เสม็ด เดือนห้า ปี 52
เดือนห้าปีห้าสอง มีโอกาสได้หยุดงานเลยนัดกันเที่ยวทะเล จากตอนแรกเข้าหาห้องพักใน web เลือกแต่บ้านหลังใหญ่ 6-8 คน เพราะคาดว่าจะไปกันเยอะมาก แต่สุดท้ายแล้วไปกันจริงแค่ 3 คน แต่เราก็ยังยึดความตั้งใจเดิม (หลังจากล่มมาหลายงาน) ออกเดินทางสู่เกาะแก้วพิศดารกัน!!ออกเดินทางจากโคราช วิ่งเข้าเส้นปักธงชัย หลังจากข้ามเข้าปักก็แวะกินข้าวเช้าที่ปั้มบางจาก(ตาลแอบมาเปิดร้าน)กินข้าวกันที่ศูนย์อาหารในปั้มก๋วยเตี๋ยวน่ากินใช้ได้หรือจะเป็นข้าวกุนเชียงก็ OKขนาดมาเที่ยวก็ยังไม่ทิ้งงานนะเนี่ยหลังจากแวะกินข้าวแล้วเห็นร้านกาแฟ "My&Sons" ก็เลยขอลองสักแก้ว จากทางหลวงหมายเลข 331 ลองมาทางเส้น 3138 บรรยากาศรอบข้างมีสวนยางพาราแทบจะตลอดทาง ทำให้นึกถึงบรรยากาศตอนลงใต้ระหว่างทางเริ่มมีร้านขายทุเรียน ด้วยการออกเสียงเป็นเอกฉันท์ 2:1 เลยจอดแวะซื้อซะหน่อยแถมด้วยมะม่วงพันธุ์พระราชทานถึงท่าเรือ หาที่ฝากรถได้เลยครับ หากเป็นหน้าเทศกาลแนะนำหาที่พักจากที่ฝั่งจะดีกว่าครับ แต่ถ้าไม่ใช่หน้าเทศกาล ข้ามไปหาที่เกาะเลยครับ จะได้ดูห้องพักเลยหลังจากรอมานาน ได้ยินเสียงประกาส "ท่านที่มีตั๋วรอบ 11.30น. เชิญขึ้นเรือได้ครับ" ผู้โดยสารก็แห่กันรีบขึ้นเรือ อย่าว่าแต่คนไทยเลยครับ เดี๋ยวนี้ฝรั่งก็เป็นผู้โดยสารพร้อม!!1.นางแบบ2.ตากล้อง3.คนขับรถขอโทรเคลียร์งานกันอีกรอบบนเรือเห็น หนุ่ม?สาว? คู่นี้เลยแอบถ่ายมาครับ (ขอสงวนสิทธิ์ เบลอภาพครับ)หลังจากถึงเกาะแก้วพิศดารตามเป้าหมายแล้ว อยากไปอ่าวไหนก็หาสองแถวที่หน้าด่านได้เลยครับ เพียบ!!ส่วนเราตั้งใจไปอ่าววงเดือน อยู่ช่วงกลางๆของเกาะก็โดดขึ้นรถกันเลยหลังจากผ่านด่านที่อุทยานเรียบร้อยแล้ว พี่คนขับก็สวมหัวใจนักซิ่ง เหยียบคันเร่งซะมิดเลยมั้ง คนที่อยู่ข้างหลังก็อย่างที่เห็นเลยครับ ถ่ายได้สองภาพก็ตัดสินใจเก็บกล้องดีกว่า กลัวพัง!!ถึงอ่าววงเดือนแล้วก็เริ่มหาที่พักกันเลย แต่...โอ้โห เต็ม..เต็ม..เต็ม..แล้วก็..