ตอนนี้ใช้เวลาเขียนนานที่สุด เขียนได้ย่อหน้านึง ก็ไม่ว่างอีกและ ต่อเลยนะครับ

หลังจากวันแรกไปเดินซื้อของกะดูหนังแล้ว วันที่สองนี้สำมะคัญมาก ต้องสำรวจ อย่างอื่นพลาดได้ แต่เรื่องแบบนี้พลาดไม่ได้ ร้านขายอาหารนั่นเอง โดยวิธีเดิน หรือถ้าไกลหน่อยก็นั่งรถสองแถวสีแดง ตอนนั้นยังไม่มีมอไซค์ เพราะมีพี่ชายที่ยังเรียนไม่จบอีก 2 คน พ่อแม่และพี่สาวก็ช่วยกันส่งเรียน สงสารเค้า อันไหนประหยัดได้ก็ประหยัด

สำรวจในมช.ก่อน หอ 4 ชาย มีอาหารตอนเช้ากะกลางวัน เย็นถึงแค่ 6 โมงเย็น ข้าวพอกินได้ แต่ลูกสาว ขาว หมวย เลยอ่ะ เรียกลูกค้าผู้ชายได้เยอะ เรียนที่ไหนไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ มช.

หอ 5 ชาย อยู่ติดกัน(ถ้าผิดขออภัยโตย) มีก๋วยเตี๋ยวถึงประมาณ 3-4 ทุ่ม

อาคาร สมช.มื้อเช้า กลางวัน เย็น

ฝายหิน มีอาหารตอนเย็นและกลางคืน แหล่งรวมนักศึกษา อิ อิ ต้องไปช่วงต้นเดือน เงินยังเหลือ หรือรอรุ่นพี่เลี้ยง

หน้า มช.ร้าน โบ๊ท เป็นตำนานของมช.ไปแล้ว ร้านนี้เน้นบรรยากาศ แต่ถ้าอยากกินข้าวอิ่ม พร้อมอาหาร ต้องร้านตรงข้ามทางเข้า มช. (จำชื่อร้านไม่ได้และ)

หลังมช.ร้านอาหารก็เยอะ ชอบกินเย็นตะโฟ ศรีพิงค์อ่ะ หย่อยมาก ไม่ต้องปรุง คนขายจำแม่นมาก น่าจะมาเรียนหมอนะ สงสัยได้เกียรตินิยมแน่ๆ เหอๆๆ มีอีกร้านขายอาหารตอนกลางคืน อยู่ตรงคณะทันตะ จำชื่อไม่ได้แล้ว

สรุปว่าเยอะมากไม่ต้องกลัวอดตาย ถ้ามีเงิน อิ อิ แต่เราต้องวางแผนดีๆ เพราะไม่มีมอไซค์ แต่อยู่ไปสักพัก เพื่อนเริ่มเยอะขึ้น ก็อาศัยมอไซค์คนอื่น ประโยคยอดฮิตของเด็กต่างถิ่นคือ.............ไปโตย.............. อิ อิ ขออาศัยรถคนอื่นนั่นแหละ

ชีวิต ปี 1 ทำไมมันอิสระอย่างนี้นะ จะเรียนก็ได้ไม่เรียนก็ได้ไม่มีใครบังคับ แต่เราก็ต้องพยายามเรียนให้ครบ แต่ lab นี่ขาดไม่ได้นะเดี๋ยวตก ที่นี้อย่างที่รู้กันกิจกรรมน้องใหม่มันเยอะจัง ทั้งรับน้องมหา’ลัย รับน้องคณะ รับน้องจังหวัด(ไม่เกียวกับเรา อิ อิ) พี่รหัสเลี้ยง ซ้อมเชียร์ ชมรมต่างๆ โอ๊ย เยอะไปหมด ตอนเรียมมัธยมก็ทำกิจกรรมบ้าง แต่ไม่มาก มาอยู่มหา’ลัย ก็ขอซักหน่อย อยู่ไปซะเกือบ 6 ชมรม แทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือ กลับถึงที่พักก็นอน หนังสือแทบไม่ได้อ่าน ส่วนเที่ยวกลางคืนสำหรับผมไม่มีอยู่แล้ว(เพราะไม่มีเงินเที่ยว อิ อิ)

