<<
สิงหาคม 2549
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 สิงหาคม 2549
 

วันประวัติศาสตร์ - สถาปนาสมเด็จพระราชินีในรัชกาลปัจจุบัน

สถาปนา ม.ร.ว. หญิง สิริกิติ์ กิติยากร เป็นราชินี




มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่าโดยที่ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ ม.ร.ว. หญิง สิริกิติ์ กิติยากร ถูกต้องตามกฎหมายและราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนา ม.ร.ว. หญิง สิริกิติ์ พระอัครมเหสีเป็นสมเด็จพระราชินี สิริกิติ์ ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยศฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี


เมื่อพระราชพิธีราชอภิเษกสมรสตามโบราณราชประเพณีผ่านไปแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์และพระญาติใกล้ชิดได้ทูลเกล้าถวายของขวัญแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ครั้นแล้วได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานของที่ระลึกตอบแทน คือ หีบเงินขนาดเล็กมีพระปรมาภิไธยคู่ปรากฏบนหีบนั้น

ภายหลังเมื่อเสร็จจากพระราชพิธี ณ วังสระปทุม ตามโบราณราชประเพณีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จออก ณ มหาสมาคม เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในวันเดียวกันเวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี เสด็จออกประทับเหนือพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ มหินทรพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง

ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. บริเวณพระบรมมหาราชวังเนืองแน่นไปด้วยข้าราชการ และพระบรมวงศานุวงศ์อยู่ในเครื่องแต่งกายเต็มยศ ส่วนสุภาพสตรีในเครื่องเต็มยศชุดผ้ายกไหมไทยเป็นส่วนมาก ที่สำหรับเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แบ่งออกเป็นสองตอน ตอนบนคือพระที่นั่งไพศาลทักษิณเป็นที่เฝ้าสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ รองลงมาคือ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยเป็นที่เฝ้าของข้าราชการและคณะทูตานุทูต

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฉลองพระองค์ชุดจอมทัพเรือ มีพระพักตร์สดชื่นและทรงพระสรวลเล็กน้อยกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ในชุดจอมพล สวมเสื้อคลุมขลีบคอและแขบด้วยตาดทอง ส่วนสมเด็จพระราชินีทรงฉลองพระองค์ชุดสีฟ้าอ่อน กระโปรงแบบไทย เป็นผ้ายกพื้นสีฟ้า ยกดิ้นเงินยาวกรอมพระบาทซึ่งสวมอยู่ในพระบาทสีเงิน ส่วนฉลองพระองค์นั้นเป็นต่วน พันนิ่ม สีเดียวกัน ยาวรัดที่ข้อพระหัตถ์ทั้งสองข้างมีปกประดับด้วยดิ้นเงิน

สมเด็จพระราชินีประดับพระวรกายด้วยเครื่องอาภรณ์เพชร ตลอดนับตั้งแต่พระกรรณเพชรห้อยระย้ายาวประพระอังสะสร้อยพระศอเพชรสำหรับราชินี สายสะพายเหลือง ประดับด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหามงกุฎไทย และบรมวงศ์จักรี เพชรทั้งคู่สิ้นเงินค่าซ่อมแซม เป็นจำนวน ๔๘๐,๐๐๐ บาท ที่ข้อพระหัตถ์ทั้งสองประดับด้วยทองพระกรเพชรขนาดเล็ก ๑ วงและขนาดใหญ่ ๑ วงส่วนข้อพระหัตถ์ซ้ายเหนือทองพระกรทั้ง ๒ เป็นนาฬิกาเรือนจิ๋วสายเพชร พระหัตถ์ซ้ายทรงถือกระเป๋าสีเงินประดับเพชรแวววาว
ตลอดเวลา สมเด็จพระราชินีทรงพระสรวลและทอดพระเนตรมวลข้าราชการที่เข้าเฝ้าอยู่เป็นนิจ มีข้าราชบริพารติดตาม ๔ คน ในจำนวนนี้ ม.ร.ว. หญิงบุษบา กิติยากร และ ม.ล. มณีรัตน์ ซึ่งเป็นน้องของ ม.ล. บัว

ภายในพระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมาน ในพระบรมมหาราชวังเมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. เจ้าพนักงานได้จัดพระราชอาสน์คู่ไว้ทางทิศตะวันตก มีพระขันหมากพระแสงปืนตั้งบนโต๊ะ พระแสงของ้าวประดับพระเก้าอี้ เบื้องขวาพระราชอาสน์จัดที่ประทับไว้ ๔ ที่ ทางเบื้องซ้ายเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี รองลงมาเป็นพระเก้าอี้ที่ประทับของสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้าหยิงกัลยาณีวัฒนา ต่อไปทางเบื้องหลังพระเก้าอี้ทั้งสองฟากของท้องพระโรง จัดเก้าอี้ไว้ ๒ แถว เป็นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในและฝ่ายหน้า

