ดูง่าย ทำง่าย แต่พอเพียง
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
มาร์ก โมเบียส

ราชาของตลาดหุ้นเกิดใหม่คนหนึ่งของโลกในยามนี้คงหนีไม่พ้นชื่อของ Mark Mobius ผู้บริหารกลุ่มกองทุน Franklin Templeton Funds ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนกว่า 30 กองในตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก ผมเคยพบและพูดคุยกับ “ยูล บรินเนอร์” แห่ง วอลสตรีทคนนี้ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนและบริหารการเงิน ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องให้ข้อมูล แก่นักลงทุนคล้าย ๆ กับ IR หรือนักลงทุนสัมพันธ์ในปัจจุบัน แต่เป็นช่วงเวลาย้อนหลังไปกว่า 20 ปีมาแล้ว ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า มาร์ก โมเบียส เป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเขายังไม่ดัง และยังไม่แก่ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือ เขายังเฉียบคมเหมือนเดิม เช่นเดียวกับศีรษะที่ยังล้านเลี่ยนแบบ ยูล บรีนเนอร์ ดาราฮอลลีวูดชื่อก้องโลก


ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผมจำความได้ โมเบียสไม่เคยห่างจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยเฉพาะประเทศไทย เขามา ๆ ไป ๆ และผมเชื่อว่าเขารักเมืองไทยและเขาลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นอื่น ๆ ในระยะหลัง ๆ เขามาพูดในเมืองไทยบ่อยขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มาพูดที่สถาบันศศินทร์ ผมเองไม่ได้พบโมเบียสมานาน แต่รู้สึกได้ว่าเขายังคงแข็งแร็งคึกคัก ยังสามารถทำงานหนักและเดินทางไปทั่วโลกทั้ง ๆ ที่มีอายุ 73 ปีเข้าไปแล้ว


ประวัติคร่าว ๆ ของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ เขาจบปริญญาตรีและโททางด้านการสื่อสารจาก Boston University แต่ที่น่าทึ่งก็คือ ไปจบปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของโลกทางด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ หลังจากนั้นเขาก็เข้าร่วมงานกับ เซอร์ จอห์น เทมเปิลตัน ตำนานนักลงทุนผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ของโลก เกียรติประวัติสำคัญของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ เขาได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในสิบนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในศตวรรษที่ยี่สิบจากนักลงทุนมืออาชีพ 300 คนที่ทำการสำรวจโดย Carson Group ในปี 1999


ลองมาดูกฏการลงทุนต่าง ๆ ที่ มาร์ก โมเบียส ใช้ กฏเหล่านี้ผมดึงมาจากหนังสือที่เขาเขียนชื่อ Passport to Profits ซึ่งเขาเขียนถึงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในปี 1999 หรือ สองปีหลังจากเกิดวิกฤติในเอเซียที่เริ่มจากประเทศไทย


กฎของโมเบียสข้อที่ 1. การป้องกันที่ดีที่สุดของคุณก็คือ การกระจายความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุน กฎข้อที่ 2. ความผันผวนที่รุนแรงคือคุณสมบัติของตลาดหุ้นทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตลาดที่พัฒนาที่สุด กฎข้อที่ 5. ถ้าคุณตัดปัจจัยเรื่องของอารมณ์ออกไปและกลยุทธ์ของคุณอิงอยู่กับพื้นฐานระยะยาวแล้ว คุณจะสามารถชนะทั้งในช่วงตลาดหุ้นตกและตลาดหุ้นขึ้น กฎข้อที่ 7. เวลาที่ย่ำแย่อาจจะเป็นเวลาที่ดี กฎข้อที่ 9. เมื่อข้อมูลที่จัดเตรียมโดยสถาบันระหว่างประเทศและรัฐบาลถูกเผยแพร่ออกมา ราคาหุ้นก็สะท้อนข่าวสารเหล่านั้นไปหมดแล้ว กฎข้อที่ 10. ซื้อหุ้น “ดี” ในเวลาที่ “แย่” และซื้อหุ้น “แย่” ในเวลาที่ “ดี” กฎข้อที่ 11. เวลาที่คนคิดว่าเลวร้ายมักจะเป็นเวลาที่ดี กฎข้อที่ 12. หุ้นที่คนคิดว่าแย่มักจะดี