ถึงตอนสอบทีนึงอุจจาระแตกอุจจาระแตน ไล่อ่านหนังสือไม่ทัน อ่านไม่เคยจบ เกรดเฉลี่ยเทอมแรกได้ 2.34 sad อย่างแรง ได้ C เกือบหมด มีวิชาเลือกที่ได้ B เรียนมัธยมมาเกรดไม่เคยต่ำกว่า 3.00 ปกติตอนเรียนมัธยม ผมจะมีวินัยในการเรียนพอสมควร เล่นฟุตบอลตอนเย็นเสร็จ อ่านหนังสือวันละ 1-2 ชั่วโมง นอน 4 ทุ่ม เป็นอย่างนี้ตลอด แต่ชีวิตปี 1 มันอิสระ เสียวินัยหมดเลยครับ ดีที่วิชา ปี 1 แทบไม่มีบทบาทในวิชาแพทย์เท่าไหร่

ถึงเทอม 2 จัดระเบียบการเรียนใหม่ ทำกิจกรรมพอสมควร แต่เล่นกีฬานี่ไม่เคยขาด ได้เกรดเฉลี่ย 2.9 กว่าๆนี่แหละ วิชาบังคับส่วนใหญ่ได้ B วิชาเลือก (Econ 100 จำได้) ได้ A วิชาบังคับตัวนึงได้ C ปกติตัวนี้ใครได้ A ก็เก่งอ่ะ ได้กันแค่ 5-6 คนเอง ช่วงปิดเทอมวิชาแพทย์ไม่มี summer ใครลง summer ก็คือซ่อม หยุดตั้ง 3 เดือน เพื่อนชวนไปเที่ยวก็ไม่ได้ไป(ไม่มีเงิน อิ อิ) เฮ่อ อยากไปเที่ยวจัง แต่ต้องประหยัดเงินไว้ก่อน ยังเรียนอีกตั้ง 5 ปี ตกลงก็ต้องกลับไปช่วยพ่อแม่ขายของที่บ้าน

ช่วงเทอม 2 รู้จักเพื่อนต่างคณะมากขึ้น ชั้นที่ผมอยู่มีกะเทย อยู่ 2 คน เวลาอาบน้ำเค้าจะนุ่งผ้าแบบผู้หญิง เพื่อนแถวห้องใกล้ๆเค้ามักจะแกล้ง เช่นแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ก็จะไปดึงมาบ้าง ตะโกนว่าแอบดูบ้าง สนุกสนานกันเหลือเกิน แต่ไม่รู้ว่ากะเทยจะสนุกด้วยรึเปล่า

เทอม 2 มีเรื่องสนุกเยอะ เพื่อนผมที่เรียนเก่งมากคนนึง ชอบหาอะไรแปลกๆทำ ก็ได้ชักชวนเพื่อนประมาณ 7-8 คนมาเล่นผีถ้วยแก้ว

ผมก็ไปเล่นกะเค้าด้วย โดยจะเปิดหนังสือพิมพ์หาข่าวคนที่ตายโหง แล้วจุดธูปอัญเชิญวิญญาณให้เข้ามาอยู่ในถ้วย ตอนวางนิ้วมือบนถ้วยทั้ง 4 คน ก็งงว่าถ้วยเดินได้ยังไงฟะ ไปเรื่อยๆ หรือทุกคนพร้อมใจกันดัน ไม่เข้าใจเหมือนกัน ที่สำคัญห้ามเอามือออกก่อนที่ธูปจะหมด หรือเชิญให้ออก ไม่ยังงั้นวิญญาณจะเข้าสิง เพื่อนผมที่ชวนเล่นบอกอย่างนั้น เล่นกันตั้งแต่ 4 ทุ่ม ยัน ตี 4 มีอยู่อันนึงครับ ไม่ยอมออก ทำยังไงก็ไม่ยอมออก พวกเรานี้หน้าซีดกันหมด เพื่อนผมคนนึงทนไม่ไหว ตัดสินใจเอามือออก เหมือนมีควันออกจากถ้วย วงแตกเลยครับ ทุกคนต่างรีบวิ่งกันกลับห้อง นอนคลุมโปง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ไม่กล้าเล่นผีถ้วยแก้วกันอีกเลย

Create Date : 02 กรกฎาคม 2552
Last Update : 2 กรกฎาคม 2552 23:09:08 น.		5 comments
Counter : 592 Pageviews.
Share Tweet