ครั้นได้วาระศุภฤกษ์ดิถีมงคลสมัย เวลา ๑๖.๓๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี เสด็จออกประทับเหนือพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมาน พระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าละอองธุลีพระบาท พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนชัยนาทเรนทร ทรงรับฉันทานุมัติจากพระบรมวงศานุวงศ์กราบถวายบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ในการที่ได้ทรงประกอบการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสดังนี้.-

“ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท”
ในศุภวาระดิถีมงคลสมัย ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ซึ่งได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ข้าพระพุทธเจ้าบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหลาย ต่างพากันปลาปลื้มปีติ โสมนัสด้วยความจงรักภักดีที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นพลเทพแห่งพระราชจักรีวงศ์ ได้ทรงเลือกสรรค์ผู้สมควรแก่การสนองพระยุคบาท ร่วมทุกข์ร่วมสุขแบ่งเบา พระราชภาระในภายภาคหน้า ข้าพระพุทธเจ้าแลมวลสมาชิก แห่งพระราชจักรีวงศ์ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายพระพรชัยมงคลต่อ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และสมเด็จพระราชินี ขอให้ทรงพระเจริญด้วยพระชนมายุยั่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญปราศจากสรรพดรคาพาธพิบัติ จงประสบสรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล ขอให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทั้งสมเด็จพระราชชนนีเสด็จสถิตเป็นศรีแก่พระราชจักรีวงศ์ชั่วกาลนาน”

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบดังนี้.-
“หม่อมฉันและสมเด็จพระราชินีขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหลายที่ทรงอำนวยพระในการที่ได้ประกอบพิธีราชภิเษกสมรสในครั้งนี้ หม่อมฉันรู้สึกซาบซึ้งในความอารีที่ทรงมีต่อหม่อมฉัน ขอพระบรมวงศานุวงศ์จงทรงพระเจริญสวัสดิ์ทุกพระองค์”

ครั้นแล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสวรรค์พิมานโดยสถานอุตราพิมุขชาวพนักงานโคมแตร และมโหระทึกทหารกองเกียรติยศถวายเคารพแตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี คณะรัฐมนตรี คณะทูต สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนและข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสในการที่ได้ทรงประกอบการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสให้ผู้ที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทราบเกล้าทราบกระหม่อมดังนี้.-

“ท่านทั้งหลาย
ข้าพเจ้าได้เชิญท่านทั้งหลายมาประชุมครั้งนี้ เพื่อที่จะแจ้งให้ทราบว่าข้าพเจ้าได้ประกอบการราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ ธิดาหม่อมเจ้านักขัตมงคล กิติยากร ตามกฎหมายและประเพณีแล้ว เมื่อเช้าวานนี้ ณ พระตำหนักของสมเด็จพระอัยยิกาเจ้า ในวังสมเด็จพระราชบิดา ตำบลปทุมวัน เฉพาะพระพักตร์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งได้ประทับเป็นประธาน พร้อมด้วยพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการผู้ใหญ่ในสภาทั้งสองและในรัฐบาล กับเจ้าหน้าที่ทะเบียนท้องถิ่น ดังได้ประกาศให้ทราบทั่วกันแล้ว"

ครั้นแล้ว จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีรับฉันทานุมัติจากผู้ซึ่งไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในมหาสมาคมนั้น กราบถวายบังคมทูลพระกรุณาแสดงความชื่นชมยินดีและถวายพระพรมงคลดังนี้.-

“ขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ในมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานกระแสพระราชดำรัสในการที่ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์แล้วนั้น ข้าพระพุทธเจ้าในนามข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งหลายและผู้ซึ่งได้มาชุมนุนเฝ้า ณ มหาสมาคมนี้รู้สึกปลาบปลื้มและชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ถวายพระพรชัยมงคล ขอให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กับทั้งสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์จงทรงเจริญพระชนอายุยิ่งยืนนาน เสด็จอยู่ในสิริราชสมบัติเป็นมิ่งขวัญแก่ประเทศชาติ และพสกนิกรชาวไทย ขอจงพ้นจากสรรพอุปัทวันตรายมีพระราชประสงค์จำนงหมายในสิ่งใดจงบรรลุผลสำเร็จสมดังคำสัตยาธิษฐานนี้ทุกประการ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

เสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี เสด็จขึ้นเมื่อเวลา ๑๖.๓๐ น. ชาวพนักงานประโคมแตรและมโหระทึก มหารกองเกียรติยศถวายความเคารพแตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี


ครั้นวันรุ่งขึ้น คืนวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ก็ได้เสด็จไปพักผ่อนพระราชอิริยาบถ ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน ชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนกวาจะถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จหัวหินครั้งนี้ จะเรียกอย่างสามัญก็เรียกได้ว่าเสด็จ “ฮันนิมูน” นั่นเอง




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2549
2 comments
Last Update : 12 สิงหาคม 2549 20:58:32 น.
Counter : 3509 Pageviews.

 
 
 
 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ
 
 

โดย: LittleLady (LittleLady ) วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:21:09:16 น.  