กฎข้อที่ 14. คุณภาพของผู้บริหารเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด กฎข้อที่ 16. การอดทนรอคอยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า กฎข้อที่ 18. เวลาที่คนมองโลกในแง่ร้ายที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะซื้อ กฎข้อที่ 19. เวลาที่คนมองโลกในแง่ดีที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะขาย กฎข้อที่ 20. ถ้าคุณสามารถเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง มันก็สายไปเสียแล้วที่จะซื้อ /images/emoticons/mozilla_yell.gifหรือขาย) กฎข้อที่ 22. ซื้อหุ้นเมื่อราคาลง ไม่ใช่ตอนขึ้น กฎข้อที่ 23. ถ้าตลาดตกลงไป 20% หรือมากกว่าจากจุดสูงสุดและเราเห็นคุณค่าของหุ้น ก็เริ่มทยอยซื้อได้ กฎข้อที่ 24. เวลารักษาความเจ็บป่วยได้เกือบทุกโรค


กฎของโมเบียสข้อที่ 34. ถ้าสินทรัพย์สุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นของบริษัทได้ตัวเลขสูงกว่าราคาหุ้นในตลาด คุณก็อาจพิจารณาได้ว่า มันคือหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าพื้นฐาน กฎข้อที่ 38. มองหาบริษัทระดับรองที่มี Market Cap. หรือมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมด น้อย แต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง กฎข้อที่ 39. รอให้ตลาดหุ้นเกิด Panic แล้วก็เข้าซื้ออย่างสงบเยือกเย็น กฎข้อที่ 42. บ่อย ๆ ที่ภาพใหญ่ขัดแย้งกับภาพเล็ก กฎข้อที่ 43. โดยการศึกษาให้เข้าใจช่องว่างระหว่างภาพใหญ่และภาพเล็ก คุณจะสามารถอยู่ในตำแหน่งที่นำหน้าฝูงชนได้ กฎข้อที่ 45. ตรวจสอบดูพอร์ตของตนเองอย่างละเอียด หาหุ้นทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในเวลาหนึ่งปีหรือน้อยกว่านั้นที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นไม่มากเท่า และการคาดการณ์ในอนาคต 5 ปีข้างหน้าก็ไม่ดี พิจารณาขายหุ้นเหล่านั้นทิ้งเสีย กฎข้อที่ 46. อย่ารักษาผลการลงทุนที่ดีเยี่ยมโดยการถือหุ้นบลูชิพตัวเก่าที่ไม่เป็นบลูชิพอีกต่อไปแล้ว กฎข้อที่ 47. หากลุ่มหุ้นบลูชิพล็อตต่อไปก่อนที่มันจะเริ่มเป็นหุ้นบลูชิพ


และทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของกฎของโมเบียสที่ประยุกต์ใช้กับตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ ทั่วโลก ประสบการณ์ ที่ยาวนานผ่านร้อนผ่านหนาวมามากคงทำให้โมเบียสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตลาด หุ้นมากมายและทำให้เขาสามารถฉกฉวยโอกาสสำคัญครั้งแล้วครั้งเล่าโดยเฉพาะใน ช่วงที่เกิดวิกฤติตลาดหุ้นและการฟื้นตัวของมัน ตัวอย่างที่เราเห็นก็อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา โมเบียสได้ให้สัมภาษณ์และบอกอย่างชัดเจนว่า เขาคิดว่าตลาดหุ้นกำลังจะบูมโดยเฉพาะในครั้งนี้จะนำโดยตลาดหุ้นเกิดใหม่ และแล้วตลาดหุ้นก็บูมจริง ๆ และโมเบียสก็คงสามารถทำกำไรได้อย่างงดงามหลังจากที่เขาบาดเจ็บอย่างหนักก่อนหน้านั้น และนี่อาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดไว้ในกฎของโมเบียสข้อที่ 70. ที่ว่า ในบางครั้งคุณอาจจะต้องทำได้แย่กว่าดัชนีตลาดหุ้นเพื่อที่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะมันในอนาคต

ขอบคุณที่มา //api.settrade.com/blog/nivate/2009/05/25/551


Create Date : 25 พฤษภาคม 2552
Last Update : 25 พฤษภาคม 2552 10:23:11 น. 1 comments
Counter : 374 Pageviews.

 
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$ thanks




...........................test........................................





WWWWWWWWWWWWWWWWWWWWWWWWW


โดย: light W140 M104 IP: 125.25.193.72 วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:52:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ศีล5
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ศีล5's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.