ฝึกให้ชิน
#ฝึกให้ชิน
วิธีปฏิบัติจริง ๆ อย่ามัวคิดว่าจะต้องนั่งขัดสมาธิจะต้องนั่งพับเพียบเสมอไป ถ้านึกถึงภาพพระเวลาเดินไปเดินมาทำการงานก็ดี ไปธุระก็ดี ให้นึกถึงไว้เป็นปกติให้ชิน ถ้าจะถามว่าทำอย่างนี้ได้หรือ ก็ต้องตอบว่าทำได้ เพราะอาตมาทำมาแล้ว #เราเดินไปถ้าคุยกับใครเราก็คุย #เวลาว่างจากการคุยนึกถึงภาพพระให้นึกถึงทันทีทันใด #คำว่าเห็นคือนึกเห็นนะ #นึกจำภาพได้ #ไม่ใช่ภาพพระลอยมาที่หน้า ภาพพระลอยมาอันนี้ช้าจะไม่มีผล มันจะเป็นอุปาทาน
ต้องการให้นึกถึงภาพพระองค์นั้น แต่บางทีเรานึกถึงภาพพระพุทธรูปท่านนั่ง ชอบใจองค์นั้น บางครั้งดูเห็นไปเห็นมา เห็นมาเห็นไปกลายเป็นพระนอน บางทีกลายเป็นพระยืน อันนี้ก็ปล่อยไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล คือจะนึกว่าเป็นภาพพระนั่งก็ดี พระนอนก็ดี พระยืนก็ดี ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน สนใจแค่พระพุทธเจ้าอย่างเดียวอย่างนี้พอ
ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททำได้อย่างนี้ทุกวัน เอาทุกวัน ถ้าจะถามว่าทำเวลาไหน ก็ต้องตอบว่าไม่มีการจำกัดเวลา การอยากจะนึกถึงพระพุทธเจ้าเวลาไหนก็นึกเอาเวลานั้นตามชอบใจ เวลาทำงานก็ได้ เดินอยู่ก็ได้ อาบน้ำอาบท่านึกขึ้นได้ รับประทานอาหารก็ได้ ไม่ได้เลือกเวลา ถ้านึกขึ้นมาเมื่อใดจิตเห็นภาพเมื่อนั้น ทุกครั้งที่นึกถึงเห็นภาพทันทีทันใด แสดงว่าเวลานั้นท่านมีฌานในพุทธานุสสติกรรมฐาน พยายามทำให้ชิน
ถ้ามีฌานในพุทธานุสสติกรรมฐานอย่างนี้นะ เวลาท่านจะตายขอยืนยันว่าการตายของท่านจะไปอบายภูมิไม่ได้ คำว่าไปไม่ได้เพราะเราไม่อยากไปแล้ว ก็เวลาถ้าป่วยหนัก ๆ พอจะเริ่มป่วย แค่เริ่มป่วยเพราะจิตมันชินภาพพระพุทธรูปก็ดี ภาพพระพุทธเจ้าก็ดี จะเห็นตามปกติ เอาพระพุทธรูปก็แล้วกันนะ เราเคยเห็นพระพุทธรูปสีเหลืองตามปกติที่เราเห็น จับพระองค์ใดองค์หนึ่งเข้าไว้ตามความพอใจ
ถ้าอาการป่วยเกิดขึ้น อาการป่วยให้สังเกต อาการป่วยคราวนั้นแม้จะเริ่มป่วยเบื้องแรกจะไม่มากนัก แต่การป่วยจริง ๆ มันจะหนัก แม้มันจะยังไม่ตายก็ตาม ภาพพระจะมีการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกจะเห็นภาพพระองค์นั้นชัดขึ้น เพราะอะไร เพราะว่าร่างกายเริ่มป่วย จิตเริ่มมีความมั่นคงในพุทธานุสสติมากขึ้น มันทำงานเองโดยอัตโนมัติ
ถ้าการป่วยหนักขึ้นเราป่วยนานเข้าจิตทรงตัวนานเข้า ภาพพระจะเริ่มเปลี่ยนแปลง อันนี้ต้องปล่อย อย่าไปฝืนอย่าไปคิดว่าผิด สมมุติว่าจากสีเหลืองจะค่อย ๆ คลายจากสีเหลืองจางมาทีละน้อย ๆ ค่อย ๆ คลายนะ ต่อไปถึงที่สุดก็จะกลายเป็นสีขาวทั้งหมด ถ้าเห็นภาพพระเป็นสีขาวทั้งหมดก็ถือว่าเป็นอุปจารสมาธิเต็มอัตรา ตอนนั้นกำลังใจจะมีความั่นคงมากในพุทธานุสสติกรรมฐาน จิตจะเริ่มเข้าใกล้ฌานเต็มที
ถ้าเห็นภาพสีขาวได้ตอนนั้นก็ลองคิด คิดเอานะไม่ต้องพูด นึกว่าขอภาพพระพุทธรูปจงอยู่สูงเหนือศรีษะ ภาพพระจะไปตามนั้น ขอภาพพระพุทธรุปจงอยู่ข้างหน้า อยู่ข้างหลัง อยู่ข้างซ้าย อยู่ข้างขวาก็ตามจะเป็นไปตามนั้นตามต้องการอย่างนี้ ถือว่าจิตมีกำลังสูงใกล้จะถึงฌานสมาบัติ เขาเรียก #อุปจารฌาน
ถ้ากำลังสมาธิเพียงเท่านี้ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎกว่า ถ้าจิตทรงถึงอุปจารสมาธิมั่นคง เวลาตายจากความเป็นคนจะเลือกสวรรค์ชั้นไหนอยู่ก็ได้ตามใจชอบ ที่สุดแห่งที่เราจะพึงได้นะ ต่อไปถ้าบังเอิญถ้ายังไม่ตาย ยังอยู่ จิตใจก็มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ต่อไปก็พระจะจับสีขาวทึบ จะค่อย ๆ กลายเป็นแก้วทีละน้อย ๆ เป็นแก้วใส ในที่สุดก็เป็นแก้วเต็มองค์ทั้งองค์ เป็นแก้วทั้งหมด ถ้าเป็นแก้วใสทั้งหมดเต็มองค์อย่างนี้เป็น #ฌานที่ ๔
คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ที่มาจากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๑๙ หน้า ๘๘ - ๘๙ คัดลอกโดย พัชรินทร์ อนันต์รัตนไพศาล น้อมถวายพระรัตนตรัย ... สาธุๆๆขอบพระคุณที่มาจากเฟสบุค พัชรินทร์ อนันต์รัตนไพศาล 25กค2560 https://m.facebook.com/groups/380866748706029?view=permalink&id=1286136461512382 ...
...
Create Date : 25 กรกฎาคม 2560 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2560 13:35:35 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2468 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อรทัย IP: 1.46.79.133 วันที่: 25 ตุลาคม 2562 เวลา:10:24:49 น. |
|
|
|
|
|