 
 
 
ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ...

ว่าการใช้คำว่า "พระบรมราชโองการ" อาจจะยังไม่ถูกต้อง

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพระมหากษัตริย์จะมีพระนามอย่างเป็นทางการว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" อย่างเช่นปัจจุบัน ต้องทรงผ่าน "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก" ก่อน จึงจะทรงมีคำนำหน้าพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แต่ขณะที่ยังไม่ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะมีคำนำหน้าพระนามเพียง "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และจะยังทรงมีพระบรมราชโองการไม่ได้
จะมีได้แค่เพียง "พระราชโองการ"
และในรัชกาลปัจจุบัน มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือฉัตรมงคล ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2493

ดังนั้น ในวันที่ 28 เมษายน 2493 นั้น พระองค์คงจะยังไม่ทรงมีพระบรมราชโองการ แต่น่าจะเป็น ดังนี้นะครับ

พระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่าโดยที่ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ ม.ร.ว. หญิง สิริกิติ์ กิติยากร ถูกต้องตามกฎหมายและราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว จึงมีพระราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนา ม.ร.ว. หญิง สิริกิติ์ พระอัครมเหสีเป็นสมเด็จพระราชินี สิริกิติ์ ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยศฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระราชโองการ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี

ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า...
ทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ เป็น "สมเด็จพระราชินี" เท่านั้น มิได้เป็น "สมเด็จพระเจ้าฯ พระบรมราชินี" ซึ่งทรงมีพระบรมราชโองการสถาปนา "สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี" เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 หลังพระราชพิธีบรมราชาพิเษก

ดังนั้น พูดกันง่ายๆ
ม.ร.ว.หญิงสิริกิติ์ กิติยากร ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์อยู่ 8 วัน...
ต่อจากนั้นมาอีกกว่า 50 ปี ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ" นะครับ...

นี่เองคือข้อแตกต่างของ "พระราชโองการ" กับ "พระบรมราชโองการ"

ครูอั๋นครับ
อ.อ.อ.
 
 

โดย: kruAun (kruaun ) วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:0:47:37 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ดนย์
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ...Hello...Bonjour à tous, Je m'appelle DON...................พระจากไปใจประชาก็ว้าหวั่น...พระมิ่งขวัญอนันต์คุณการุณชาติ...พระคือพระผู้เมตตาผู้เสริมศาสตร์...พระสถิตย์ในใจราษฎร์นิจนิรันดร์ ......น้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระโสทรเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอทรงสถิตย์บนชั้นฟ้า ปวงประชาศรัทธามิรู้ลืม..........................................................“ครู” ประดุจ “เรือจ้าง” ใครช่างเปรียบ “ครู” ควรเทียบฟ้ากระจ่างกว้างไพศาล “ครู” ตักเตือนเมตตา-อภิบาล “ครู” สอนสั่งวิชาการ...วิชาคน“เรือจ้าง” ใครช่างเปรียบ “ครู” ควรเทียบแสงสว่างกลางไพรสณฑ์ เป็นแสงทองส่องชี้ชีวิตคน พระคุณล้นเกินรำพรรณจำนรรจา แม้ไม่มีข้าวตอก- ดอกไม้หอม ประดับพร้อมเป็นพุ่มพานอันหรูหรา แต่ขอนำจิตร้อยถักอักษรา ประณตน้อม “สักกาฯ” พระคุณ “ครู”...................ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้ ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล ใช่อยู่ที่เรียกว่าครูอาจารย์ ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ ให้สูงสุดกว่าสัตว์ดิรัจฉาน ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์ มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ใหญ่ยิ่ง สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง สร้างคนให้ได้เป็นตัวของตัวเอง ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู..................เกิด....เป็นครูต้องดิ้นรนทนต่อสู้ เกิด...เป็นครูในโลกนี้มีหวั่นไหว เกิด...เป็นครูแม้มีจนต้องทนไป เกิด...เป็นครูถึงอย่างไรไม่ถ่ายโอน เกิด...เป็นครูขอยึดมั่นอยู่ที่เดิม เกิด...เป็นครูจะเสริมตัวใช่หัวโขน เกิด...เป็นครูอยู่ศึกษาอย่ามาโยน เกิด...เป็นครูไม่ขอโอนไปไหนเอย..................เกิด....เป็นครูในวันนี้ต้องต่อสู้ เกิด....เป็นครูในวันนี้ไม่หวั่นไหว เกิด....เป็นครูไม่ใช่ต้องทนไป เกิด....เป็นครูมีความคิดได้ใช่ตามกัน เกิด....เป็นครูไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เกิด....เป็นครูมีความรักต่อศิษย์มั่น เกิด....เป็นครูต้องต่อสู้ให้พร้อมกัน เกิด....เป็นครูตั้งมั่นไม่ถ่ายโอน................................สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด..................ยินดีต้อนรับเข้าสู่ don's blog ครับ

[Add ดนย์'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com