการที่รัฐบาลต้องจ่ายค่าประกันสุขภาพแก่ข้าราชการไทยที่แป็นลูกจ้างรัฐบาลนั่นเอง



ฉะนั้น ท่านผู้ประกันตนทั้งหลายควรออกมาเรียกร้องสิทธิในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของตนให้เสมอภาคและเท่าเทียมกับประชาชนอื่นๆและขอให้รัฐบาลยกเลิกการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนี้โดยเร็ว



ส่วนเงินประกันตนที่ลูกจ้างต้องจ่ายสมทบกับนายจ้างและรัฐบาลนั้นควรต้องนำไปใช้จ่ายในสิทธิประกันสังคมอื่นๆทั้งหมดโดยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพก็จะทำให้กองทุนประกันสังคมมีเงินจ่ายค่าสวัสดิการอื่นๆ เช่น การว่างงานการหยุดทำงานเวลาป่วย พิการ รวมทั้งมีเงินจ่ายบำนาญได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

Create Date : 01 กันยายน 2552		0 comments
Last Update : 1 กันยายน 2552 16:45:46 น.
Counter : 402 Pageviews.
Share Tweet