เต็ม ร้อนก็ร้อน ของก็หนัก notebook ที่กะว่าจะมานั่งเล่นนั่งทำงาน กลายเป็นส่วนเกินทันที ถ้าไม่ติดเสียดายคงขายไปแล้วสุดท้ายหาที่พักไม่ได้ต้องกลับมาที่เก่า "หาดทรายแก้ว" นั่นเองแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ หาที่พักจนได้ (กว่าจะได้ก็ท้อมาก จะกลับไปที่ฝั่งแล้วเชียว)เข้าที่พักได้ เก็บของ มุ่งสู่ทะเลที่รอคอยเล่นน้ำเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัว เตรียม have dinner ได้หน้าตาเลยสดใสอย่างนี้ลงมาถ่ายหน้าที่พักเป็นที่ระลึกแวะซื้อโรตีซะหน่อยมาถึงช่วงค่ำคืน กับแสงเดือน แสงเทียน ลมทะเล และทรายแก้ว นั่งกันชิวๆบนหาดปลาเผาหน้าตาแปลกๆ อันนี้สั่งมาชุดที่สองแล้ว จานแรกๆไม่ได้ถ่ายไว้เลยครับ เพราะหิวมาก นั่งกินกันไปถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ"ห้ามดื่มเกินวันสองขวด โปรดสังเกตุคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง"ขอแนะเพิ่มเติมครับ จากที่คุยกันภายในกลุ่ม ลงความเห็นว่าร้าน พลอยทะเล น่านั่งกว่าครับ เพราะร้านที่นั่งอยู่นั้น เด็กเสริฟน้อยครับ จะสั่งอะไรทีก็รอนานมาก คงเพราะนั่งอยู่ไกลด้วยส่วนร้านพลอยทะเล มีการแสดงให้ชมกันด้วยครับเด็กฝรั่งโต๊ะข้างๆครับ เห็นเค้าควงไฟกันเลยขอทำมั่งวันต่อมาก็มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย กับมุมยอดฮิตของที่นี่ แล้วก็ถึงคราวนางแบบประจำทริปขอโดดมั่งช่วงบ่ายแก่ๆก็ได้เวลากลับแล้ว น่าอิจฉาคนอื่นได้หยุดกันต่อ .....ขากลับเปลี่ยนเส้นทางเป็นเส้นทางหลวงหมายเลข 344 แวะอนุเสาวรีย์สุนทรภู่กันนางฟ้าทักทายนางยักษ์ใกล้เย็นแล้ว ขอแวะกินอาหารทะเลให้หายอยาก เลยมาแวะหาดแม่รำพึงขอบอกว่าอาหารทะเลที่นี่สดจริงๆ ราคาไม่แพง แต่พลาดอย่างนึงคือ ไม่น่าส่งคนหิวไปซื้อเลยจริงๆ เห็นอะไรก็สั่งหมด สุดท้ายเหลือห่อกลับบ้านขากลับระหว่างทางเห็นป้ายร้านกาแฟ "กาแฟบ้านสวน" เลยขอแวะสักหน่อยใกล้มืดแล้วแต่ยังไม่ถึงไหนเลย ต้องรีบซะแล้ว ต้องรีบกลับไปดูแจ๋วใจร้ายใกล้ถึงเขาปัก เจออุปสรรคจนได้ เพราะฝนตกมาหนักมากๆ มองทางแทบไม่เห็น ต้องขอชมคนขับรถ (ก็เจ้าของรถนั่นแหละ) ที่ใช้ทักษะการขับบวกกับที่ฝึกมาก่อนใน Need for Speed ก็สามารถฝ่ากลับมาได้อย่างปลอดภัยสุดท้ายก็กลับมาถึงโคราช พบกันใหม่ทริปหน้าครับ หวังว่าจะไปกันเยอะกว่านี้นะ
แต่เราก็ยังยึดความตั้งใจเดิม (หลังจากล่มมาหลายงาน) ออกเดินทางสู่เกาะแก้วพิศดารกัน!!
(ขอสงวนสิทธิ์ เบลอภาพครับ)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [