ถึงผู้ชายคนนึง...ที่ห่างไกล...
ไม่รู้ว่าทำไม...แค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะนึง...มันจะส่งผลยาวนานถึงวันนี้ แค่เพียงความชิดใกล้...ที่ทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไป...
ต.ค ปี 2002 เค้า...คนที่เข้ามาในชีวิตของฉันด้วยความ บังเอิญ จากการ chat ที่ฉันหวังเพียงเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองและประจวบเหมาะกับที่ฉันไม่อยากรบกวนเพื่อนๆที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบเอนท์กันอย่างขะมักเขม้น...
เค้า....เข้ามาลบเลือนความเหงาในหัวใจของฉัน...และเข้ามาดูแลให้คำปรึกษาในเวลาที่ฉันทุกข์ใจ... ไม่ว่าฉันจะผิดหรือถูก เค้าจะให้คำปรึกษาที่ดีเสมอ แม้ว่าบางครั้งจะน่าหมั่นไส้ที่ถูกหลอกด่าบ้างก็ตาม ....
ตั้งแต่นั้นมา...ทุกๆเย็น ฉันจะมาเล่นเนตอยู่ เพื่อคุยกับเค้าเกี่ยวกับเรื่องที่โรงเรียนบ้าง คนที่ฉันแอบชอบบ้าง เรื่องงานของเค้าบ้าง เรื่องสัพเพเหระต่างๆ บางครั้ง ฉันก็ร้องไห้ไปคุยกับเค้าไป เพราะ เรื่องร้ายต่างๆ เค้าก็รับฟังและให้คำปรึกษาที่ดีทุกครั้งไป....
บางครั้ง...ฉันหายหน้าไป...เค้าก็เมล์มาถามถึงว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ฉันแค่เพียงอ่านหนังสือเตรียมสอบเท่านั้นเอง...นึกแอบดีใจที่ยังมีคนเป็นห่วงเป็นใยทั้งๆที่เราไม่เคยเจอกันเลย...
ผ่านไป 4 เดือน เค้ามาบอกว่า เค้าชอบฉัน.... ฉันอึ้งไปเล็กน้อย...ฉันปฎิเสธไป แต่ความจริงแอบดีใจอยู่เล็กๆ ...แต่เราก็ยังคุยกันอยู่เหมือนเดิม แต่ที่แปลกก็คือ ฉันไม่โทรหาคนที่ฉันชอบหลายวัน จนบางครั้งไม่โทรเป็นสัปดาห์ก็มี....
ก่อนวันเกิดฉัน 2 วัน ... เค้าขอเป็นแฟนกับฉันอีกครั้ง ... คราวนี้ ความรู้สึกของฉันต่อเค้าเปลี่ยนไปแล้ว...เป็น "รัก" ... มันแปลกนะ ที่รู้สึกอย่างนี้กับคนที่อยู่อีกซีกโลกนึงอีกยังไม่เคยเห็นหน้า พูดคุยกันซึ่งๆหน้ามาก่อน แต่ทำไงได้ล่ะ....มันรู้สึกไปแล้ว!
ตอนนี้...ผ่านมาแล้ว 3 ปีสินะ ที่รู้จักกันมา ความรักของเราก็ยังเหมือนเดิม แม้อาจจะจืดลงไปบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายเราก็ให้อภัยกัน เป็นห่วงเป็นใยเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกที่เรียกว่า "รัก" ล่ะ เหมือนเดิมหรือว่าเปลี่ยนไป....
สำหรับเค้า...ฉันไม่รู้ว่า เค้ารักฉัน มากขนาดไหน ... เค้าบอกอยู่เสมอว่า การที่พูดคำว่า "รัก" โดยที่ไม่ได้รู้สึกกับคำพูดนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับ การหลอกลวง และสักวัน คำว่า "รัก" ก็จะหมดความหมาย กลายเป็น แค่ "ลมปาก" เท่านั้น
แต่...
สำหรับฉัน... เค้าเป็นเหมือนดวงตะวันของฉัน และฉันเปรียบเหมือนกับ ต้นไม้ต้นนึง ... ที่ต้องการแสงตะวัน แม้ว่าฉันต้องการ น้ำหรืออาหาร แต่ชีวิตฉันจะไม่สมบูรณ์แน่ ถ้าต้นไม้ต้นนี้ขาดดวงตะวันไป...
เมื่อไรที่ดวงตะวันร้อนแรง หรือ มืดลง ... มันหมายถึงว่า ต้นไม้ต้นนี้อาจจะถูกแผดเผาหรือเหี่ยวเฉาตายได้อีกไม่นาน...แม้ว่าดวงตะวันนั้นไม่ได้ตั้งใจก็ตาม...
ต้นไม้ต้นนี้ได้หวังว่าสักวันนึง...ดวงตะวันจะเคลื่อนตัวเข้ามาหาต้นไม้ต้นนี้อีกครั้ง...เพื่อเติมเต็มช่องว่างความห่างไกลให้กันอีกครั้ง เหมือนดังวันวาน แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพียงครั้งนึงในรอบปี มันก็เพียงพอแล้ว ...
...เพียงพอแล้วจริงๆ ...
Create Date : 03 กันยายน 2548 |
|
8 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2548 20:57:01 น. |
Counter : 464 Pageviews. |
|
|
|
พอดีเพิ่งได้ยินเรื่องแบบนี้จากคนใกล้ตัว
การได้ยินด้วยหู กับการอ่านเนี่ย
ให้ความรู้สึกต่างกัน
การเข้ามาอ่านใน blog เนี้ย
ให้ความรู้สึกละเมียดละไมกว่า คงเพราะไม่ได้ยินเสียง
ถ้า จขบ. พูด ไม่รู้ว่าจะได้ยินเสียงร้อนรอตอนไหนตอนนึง
ของเรื่องนี้รึเปล่า
หรือว่าจะสามารถทำเสียงได้เย็น สงบ
อย่างตอนจบของ blog อันนี้
ที่บ้านเคยบอกเรา ตอนไปเรียนต่อว่า
คนที่เข้ามาในชีวิตน่ะ เหมาะกับเราในช่วงชีวิตหนึ่ง
แต่อาจจะไปกับเราไม่ได้สุดทาง
ถ้าเป็นคนที่เหมาะกับเราจริง ๆ
เราจะไม่ย้อนมาถามว่าเค้าเหมาะกับเรา
จนกว่าเราจะเริ่มมองเห็นปลายทาง ที่ต่างกันออกไป
รุ่นเราที่บ้านยัง'เด็ก' จำกันมาได้หมด
แต่ยังมองไม่เห็นอย่างที่เค้าบอก
เอามาบอกให้ฟัง น่าจะรุ่น ๆ เดียวกันนะ
ไม่รู้จะได้อะไรบ้างไม๊ จากที่ที่บ้านเรามักจะบอกพวกเรามา
ถ้าไม่ชอบใจที่เราเข้ามารบกวน
ขอประทานโทษนะคะ